📝 หัวหน้าที่ดี ไม่ใช่แค่ 'เก่งงาน' แต่ต้อง 'เก่งคน'
(บทเรียนที่หัวหน้าที่ทีมอยากอยู่ด้วย...มีเหมือนกัน)
👤 หัวหน้า ไม่ใช่ตำแหน่ง แต่คือบทบาทที่ทุกคนเคยสวม
เราไม่จำเป็นต้องมีลูกน้องเป็นสิบ หรือมีคำว่า 'Manager' ต่อท้ายชื่อ ถึงจะเข้าใจความท้าทายของการเป็น "หัวหน้า"
เพราะในความจริง—เราทุกคนเคยเป็นหัวหน้ามาแล้วทั้งนั้น
* หัวหน้าโปรเจกต์ที่ไม่มีอำนาจแต่ต้องพาเพื่อนไปถึงเส้นชัย
* หัวหน้าแม่บ้านที่บ้าน ที่ต้องคิดเผื่อ ดูแล และรับผิดชอบทุกอย่าง
* หรือบางครั้ง...ก็แค่การเป็นหัวหน้าให้กับ "ตัวเราเอง" ในวันที่ไม่อยากลุกจากเตียง
หัวหน้า คือบทบาทที่ไม่ได้วัดจากตำแหน่ง แต่วัดจาก "พฤติกรรม" ที่คนรอบตัวรู้สึกได้
และในโลกการทำงานยุคนี้—ที่คนไม่ได้ลาออกจากบริษัท...แต่ลาออกจากหัวหน้า เราจึงต้องกลับมาคิดใหม่ว่า
“หัวหน้าที่ดี…หน้าตาเป็นแบบไหนกันแน่?”
* หัวหน้าที่ดีไม่ใช่แค่คนที่สั่งงานเก่ง หรือมีวิสัยทัศน์ไกล แต่คือคนที่สามารถสร้าง "ความไว้ใจ" ให้เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความผันผวนของการทำงานจริง ที่มีทั้งเดดไลน์ ความผิดพลาด ความกดดัน และอารมณ์คนหลากหลายรูปแบบปะปนกันในทุกวัน
====
🏗️ หัวหน้าที่ดี ไม่ใช่คนที่รู้ทุกเรื่อง...แต่คือคนที่ไม่หนีเวลาทีมพลาด
คนที่เป็นหัวหน้ามาก่อนจะเข้าใจว่า หนึ่งในบททดสอบสำคัญของผู้นำ ไม่ใช่แค่การพาทีมไปถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุด แต่คือ "การยืนอยู่ตรงนั้น" ในวันที่ทีมผิดพลาด ในวันที่งานล่ม หรือแม้แต่ในวันที่ลูกน้องพลาดซ้ำ และรู้สึกผิดกับตัวเองมากพออยู่แล้ว
หัวหน้าที่ดีจึงไม่ใช่แค่คนที่ยืนบนเวทีในวันสำเร็จ แต่เป็นคนที่กล้ายืนอยู่ข้างๆ ทีมในวันที่ไม่มีใครอยากอยู่
ผมขอแบ่งคุณสมบัติของหัวหน้าที่ดีออกเป็น 4 กลุ่ม เพื่อสะท้อนว่า การเป็นผู้นำ ไม่ใช่แค่เรื่องของทักษะการจัดการหรือการบริหาร แต่คือการมี "ความเข้าใจมนุษย์" ในหลากหลายมิติ ตั้งแต่ความเข้าใจตนเอง ไปจนถึงการสร้างวัฒนธรรมที่คนอยากอยู่ด้วย
====
🔧 กลุ่มที่ 1: หัวหน้าที่มั่นคงภายใน (Self-Leadership)
* “ไม่ต้องเก่งทุกเรื่อง แต่กล้ายอมรับว่าไม่รู้” - เพราะการยอมรับว่าเราไม่รู้บางเรื่อง คือจุดเริ่มต้นของความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่จุดจบของศักดิ์ศรี
* “เขานิ่งพอจะฟัง และหนักแน่นพอจะไม่โยนความผิด” - หัวหน้าที่ดีไม่ใช่คนที่แก้ปัญหาเก่งที่สุด…แต่คือคนที่นิ่งพอให้ทีมตั้งหลักได้ในวันที่ทุกคนสติแตก
* “เขาขอโทษเมื่อทำพลาด...โดยไม่แก้ตัว” - หัวหน้าที่กล้าขอโทษ คือคนที่ทีมอยากช่วยให้กลับมายืนได้เร็วที่สุด เพราะนั่นแสดงว่าเขาแคร์ทีมมากกว่าหน้าตาตัวเอง
* “เขาไม่สั่นไหวเมื่อโดนนินทา และไม่หูเบาเมื่อใครมาเล่า” - เขาหยุดข่าวลือที่ตัวเอง ไม่ขยายวงให้มันใหญ่ขึ้น และมองเห็นว่าอะไรควรให้ความสนใจ อะไรควรปล่อยผ่านอย่างมีวุฒิภาวะ
* “เขาไม่ได้ยึดเก้าอี้ แต่ยึดความหมายของตำแหน่ง” - เขาใช้ตำแหน่งให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช่ให้คนเคารพโดยไม่ตั้งคำถาม เพราะเขาเชื่อว่า "ความไว้ใจต้องได้มา ไม่ใช่บังคับให้มี"
====
🤝 กลุ่มที่ 2: หัวหน้าที่เข้าใจคน (Relational Empathy)
* “เขาถามก่อนจะสอน และฟังจริงจังก่อนตัดสิน” - หัวหน้าที่ฟัง = หัวหน้าที่เราไว้ใจ และการฟังที่ดีมากพอ จะทำให้คำพูดน้อยๆ ของหัวหน้าในตอนท้าย กลายเป็นแรงบันดาลใจที่พอดีเสมอ
