🇦🇺📡 "ออสเตรเลีย" บังคับเช็กอายุผู้ใช้อินเทอร์เน็ตครั้งใหญ่ทั่วประเทศ
Australia quietly enforces unprecedented age-checks for search engines and beyond
📍 จุดเปลี่ยนเงียบที่ไม่ธรรมดา
ออสเตรเลียได้ประกาศใช้มาตรการใหม่แบบเงียบๆ ที่อาจเปลี่ยนโฉมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้คนไปตลอดกาล — โดยตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2025 เป็นต้นไป Search Engines อย่าง Google และ Microsoft จะต้อง “ตรวจสอบอายุ” ของผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้งานในประเทศอย่างเข้มงวด หากฝ่าฝืนอาจโดนปรับสูงถึง 50 ล้านดอลลาร์ต่อครั้ง
🧩 แม้จะไม่ใช่กฎหมายโดยตรง แต่มาตรการนี้ถูกรวมอยู่ใน “Industry Code” ฉบับใหม่ภายใต้การกำกับของ eSafety Commissioner ที่มีอำนาจคล้ายหน่วยกำกับดูแลสื่อยุคดิจิทัล โดยตั้งเป้าเพื่อ “คัดกรองเนื้อหาไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน” เช่น สื่อลามก ความรุนแรงระดับสูง หรือเนื้อหากระตุ้นความผิดปกติทางการกิน
💡 น่าสังเกตว่า มาตรการสำคัญนี้กลับไม่มีการสื่อสารต่อสาธารณะแบบชัดเจนเหมือนกรณีการแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้มีอายุต่ำกว่า 16 ปี ทำให้ประชาชนจำนวนมากเพิ่งตระหนักเมื่อสายไปแล้ว
🔍 7 วิธีการตรวจสอบอายุที่ถูกนำมาใช้ในระบบใหม่ของออสเตรเลีย
เพื่อจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาไม่เหมาะสมสำหรับผู้เยาว์:
1️⃣ ยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนหรือเอกสารราชการ
2️⃣ ใช้ AI ประเมินอายุจากใบหน้าผ่านกล้องหรือภาพถ่าย
3️⃣ ตรวจสอบผ่านข้อมูลบัตรเครดิต
4️⃣ เชื่อมโยงกับระบบ Digital ID ที่ลงทะเบียนไว้แล้ว
5️⃣ ให้ผู้ปกครองเป็นผู้รับรองอายุแทน
6️⃣ วิเคราะห์อายุจากข้อมูลที่บริษัทเคยเก็บไว้ เช่น พฤติกรรมการใช้งาน
7️⃣ อ้างอิงจากบุคคลที่ 3 (Third-Party) ที่เคยตรวจสอบอายุผู้ใช้มาก่อน
✅ แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน และอาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ในระดับที่ไม่เท่ากันด้วย
⚖️ ข้อถกเถียง: ความปลอดภัยของเด็ก vs สิทธิส่วนบุคคล
ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิดิจิทัลชี้ว่า นี่คือ "การคืบคลานของรัฐเฝ้าระวัง (Surveillance State)" เพราะการตรวจสอบอายุในระดับนี้อาจเป็นการตัดสิทธิในการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบไม่เปิดเผยตัวตน และเสี่ยงต่อการละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชน
🧠 นักวิเคราะห์ชี้ว่า มาตรการนี้อาจใช้ไม่ได้ผลจริง เพราะผู้ใช้อายุน้อยสามารถหลบเลี่ยงได้ง่ายๆ ผ่าน VPN หรือแค่ไม่ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ก็จะหลุดการคัดกรองที่เข้มงวด
🌐 อนาคตของการใช้งานอินเทอร์เน็ตในออสเตรเลีย: จะเช็กอายุทุกอย่างหรือไม่?
