13 ก.ค. เวลา 13:50 • ประวัติศาสตร์

🏰 อัศวินเทมพลาร์: นักรบแห่งศรัทธาและการเงิน ผู้สั่นสะเทือนยุคกลาง

เมื่อพูดถึงสงครามครูเสด ภาพของนักรบคริสเตียนผู้สวมเสื้อคลุมขาว ประทับกางเขนแดง เดินทัพสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นภาพจำของ “อัศวินเทมพลาร์” (Knights Templar) กลุ่มนักรบผู้ผนวกศาสนา สงคราม และระบบการเงินเข้าด้วยกันอย่างน่าทึ่ง
จากกลุ่มนักพรตผู้ถือคำปฏิญาณศักดิ์สิทธิ์ เทมพลาร์เติบโตเป็นองค์กรที่มีอิทธิพลสูงสุดในยุโรปยุคกลาง ทั้งในสนามรบและในเครือข่ายธนาคาร ก่อนจะสิ้นสุดลงอย่างโหดเหี้ยมในศตวรรษที่ 14 ทิ้งไว้เพียงตำนานลึกลับ และแรงบันดาลใจให้สื่อร่วมสมัยมากมาย
จุดเริ่มต้นของ “นักรบแห่งพระเจ้า”
อัศวินเทมพลาร์ก่อตั้งขึ้นราวปี ค.ศ. 1119 โดยขุนนางชาวฝรั่งเศสชื่อ ฮิวจ์ เดอ ปาแยง (Hugues de Payens) หลังสงครามครูเสดครั้งที่ 1 ประสบความสำเร็จในการยึดเยรูซาเล็มได้ เทมพลาร์ตั้งเป้าหมายเพื่อ “คุ้มกันผู้แสวงบุญ” ที่เดินทางผ่านเส้นทางอันตรายไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ชื่อเต็มของกลุ่มคือ The Poor Fellow-Soldiers of Christ and of the Temple of Solomon หรือเรียกสั้นๆ ว่า Knights Templar (อัศวินแห่งพระวิหาร) โดยมีที่มั่นอยู่ใกล้ซากวิหารโบราณของกษัตริย์โซโลมอนในเยรูซาเล็ม อันเป็นที่มาของชื่อ “เทมพลาร์”
คำปฏิญาณแห่งความศรัทธา
สมาชิกของกลุ่มเทมพลาร์ต้องปฏิบัติตามคำปฏิญาณ 3 ข้อหลักของนักพรตในคริสต์ศาสนา ได้แก่:
ความยากจน (poverty)
ความบริสุทธิ์ทางเพศ (chastity)
การเชื่อฟังอย่างเคร่งครัด (obedience)
แม้จะเป็นนักรบ แต่พวกเขามีชีวิตที่เรียบง่าย ถือศีล เคร่งครัดทางวินัย และไม่ยึดติดกับทรัพย์สินส่วนตัว ทว่าในทางกลับกัน กลุ่มเทมพลาร์กลับเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในเชิงเศรษฐกิจและอำนาจ
องค์กรการเงินข้ามชาติแห่งแรกของโลก?
ไม่นานหลังจากก่อตั้ง เทมพลาร์ได้รับการสนับสนุนจากพระสันตะปาปา ซึ่งให้สถานะ “อยู่นอกอำนาจของกษัตริย์ทุกพระองค์” นั่นหมายความว่าเทมพลาร์ไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องขึ้นศาล และสามารถเดินทางได้ทั่วคริสต์โลกโดยไม่ถูกรบกวน
ด้วยข้อได้เปรียบนี้ เทมพลาร์เริ่มสะสมที่ดิน ปราสาท และทรัพย์สินจำนวนมหาศาลจากผู้ศรัทธา รวมถึงเริ่มให้บริการ “ฝากเงิน” และ “โอนเงิน” สำหรับผู้เดินทางไปครูเสด—ซึ่งคล้ายกับระบบเช็คของธนาคารในปัจจุบัน
บางแหล่งเชื่อว่า เทมพลาร์เป็นกลุ่มแรกที่วางรากฐานของการธนาคารยุโรปยุคกลาง และเป็น “ธนาคารเคลื่อนที่” ของกษัตริย์หลายพระองค์ รวมถึงกษัตริย์อังกฤษบางพระองค์ที่กู้เงินจากพวกเขาเพื่อทำสงคราม
กองทัพในเงา: สงครามครูเสดและบทบาทในสนามรบ
ในสงครามครูเสด เทมพลาร์คือ “แนวหน้าของศรัทธา” พวกเขาได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มงวด ใช้ยุทธวิธีแบบคาวาเลรี่ (อัศวินม้าศึก) อย่างเชี่ยวชาญ และไม่เคยถอยเว้นแต่จะได้รับคำสั่งโดยตรง
การปรากฏตัวของเทมพลาร์ในสนามรบ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามทั้งมุสลิมและคริสเตียนต้องเกรงใจ พวกเขาเป็นทั้งหน่วยช็อคทรัพย์ (shock troops) และนักยุทธศาสตร์ ทว่าในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ถูกวิพากษ์ว่า “เป็นนักบวชที่ฆ่าได้โดยไม่บาป”
ตำนาน ความลับ และข้อกล่าวหา
ความมั่งคั่งของเทมพลาร์ และสถานะที่ไม่ต้องขึ้นตรงกับใคร ทำให้พวกเขากลายเป็นเป้าหมายของอิจฉา โดยเฉพาะจากพระเจ้าฟิลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศส (Philip IV of France) ซึ่งกำลังติดหนี้เทมพลาร์อย่างหนัก
ในปี ค.ศ. 1307 พระองค์ร่วมมือกับสมเด็จพระสันตะปาปาเคลมองต์ที่ 5 (Pope Clement V) กล่าวหาว่าเทมพลาร์ “นอกรีต ลบหลู่ศาสนา และบูชาสิ่งปีศาจ” มีการจับกุมสมาชิกนับร้อย ทรมาน และประหารชีวิต
ผู้นำสูงสุดของเทมพลาร์ในขณะนั้นคือ ฌาคส์ เดอ โมแล (Jacques de Molay) ถูกเผาทั้งเป็นในปี 1314 ระหว่างที่กำลังเผา เขากล่าวสาปแช่งพระสันตะปาปาและกษัตริย์ว่า “ภายใน 1 ปี พวกท่านจะตามข้าไป” และทั้งสองคนก็เสียชีวิตภายในเวลานั้นจริงๆ
การล่มสลาย...หรือการเปลี่ยนรูป?
แม้ว่าเทมพลาร์จะถูกยุบอย่างเป็นทางการในปี 1312 โดยสมเด็จพระสันตะปาปา แต่หลายตำนานเชื่อว่า:
ทรัพย์สมบัติมหาศาลของเทมพลาร์ “หายไป” อย่างลึกลับ
สมาชิกบางคนหนีไปก่อตั้งองค์กรลับ เช่น Freemasons
ความรู้ของพวกเขายังถูกถ่ายทอดอย่างลับๆ สู่ยุคเรอเนซองส์
ทำให้ชื่อของ “เทมพลาร์” ไม่เคยหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ และกลายเป็นแกนกลางของทฤษฎีสมคบคิดจนถึงปัจจุบัน
มรดกในวัฒนธรรมร่วมสมัย
เทมพลาร์คือแรงบันดาลใจของเรื่องราวมากมาย ตั้งแต่ The Da Vinci Code ไปจนถึงเกม Assassin’s Creed ซึ่งถ่ายทอดภาพ “นักรบผู้มีความลับ” และองค์กรที่ยังมีอิทธิพลเบื้องหลังโลก
ในแง่สัญลักษณ์ กางเขนแดงบนพื้นขาว ยังคงถูกใช้ในวัฒนธรรมยุโรป และบางองค์กรคาทอลิกก็ยังคงรักษาเกียรติของเทมพลาร์ไว้
บทสรุป: นักรบศักดิ์สิทธิ์หรือผู้ถือสมบัติลับ?
อัศวินเทมพลาร์ คือปรากฏการณ์เฉพาะตัวของยุคกลาง เป็นทั้งนักบวช นักรบ นักการเงิน และอุดมการณ์ พวกเขาคือภาพแทนของการผสมผสาน “ศรัทธาและโลกีย์” เข้าด้วยกันอย่างลงตัวในช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์
แม้วันนี้จะไม่มีใครยืนยันได้ว่า พวกเขายังมีอยู่หรือไม่...
แต่ตำนานของอัศวินในชุดขาว กางเขนแดง ก็ยังคงฝังอยู่ในจินตนาการของผู้คนทุกยุคสมัย
โฆษณา