Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Mr.D
•
ติดตาม
4 ชั่วโมงที่แล้ว • ประวัติศาสตร์
🧍ลุงข้วย เพื่อนรัก ป๋าเปรม
📽️Cr.คมชัดลึก
♨️เผยชีวิต"ลุงข้วย" เพื่อนรัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ วัย 85 ปี รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เคยปั่นรถจักรยานไปส่งกันที่โรงเรียน กลับมากินข้าวเที่ยงที่วัดดอนรักด้วยกัน
แต่เวลาทำให้ต้องแยกย้ายกัน คนหนึ่งขึ้นมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ จนได้ดิบได้ดีเป็นนายกรัฐมนตรี แต่อีกคนหนึ่งไปทำงานรับจ้าง และถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ 7 ปี ก่อนปลดประจำการ หันมายึดอาชีพถีบสามล้อ ปลื้มใจสุดขีดเมื่อได้มีโอกาสถีบสามล้อให้เพื่อนรักนั่งสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี และแม้จะได้ดิบได้ดีก็ไม่ลืมคนที่ไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์
🏫เปิดปูมชีวิตชายสูงวัยเพื่อนสนิทของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐบุรุษ มาตั้งแต่เด็กสมัยเรียนหนังสือ แล้วชะตาชีวิตลิขิตให้ยึดอาชีพถีบสามล้อรับส่งผู้โดยสาร อยู่ใน ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา และได้มีโอกาสถีบสามล้อให้เพื่อนรักอย่าง พล.อ.เปรมนั่งทุกครั้งที่ท่านเดินทางมาสงขลา แต่ทุกวันนี้อายุของเพื่อนสนิทก็ปาเข้าไป 85 ปีแล้ว จึงเลิกอาชีพถีบสามล้อ
🧍นายข้วย พุทธปาน หรือลุงข้วย ปัจจุบันมีอายุ 85 ปี ซึ่งมีอาชีพถีบสามล้อรับจ้างในต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา ได้ย้อนอดีตให้ฟังว่า เกิดปีเดียวกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ตอนที่รู้จักกับ พล.อ.เปรมตอนนั้น พล.อ.เปรมอายุก็ประมาณ 7 ขวบ ที่ได้รู้จักกันเพราะบ้านอยู่ติดกับบ้าน พล.อ.เปรม จึงลอดรั้วมาเล่นกันทุกวัน บางวันลอดรั้วไปเล่นบ้านอดีตนายกฯ และบางวันอดีตนายกฯ ลอดรั้วมาเล่นบ้านตน ปัจจุบันบ้านของพล.อ.เปรมเป็นโรงแรมควีนส์อยู่ใจกลางเมืองสงขลา หรือบริเวณใกล้สี่แยกเรือนจำเก่านั่นเอง
💢 "ตอนเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ลุงเรียนอยู่ที่โรงเรียนประชาบาล ซึ่งปัจจุบันคือโรงเรียนวิเชียรชม จ.สงขลา ตอนนั้นลุงอายุประมาณ 11-12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.3 แต่ท่านคงเรียนอยู่ระดับมัธยม เนื่องจากลุงเข้าเรียนช้ากว่า ลุงจำได้ว่า คุณพ่อท่านได้ซื้อรถจักรยานให้ 1 คัน เมื่อท่านมีจักรยานไปไหนท่านจะชวนลุงไปด้วย ลุงทำหน้าที่ปั่นจักรยานไปส่ง ส่วนมากจะไปส่งที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ แล้วท่านให้ลุงปั่นจักรยานกลับไปที่โรงเรียนประชาบาล
♨️ พอตอนเที่ยงลุงก็ปั่นไปรับท่านที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ นำท่านกลับไปรับประทานข้าวเที่ยงที่บ้าน ลุงก็อิ่มไปด้วยเพราะได้กินข้าวที่บ้านของท่าน โดยไม่ต้องลอดรั้วกลับบ้าน หลังรับประทานอาหารเสร็จ ลุงก็ไปส่งท่านที่โรงเรียนเป็นแบบนี้ทุกวัน ต่อมาท่านปั่นจักรยานเองบ้าง และให้ลุงนั่งซ้อนท้ายผลัดเปลี่ยนกันไป พอท่านเรียนจบที่โรงเรียนมหาวชิราวุธเราก็แยกย้ายกัน โดยต่างคนต่างไม่รู้กันว่าใครไปอยู่ที่ไหน" ลุงข้วย ร่ายย้อนอดีตให้ฟัง
🧍 ลุงข้วย เล่าต่อไปว่า เมื่อปี 2478 ไปรับจ้างขุดดินอยู่ที่ จ.ปัตตานี ขณะนั้นคิดว่าพล.อ.เปรม คงอยู่ที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นเมื่อปี 2484 ลุงย้ายกลับมายัง จ.สงขลา อีกครั้ง เพื่อเข้าเกณฑ์ทหารและถูกส่งไปประจำการอยู่ที่ ร.พัน 42 ร.4 ค่ายบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี (ปัจจุบันคือค่ายอิงคยุทธบริหาร) ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
🧍ลุงข้วย เล่าต่ออีกว่า หลังจากนั้นช่วงหลังๆ เคยได้รับทราบข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ ว่า เพื่อนรักอยู่ที่อีสานเป็นผู้บัญชาการ คิดอยู่ในใจว่านายพลคนนั้น จะเป็นนายเปรมคนที่เป็นเพื่อนหรือเปล่า แต่เพียงได้คิดเท่านั้น โดยไม่ได้บอกใคร แต่มั่นใจว่าพล.ท.เปรม ในขณะนั้น เป็นคนเดียวกับเพื่อนสมัยเด็ก จนพล.อ.เปรมได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก และตามด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
👮หลังจาก พล.อ.เปรม ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มักจะลงมาปฏิบัติภารกิจที่สงขลาบ่อยๆ ตนคิดว่า พล.อ.เปรมคงจำไม่ได้แล้ว เพราะจากกันเป็นเวลาหลายปี ในระยะหลังจึงตัดสินใจเข้าแถวต้อนรับ พล.อ.เปรมที่วัดดอนรัก อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นวัดที่ พล.อ.เปรมต้องไปเคารพบรรพบุรุษ และเป็นวัดที่เคยไปวิ่งเล่นด้วยกัน
🧍ลุงข้วย เล่าอีกว่า ระหว่างไปยืนรอรับ พล.อ.เปรม ทำตัวอย่างชาวบ้านธรรมดาๆ คนหนึ่ง เมื่อ พล.อ.เปรมเดินผ่านมาและเห็นก็ตรงเข้ามาหา พร้อมกับทักทายด้วยภาษาถิ่นใต้และใช้คำเดิมๆ ที่เคยพูดคุยกันเหมือนสมัยยังเด็กๆ เมื่อยกมือไหว้ พล.อ.เปรม พูดกลับมาว่า "ข้วยไหว้เราทำไม" ในเมื่อเราเป็นเพื่อนกัน ตนตอบกลับไปว่า "ผมไหว้นายกรัฐมนตรี แต่ถ้าเป็นนายเปรมผมไม่ไหว้"
💢"หลังจากนั้นท่านเข้ามากอดลุง ลุงก็กอดพล.อ.เปรมต่อหน้าคนทั้งวัด สร้างความปลาบปลื้มกับทุกคน ลุงปลื้มใจจนน้ำตาไหลไม่รู้ตัว" ลุงข้วย กล่าว
♨️ลุงข้วย บอกกับ "คม ชัด ลึก" ว่า เหตุการณ์วันนั้นรู้สึกประทับใจไม่มีวันลืม เพราะเคยเห็นคนบางคนได้ดิบได้ดีก็ลืมเพื่อน ลืมพ่อแม่ แต่สำหรับ พล.อ.เปรม กลับไม่ลืมคนปั่นสามล้อ
♨️ลุงข้วย เล่าด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้มว่า หาก พล.อ.เปรมไปสงขลาจะนั่งสามล้อลุงทุกครั้ง พร้อมกับถามถึงสารทุกข์สุกดิบ ครั้งล่าสุดก่อนที่ลุงจะหยุดประกอบอาชีพถีบสามล้อ คือครั้งที่ พล.อ.เปรมนั่งไปบ้านศรัทธาซึ่งเป็นบ้านที่ชาวสงขลาสร้างไว้ให้ด้วยความรักและความศรัทธา
🧍 "ตั้งแต่ปี 2478 ที่จากกันมาพบกันอีกครั้งเมื่อปี 2528 เป็นเวลากว่า 50 ปี มันยาวนาน เหมือนอย่างที่ท่านเคยเข้าใจว่าลุงตายไปเสียแล้ว
ขณะนี้ลุงยังได้มีโอกาสพบ พล.อ.เปรมอยู่บ้าง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะ พล.อ.เปรมต้องกลับมาบ้านเพื่อทำบุญตักบาตรให้กับบรรพบุรุษ และเมื่อเจอกัน พล.อ.เปรมก็จะให้เงินลุงทุกครั้ง แล้วสั่งว่าอย่านำไปกินเหล้า ลุงบอกว่าลุงไม่กินเหล้า พล.อ.เปรมก็ล้อเล่นว่าอย่าเอาไปซื้อลูกข่างมาเล่น ลุงตอบไปว่า คงเล่นไม่ได้อีกแล้ว ตรงนี้ทำให้คิดว่า พล.อ.เปรมยังจำได้ว่าเราเคยเล่นลูกข่างกันมาเมื่อสมัยเด็กๆ" ลุงข้วย กล่าว
🧍ลุงข้วยในวัย 85 ปี อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ กับลูกสาวเพียง 2 คน พร้อมสามล้อคู่ชีพที่จอดนิ่งโดยจัดเก็บไว้อย่างดี และได้ยกให้กับ พล.อ.เปรม เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง พล.อ.เปรมได้สั่งให้นำไปเก็บรักษาไว้ที่สถาบันทักษิณคดีศึกษาของจังหวัดสงขลา เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้เห็นและเป็นอุทาหรณ์สอนใจได้ว่า "การคบเพื่อนไม่ได้อยู่ที่ฐานะหรือยศฐาบรรดาศักดิ์"
♨️ และวันที่ 13 สิงหาคม 2559 ลุงข้วย ได้เสียชีวิตอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลสงขลา ด้วยวัย 97 ปี
🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿
8 ก.ค.68
เรื่องเล่า
ประวัติศาสตร์
นักเขียน
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย