4 ก.ค. เวลา 12:14 • ข่าวรอบโลก

🛫 อิหร่านกลับมาเปิดฟ้าอีกครั้ง: หลัง 20 วันแห่งความเงียบงัน ท่ามกลางเงื่อนไขการเมืองโลก

Iran resumes international flights after a 20-day suspension
📍 “ฟ้าเปิดอีกครั้ง” ที่เตหะราน — จุดเริ่มต้นของเสถียรภาพ หรือแค่เงียบก่อนพายุ?
อิหร่านกลับมาเปิดการบินระหว่างประเทศแล้ว หลังระงับยาวถึง 20 วันจากความตึงเครียดกับอิสราเอล โดยเที่ยวบินแรกที่ลงจอดยังสนามบินนานาชาติอิมามโคมัยนี (Imam Khomeini International Airport) คือสายการบิน Flydubai จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกที่ชัดเจนว่าอิหร่านพยายามส่งสัญญาณ “ความพร้อม” และ “เสถียรภาพ” กลับสู่เวทีโลกอีกครั้ง
โฆษกขององค์การการบินพลเรือนอิหร่านเผยว่า การกลับมาเปิดฟ้าในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังการประสานงานด้านความมั่นคงและการทูตอย่างเข้มข้น พร้อมย้ำว่าท้องฟ้าอิหร่านจะค่อยๆ กลับสู่ภาวะปกติอีกครั้งในระยะถัดไป
🌏 สำหรับผู้ติดตามข่าวการเมืองโลก นี่คือ “สัญญาณ” ว่าอิหร่านอาจเข้าสู่โหมดยืดหยุ่นทางยุทธศาสตร์มากขึ้น เพื่อบรรเทาผลกระทบเชิงเศรษฐกิจจากการคว่ำบาตร และฟื้นฟูการท่องเที่ยวและการลงทุนระหว่างประเทศ
🔍 ผลสะเทือนเชิงบวกถึงไทย: ช่องทางค้าขายและท่องเที่ยวในตะวันออกกลางเริ่มขยับ
การกลับมาเปิดเส้นทางบินของอิหร่าน อาจเป็นตัวเร่งให้สายการบินในภูมิภาคกลับมาเชื่อมต่ออีกครั้ง โดยเฉพาะในเส้นทาง “ตะวันออกกลาง–เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ที่นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวจำนวนมากใช้เป็นทางผ่าน
หากการบินผ่านน่านฟ้าอิหร่านปลอดภัยอีกครั้ง จะช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนของสายการบินไทยและต่างชาติในเส้นทางยุโรป–เอเชีย เช่น
🎯 AAV (เอเชีย เอวิเอชั่น) ผู้ถือหุ้นหลักของ Thai AirAsia อาจได้ประโยชน์หากเส้นทางบินไปตะวันออกกลางและยุโรปกลับมาเปิดได้เต็มรูปแบบ และช่วยให้แผนขยายเส้นทางใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น
🎯 BA (การบินกรุงเทพ) ที่มีพันธมิตรในภูมิภาคเอเชีย หากความร่วมมือกับสายการบินต่างประเทศกลับมาคึกคัก อาจช่วยเสริมรายได้จากเที่ยวบินต่อเชื่อม
🎯 THAI (การบินไทย) ซึ่งมีเที่ยวบินตรงไปยุโรปและตะวันออกกลางจำนวนมาก การเปิดน่านฟ้าอิหร่านจะช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงและเวลาเดินทาง
💥 “Ripple Effect” ถึงธุรกิจไทย: น้ำมัน โลจิสติกส์ สินค้าไทยในตะวันออกกลาง
การกลับมาของเที่ยวบินต่างประเทศในอิหร่าน ยังส่งผลในวงกว้างต่อกลุ่มธุรกิจอื่นๆ เช่น
🌐 WICE (ไวส์ โลจิสติกส์) และ
🌐 III (ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์) ที่ให้บริการโลจิสติกส์ข้ามแดน อาจเห็นการเพิ่มขึ้นของคำสั่งส่งสินค้าในเส้นทางตะวันออกกลาง–เอเชีย
🛢️ กลุ่มพลังงาน เช่น
🔥 PTT (ปตท.) และ
🔥 TOP (ไทยออยล์) หากสถานการณ์ในอิหร่านเข้าสู่เสถียรภาพ อาจช่วยลดแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน และลดความเสี่ยงด้าน supply chain ทั่วโลก
🛍️ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการส่งออกไปยังตลาดตะวันออกกลาง เช่น
📦 TKN (เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง) และ
📦 OSP (โอสถสภา) อาจได้รับแรงส่งเชิงจิตวิทยาบวก หากการค้าข้ามประเทศมีแนวโน้มคล่องตัวขึ้นอีกครั้ง
🧠 มิติทางภูมิรัฐศาสตร์: ความเงียบนี้จะยาวนานหรือไม่?
แม้จะมีการกลับมาเปิดน่านฟ้า แต่ต้องไม่ลืมว่า “ความสงบในตะวันออกกลาง” มักเป็นเพียงระยะสั้น หากมีการยั่วยุหรือการเปลี่ยนผู้นำทางการเมือง ความตึงเครียดอาจกลับมาอีกครั้งได้ทุกเมื่อ
การที่สหรัฐฯ ต้องแทรกแซงด้วยการใช้ระเบิด “Bunker-Busting” น้ำหนัก 30,000 ปอนด์กับเป้าหมายหลักในอิหร่าน สะท้อนว่าความเสี่ยงเชิงโครงสร้างยังไม่หายไป
📈 จับตาตลาดหุ้น: นักลงทุนไทยควรบริหารพอร์ตด้วยมุมมองเชิงกลยุทธ์
ในระยะสั้น ตลาดหุ้นอาจตอบรับเชิงบวกจากข่าวนี้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มโลจิสติกส์ สายการบิน และพลังงานที่มีการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ
แต่ในระยะยาว ควรจับตาการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงในท่าทีของสหรัฐฯ อิสราเอล และพันธมิตรต่างๆ ต่ออิหร่านอย่างใกล้ชิด
💬 แล้วคุณล่ะ คิดว่า “ความเงียบของอิหร่าน” ครั้งนี้คือสัญญาณของความเปลี่ยนแปลง หรือแค่บทนำก่อนสงครามรอบใหม่?
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้เลยในทุกมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยกันนะคะ 👇
🏷️ Hashtags:
#เวทีมหาอำนาจ #Geopolitics #สายการบิน #Iran #Flydubai #ภูมิรัฐศาสตร์ #ข่าวโลก #ตลาดหุ้นไทย #SET #หุ้นการบิน #หุ้นโลจิสติกส์ #หุ้นพลังงาน #หุ้นส่งออก
#WorldScopeOriginal #SuperpowerStage
📚 Reference: ABC News

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา