💬 “ทรัมป์ผิดหวังหลังคุยปูติน” — แรงสั่นสะเทือนจากสายโทรศัพท์ที่อาจเขย่าโลก
🇺🇸 Trump ‘Disappointed’ with Putin After Call — A Short Talk, a Long Shadow
📌 จุดเริ่มต้นของความผิดหวัง: ทรัมป์–ปูติน คุยน้อยแต่แรงสะเทือนมาก
📞 เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าเขา "ผิดหวัง" กับบทสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปูตินปฏิเสธข้อเสนอให้หยุดยิงในยูเครน
ทรัมป์กล่าวชัดว่า “ผมไม่คิดว่าเขาอยากหยุดจริงๆ และนั่นแย่มาก” ขณะที่เครมลินกลับอ้างว่าผู้นำทั้ง 2 “เข้าใจกันดี”
⏳ สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า ความพยายามของทรัมป์ในการกลับมามีบทบาทระดับโลกอาจเผชิญกับแรงต้าน แม้กระทั่งจากผู้นำที่เคยมีความสัมพันธ์เชิงมิตรภาพในอดีตอย่างปูติน ซึ่งครั้งนี้กลับไม่เล่นตามเกม
💥 สงครามยังไม่จบ: โดรนรัสเซียถล่มเคียฟทันทีหลังคุยจบ
ไม่กี่ชั่วโมงหลังสายโทรศัพท์นั้น รัสเซียได้ส่งโดรนโจมตีอพาร์ตเมนต์ในเคียฟ และมีรายงานการระเบิดและยิงกันในใจกลางเมือง
ยูเครนระบุว่า โจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธมากถึง 550 ลูกในคืนเดียว ซึ่งถือเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่เริ่มสงคราม
📌 สัญญาณนี้อาจตีความได้ว่า ปูตินต้องการแสดงพลังคุมเกมมากกว่าที่จะเจรจาสันติภาพ
📉 วิเคราะห์ผลกระทบเชิงสร้างสรรค์: โลกกับความตึงเครียดที่ไม่จบง่ายๆ
การคุยล้มเหลวของทรัมป์–ปูตินครั้งนี้ อาจยิ่งทำให้แนวโน้มของสงครามลากยาว และผลักดันให้ NATO กับพันธมิตรตะวันตกต้องเข้มงวดมากขึ้น ทั้งในแง่ยุทโธปกรณ์และพลังงาน
👉 ประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะไทย จะต้องรับมือกับแรงกระเพื่อมของต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ไม่แน่นอน และแรงกดดันด้านความมั่นคงไซเบอร์จากความตึงเครียดโลก
📈 วิเคราะห์ “Ripple Effect” ต่อหุ้นในตลาดไทยอย่างละเอียด
✨ พลังงาน (Energy):
หากสงครามยืดเยื้อและการคว่ำบาตรพลังงานรัสเซียเข้มข้นขึ้น ราคาน้ำมันและก๊าซในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นทันที หุ้นไทยในกลุ่มนี้จึงมีโอกาสปรับตัว เช่น
🔸 ABM (เอเชีย ไบโอแมส) — ทำธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวล อาจได้อานิสงส์จากการผลักดันพลังงานทางเลือก
🔸 ACE (แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้) — โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด เป็นทางเลือกสำคัญของโลกที่หลีกเลี่ยงแหล่งพลังงานจากรัสเซีย
🔸 BCP (บางจาก คอร์ปอเรชั่น) และ PTT (ปตท.) — ได้ประโยชน์ตรงจากราคาน้ำมันขาขึ้น
✨ ความมั่นคง–โลจิสติกส์ (Defense/Logistics):
ความไม่แน่นอนด้านความมั่นคงจะหนุนให้ประเทศต่างๆ เพิ่มงบประมาณการป้องกันและขนส่งยุทโธปกรณ์
🔸 CHO (ช ทวี) — ผลิตรถขนส่งพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการทหารและฉุกเฉิน
🔸 WICE (ไวส์ โลจิสติกส์) — อาจรับงานลอจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งอาวุธหรือชิ้นส่วนเทคโนโลยี
✨ เทคโนโลยี–การสื่อสาร (Telecom):
การโจมตีด้วยโดรนและภัยไซเบอร์บ่อยขึ้น ทำให้ความต้องการอุปกรณ์สื่อสารปลอดภัยและดาวเทียมพุ่งสูง
🔸 INSET (อินฟราเซท) — มีบทบาทในระบบโครงข่ายความปลอดภัยและ Data Center
🔸 3BBIF (กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต สามบีบี) — โครงสร้างพื้นฐานสื่อสารมีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์ระดับชาติ
🌐 ไทยควรเตรียมอะไรต่อ?
แม้ไทยไม่ได้อยู่ในสมรภูมิ แต่แรงกระเพื่อมจาก “โทรศัพท์สายเดียว” ของผู้นำโลกอาจสร้างผลกระทบระดับมหภาค เช่น ดอกเบี้ยผันผวน การค้าชะลอตัว หรือแม้แต่การเร่งปรับตัวของกองทัพและระบบโลจิสติกส์ของไทยเอง
โอกาสก็มีเช่นกัน — ธุรกิจไทยที่พร้อมตอบสนองต่อพลังงานสะอาด เทคโนโลยีความปลอดภัย และระบบคลังสินค้าจะมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลกยุคใหม่
🗣️ แล้วคุณล่ะ? คิดว่าโลกจะก้าวไปทางไหน หากผู้นำมหาอำนาจไม่ “มองไปในทางเดียวกัน”?
แสดงความคิดเห็นของคุณกับเราได้เลยค่ะ 💬🌏
🪄 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#TrumpVsPutin #สงครามยูเครน #SuperpowerStage #ภูมิรัฐศาสตร์โลก #หุ้นไทย #การทูตระดับโลก #ตลาดหุ้นไทย #ข่าวการเมืองโลก #วิเคราะห์หุ้น #StockScope
📎 Reference: The Telegraph
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