ขณะนี้ Search Engines และ Social Media เป็นเป้าหมายแรก แต่ในปี 2025 คาดว่าจะมีการบังคับใช้ต่อเนื่องไปยัง App Stores, Messaging Apps, เว็บไซต์การพนัน และเว็บผู้ใหญ่ โดยมีแผนผ่านอีก 6 Industry Codes ที่อยู่ระหว่างการอนุมัติ
📉 วิเคราะห์ผลกระทบต่อไทยและตลาดหุ้นไทย (SET & mai)
🟦 TACC (ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์) — ผู้จัดจำหน่ายสินค้าเครื่องดื่มและสื่อออนไลน์ หากมาตรการนี้แพร่กระจายเป็นแนวปฏิบัติสากล อาจต้องพัฒนาระบบยืนยันอายุใหม่ทั้งในไทยและประเทศที่ส่งออกไป
🟦 BE8 (เบริล 8 พลัส) — ที่ปรึกษาและพัฒนาโซลูชัน AI และดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน มีโอกาสรับอานิสงส์จากการออกแบบและพัฒนาระบบ Age Verification ให้ลูกค้าในหลายภาคส่วน
🟦 INSET (อินฟราเซท) และ ITEL (อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม) — ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล อาจได้ประโยชน์จากดีมานด์ด้าน Data Security และโครงสร้างรองรับการพิสูจน์ตัวตนที่เพิ่มขึ้น
🟦 NETBAY (เน็ตเบย์) — มีบริการ e-KYC และระบบยืนยันตัวตนดิจิทัลอยู่แล้ว อาจเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักของโซลูชัน Age Assurance ระดับชาติ
🟦 SECURE (เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว) — ความต้องการด้าน Cybersecurity พุ่งสูงหากข้อมูลเด็กและเยาวชนต้องถูกจัดเก็บและตรวจสอบบนระบบกลาง อาจส่งผลดีต่อรายได้จากงาน Consult และ Solution Deployment
🟦 IIG (ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป) — ที่ปรึกษาด้าน CRM และ Cloud-Based Enterprise Software อาจรับงานออกแบบกลไกจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลอายุผู้ใช้ในภาคธุรกิจ
💡 Ripple Effect ที่อาจเกิดขึ้นในไทย:
หากประเทศไทยนำโมเดลการตรวจสอบอายุแบบเข้มข้นมาใช้ตามแนวทางของออสเตรเลีย แพลตฟอร์มต่างๆ อย่าง E-Commerce, เกม, สตรีมมิง และระบบชำระเงินดิจิทัล อาจถูกบังคับให้ลงทุนเพิ่มในระบบยืนยันอายุอย่างจริงจัง
📲 ผลกระทบทางอ้อมอาจไปถึงบริษัทไทยที่เกี่ยวข้อง เช่น
🔹 JMART (เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์) — ผู้ถือหุ้นในหลายธุรกิจเทคโนโลยีและการเงิน
🔹 VCOM (วินท์คอม เทคโนโลยี) — จำหน่ายอุปกรณ์และบริการด้าน IT Solutions
🔹 HUMAN (ฮิวแมนิก้า) — พัฒนาระบบ HR Tech ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อมูลบุคคลและการพิสูจน์ตัวตน
ซึ่งมีบทบาททั้งด้านเทคโนโลยี ระบบบริการ หรือโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และอาจต้องปรับตัวให้พร้อมรับนโยบายใหม่ หรือแม้แต่สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่จากการให้บริการระบบยืนยันตัวตนแก่ลูกค้าองค์กรอื่นๆ
💭 ข้อคิดเชิงสร้างสรรค์
หากแนวทางนี้เป็นจุดเริ่มต้นของ “ระบบคัดกรองดิจิทัลแบบหลายชั้น” (Layered Internet Safety Infrastructure) อาจเกิดโอกาสใหม่ในการสร้างเทคโนโลยีที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ขณะเดียวกัน ก็ต้องเฝ้าระวังไม่ให้กลายเป็นข้ออ้างของรัฐเฝ้าระวังแบบไร้ขอบเขต
🗣️ คุณคิดเห็นอย่างไรกับมาตรการนี้?
การปกป้องเด็กควรมาก่อนสิทธิเสรีภาพออนไลน์หรือไม่?
แล้วไทยควรเดินตามออสเตรเลียหรือสร้างโมเดลของตัวเอง?
แสดงความคิดเห็นของคุณด้านล่างได้เลยนะคะ!
🎯 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#TechPowerStruggle #AgeAssurance #OnlineSafety #DigitalRights #PlatformRegulation #DigitalPolicy #ChatGPTแนะนำหุ้น #WorldScopeInsight #MindflixSeries
📚 Reference:
ABC News Australia – Australia quietly enforces unprecedented age checks for search engines
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