* “เขาไม่เคยขโมยผลงานลูกน้อง แม้จะพูดง่ายกว่าเยอะก็ตาม” - "ขอพูดแทนทีม" กับ "แย่งเครดิต" ห่างกันแค่คำเดียว แต่รู้สึกคนละเรื่อง และลูกน้องทุกคนแยกแยะออกเสมอ
* “เขาเปิดประตูให้เราเข้ามาคุยได้ แม้เป็นเรื่องที่เราผิดเอง” - และเขาไม่เคยทำให้เรารู้สึกว่า…แค่เข้ามาเล่า = จะโดนซ้ำ เขารู้ว่าความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่การไม่กล้าพูดต่างหากที่อันตรายกว่า
* “เขาให้เกียรติ แม้ในวันที่เราไม่เป็นตัวเอง” - เพราะเขาเชื่อว่า คนทุกคนควรได้รับโอกาสอีกครั้ง มากกว่าการถูกตัดสินจาก snapshot แค่วันเดียว และเขามองเห็นความพยายามมากกว่าข้อผิดพลาด
* “เขาไม่สร้างศัตรูในทีม ด้วยการลำเอียงหรือเลือกข้าง” - คนแบบนี้รักษาทีมได้นาน เพราะไม่มีใครรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่าหรือไร้เสียง และการให้พื้นที่เท่ากันคือจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมที่เท่าเทียม
* “เขาชมอย่างจริงใจ และติเพื่อให้เราโต—not โชว์เหนือ” - หัวหน้าที่ติแบบอยากให้เราดีขึ้น ไม่ใช่แค่แสดงว่าเขารู้เยอะกว่าเสมอ และคำชมของเขาจะไม่มากไปหรือน้อยไปจนเสียสมดุล
* “เขาเข้าใจว่าการบริหาร = ต้องรู้จักคน ไม่ใช่แค่รู้จักงาน” - บางคนต้องให้พื้นที่ บางคนต้องให้แรงส่ง…เขารู้เพราะเขาใส่ใจ และปรับวิธีนำตามคน ไม่ใช่ใช้สูตรเดียวกับทุกคน
====
🚀 กลุ่มที่ 3: หัวหน้าที่เป็นผู้นำทีม (Team Leadership & Accountability)
* “เขาแบกรับ เมื่อทีมพลาด แม้จะไม่ได้เป็นคนทำโดยตรง” - เพราะเขาเชื่อว่า ความผิดเป็นของระบบ แต่ความไว้ใจต้องเริ่มที่ผู้นำ และเขาพร้อมยืนหน้าเวทีเพื่อทีมเสมอ
* “เขาสร้างพื้นที่ให้คนเก่งเติบโต แม้จะเก่งกว่าตัวเขาเอง” - หัวหน้าที่ไม่กลัวลูกน้องเก่งกว่า คือคนที่สร้างองค์กรโตได้จริง และเขาภูมิใจกับการได้สร้างอนาคต ไม่ใช่การได้เป็นคนเดียวที่รู้ทุกเรื่อง
* “เขาไม่ใช่คนพูดเยอะ แต่ทำให้คนรู้สึกปลอดภัยได้เสมอ” - คนแบบนี้...บางทีไม่ต้องพูดเลย ก็รู้ว่าเขาอยู่ข้างเรา เพราะพฤติกรรมของเขาชัดเจนกว่าคำพูดใดๆ
====
🌱 กลุ่มที่ 4: หัวหน้าที่สร้างวัฒนธรรม (Culture Builder)
* “เขารู้ว่า ความสนุก ก็เป็นเรื่องงานเหมือนกัน” - เพราะคนไม่สนุกกับงาน ไม่มีวันทุ่มสุดใจให้ทีม และเขารู้ว่าบางครั้ง การหัวเราะด้วยกัน ก็คือวิธีเยียวยาที่ดีที่สุดในวันที่หนักหนา
* และสุดท้าย— “เขาไม่ได้สร้างแค่ผลงาน…แต่เขาสร้าง 'คน'” - เพราะหัวหน้าที่ดี ไม่ใช่คนที่เก่งคนเดียว แต่คือคนที่ทำให้รอบตัวเก่งขึ้นทุกวัน และเขาวัดความสำเร็จจากการที่ทีมก้าวไปได้ไกลกว่าเดิม แม้ไม่มีเขาอยู่แล้ว
====
📌 หัวหน้าที่ดีไม่ใช่คนที่พูดว่า "ฉันอยู่ตรงนี้เพื่อคุณ"...แต่คือคนที่ “ยังอยู่ตรงนั้น” แม้ตอนที่เราไม่สมบูรณ์แบบที่สุด
ถ้าคุณเป็นหัวหน้า แล้วรู้สึกว่าทำได้ไม่ครบทุกข้อ—ไม่เป็นไรเลยครับ เพราะการเป็นหัวหน้าที่ดี ไม่ได้เกิดจากการทำถูกทุกครั้ง
แต่มันเกิดจากการ "ไม่หนี" เวลาทำพลาด…
และ "ไม่หยุด" เวลารู้ว่าตัวเองยังดีไม่พอ…
เพราะสิ่งสำคัญไม่ใช่การทำได้ทุกข้อ แต่คือการตั้งใจจะเป็นหัวหน้าที่ดีขึ้นในทุกวัน...และไม่เคยปล่อยให้ใครต้องเดินลำพัง…
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#หัวหน้าคน
#ภาวะผู้นำยุคใหม่
#LeadWithHeart
#TeamBeforeTitle
#LeadershipThatBuildsPeople
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
