Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
โลกานุกรม
•
ติดตาม
10 ก.ค. เวลา 06:11 • ประวัติศาสตร์
อัสเซสซิน: เงาแห่งความเชื่อ นักรบผู้เขย่าโลกครูเสด
ในประวัติศาสตร์ยุโรปและโลกอิสลาม ไม่มีชื่อกลุ่มใดที่เต็มไปด้วยตำนานและความลึกลับเท่ากับ อัสเซสซิน หรือที่รู้จักในชื่อ ฮาชาชีน (Hashashin, حشّاشين) พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงนักฆ่ารับจ้างทั่วไป แต่เป็น “นักรบแห่งความเชื่อ” ผู้เลือกใช้การลอบสังหารเป็นอาวุธหลักต่อกรกับจักรวรรดิและศัตรูอันยิ่งใหญ่
ต้นกำเนิดของอัสเซสซิน
กลุ่มอัสเซสซินถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 11 (ประมาณ ค.ศ. 1090) โดยมีบุคคลสำคัญผู้ก่อตั้งคือ ฮะซัน อิบน์ อัล-ซ็อบบาห์ (Hasan-i Sabbah) ชายชาวเปอร์เซีย ผู้เป็นนักวิชาการ นักคิด และผู้นำทางจิตวิญญาณแห่งนิกายชีอะห์อิสมาอิลียะห์ (Isma'ili Shi'a)
ในยุคนั้น โลกอิสลามมีความขัดแย้งภายในระหว่างชาวสุหนี่กับชาวชีอะห์ ขณะที่โลกภายนอกก็กำลังเผชิญภัยคุกคามจากครูเสดของคริสเตียนตะวันตก ฮะซัน อิบน์ อัล-ซ็อบบาห์ จึงรวมรวมผู้ศรัทธาในแนวคิดของเขา จัดตั้งกลุ่ม “ฟิดายีน” (Fida’i – ผู้เสียสละ) ขึ้นเพื่อปกป้องนิกายและเป้าหมายทางศาสนา
ฐานที่มั่นของเขาอยู่ที่ ป้อมอัลมูต (Alamut) ในเทือกเขาแอลเบอร์ซของเปอร์เซีย (ปัจจุบันอยู่ในอิหร่าน) ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางปฏิบัติการของอัสเซสซินนานกว่า 150 ปี
ชื่อ “อัสเซสซิน” มาจากไหน?
คำว่า Assassin ที่ใช้กันในภาษาอังกฤษทุกวันนี้ มีต้นกำเนิดจากคำว่า Hashashin ซึ่งมาจากคำว่า “ฮะชิช” (Hashish – กัญชา) นักประวัติศาสตร์ในยุคครูเสดบางกลุ่มเชื่อว่า ฮะซันใช้ยาเสพติดในการควบคุมจิตใจและทดสอบความภักดีของลูกศิษย์ แต่ทฤษฎีนี้ยังเป็นที่โต้แย้ง
ในทางกลับกัน นักวิชาการบางกลุ่มเสนอว่า “ฮาชาชีน” เป็นคำดูถูกที่ศัตรูใช้เรียกพวกเขา เพราะไม่เข้าใจในวิถีทางแห่งการเสียสละของพวกฟิดายีนจริงๆ
แนวคิดและอุดมการณ์ของอัสเซสซิน
อัสเซสซินไม่ใช่นักฆ่าที่รับงานเพื่อเงิน พวกเขาคือ “นักรบแห่งศรัทธา” ที่เชื่อในความจำเป็นของ “การลอบสังหาร” เพื่อกำจัดศัตรูที่คุกคามแนวทางของพวกเขา พวกเขาฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา สามารถซ่อนตัว แฝงตัว เข้าไปสังหารเป้าหมายกลางเมือง กลางฝูงชน หรือแม้แต่ในพระราชวัง แล้วก็ยอมพลีชีพได้ทันทีโดยไม่ลังเล
อุดมการณ์ของพวกเขายึดหลักว่า "เลือดเพียงหยดเดียว อาจหยุดสงครามทั้งสนามได้" ซึ่งในหลายครั้งก็เกิดขึ้นจริง เช่น การลอบสังหารแม่ทัพหรือผู้ปกครองที่ก่อสงคราม เลือดหยดเดียวของเขา หยุดกองทัพได้ทั้งกอง
อัสเซสซินกับสงครามครูเสด
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11–13 โลกอิสลามกำลังเผชิญหน้ากับ สงครามครูเสด ที่นำโดยกษัตริย์และอัศวินจากยุโรปตะวันตก ซึ่งต้องการยึดครองนครเยรูซาเล็มและดินแดนศักดิ์สิทธิ์
กลุ่มอัสเซสซินไม่ได้อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างเป็นทางการ พวกเขาโจมตีทั้งฝ่ายคริสเตียน และ มุสลิมสุหนี่ ที่พวกเขาเห็นว่าเป็นภัยต่ออิสมาอิลียะห์ และต่อต้านความยุติธรรม เช่น:
ลอบสังหาร นูร์ อัด-ดีน ขุนพลของอาณาจักรซัลจุกผู้ทรงอำนาจ (แม้ในที่สุดล้มเหลว)
พยายามลอบสังหาร ซาลาดิน (Salah ad-Din al-Ayyubi) ผู้นำที่ยิ่งใหญ่แห่งโลกมุสลิม ในช่วงที่เขารวมอำนาจและแสดงท่าทีคุกคามกลุ่มอิสมาอิลียะห์
ลอบสังหารขุนนางชาวคริสเตียนจำนวนมากในดินแดนซีเรีย เช่น เรย์มอนด์แห่งอองติออค และ คอนราดแห่งมองเฟอร์รัต ผู้มีบทบาทในสงครามครูเสดครั้งที่ 3
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มอัสเซสซินจึงเป็น "ปัจจัยที่ 3" ในโลกครูเสดที่ทรงพลังและสร้างความหวาดหวั่น ทั้งต่อผู้นำมุสลิมและคริสเตียน ไม่ต่างจาก “มือสังหารเงียบ” ที่ทำให้ฝ่ายใดก็ประมาทไม่ได้
ป้อมอัลมูต: แหล่งกำเนิดนักฆ่าเงียบ
อัลมูต ไม่ได้เป็นเพียงป้อมปราการธรรมดา แต่คือศูนย์รวมอุดมการณ์ เป็นทั้งสำนักวิชา ที่พักของนักปราชญ์ ห้องสมุด ศูนย์ฝึก และที่พำนักของผู้นำแห่งฮาชาชีน ป้อมนี้ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์บนยอดเขาสูง ยากต่อการเข้าถึง มีเพียงผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นจึงจะเข้าไปได้
ว่ากันว่า ฮะซัน อิบน์ อัล-ซ็อบบาห์ ไม่เคยออกจากอัลมูตอีกเลยหลังจากยึดได้ในปี 1090 และบริหารป้อมผ่านจดหมายสั่งการและศรัทธาที่มั่นคง
จุดจบของอัสเซสซิน
หลังจากรุ่งเรืองกว่า 150 ปี อัสเซสซินเริ่มเสื่อมอำนาจลงในปลายศตวรรษที่ 13 เมื่อ กองทัพมองโกล บุกเข้าถล่มเปอร์เซีย ภายใต้การนำของ ฮูเลกู ข่าน (Hulagu Khan) มองโกลตีแตกป้อมอัลมูตในปี ค.ศ. 1256 และทำลายเครือข่ายของฮาชาชีนเกือบหมดสิ้น
นับแต่นั้น ชื่อของอัสเซสซินจึงค่อยๆ เลือนหายไปจากประวัติศาสตร์ในฐานะกลุ่ม แต่คงอยู่ในตำนานและคำเล่าขานอย่างยาวนาน
อัสเซสซินในความทรงจำของโลก
ชื่อ "Assassin" กลายเป็นคำเรียกนักฆ่าในหลายภาษา โดยเฉพาะในโลกตะวันตก วัฒนธรรมป๊อปมากมายได้นำเรื่องราวของอัสเซสซินไปต่อยอด เช่น ซีรีส์เกมดัง Assassin’s Creed ที่นำเอาตำนานอัสเซสซินมาผูกกับเหตุการณ์ในยุคต่างๆ ของโลก
แต่แท้จริงแล้ว กลุ่มนี้ไม่ได้เป็นแค่นักฆ่า พวกเขาคือ นักสู้ผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์ พวกเขาใช้ชีวิตเพื่อหลักความเชื่อ เสียสละเพื่อสิ่งที่ตนเห็นว่า “ยุติธรรม” และสืบทอดบทบาทหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์อิสลามและโลกยุคกลางอย่างยาวนาน
บทสรุป:
อัสเซสซินไม่ใช่แค่นักฆ่าในความหมายสมัยใหม่ แต่คือกลุ่มนักรบแห่งความศรัทธา ที่เกิดขึ้นจากแรงต้านต่อความอยุติธรรม ศัตรูของพวกเขาอาจมีทั้งกษัตริย์ พระสันตะปาปา หรือแม้แต่นายพลในศาสนาเดียวกัน แต่สำหรับพวกเขา "ความเชื่อ" คือสิ่งสูงสุดที่ต้องปกป้อง...แม้ต้องแลกด้วยชีวิต
สงคราม
ประวัติศาสตร์
ครูเสด
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย