เมื่อวาน เวลา 11:03 • ข่าวรอบโลก

รัสเซีย มหาอำนาจที่รอวันตกกระป๋อง….

รัสเซีย ตกขบวนการพัฒนา AI
เพราะสงครามที่ตนเองก่อขึ้น เพื่อทวงควมยิ่งใหญ่
จนทำท่าว่าจะกลายเป็นสิ่งบั่นทอนการไปข้างหน้า
สู่ความยิ่งใหญ่อย่างที่ปูตินได้ฝันเอาไว้
แม้จะมีโฆษณาชวนเชื่อออกมามากมายจากทางรัสเซีย
แต่ความจริงแล้ว มันไม่มีอะไรคืบหน้าเลย
ถ้ามองพัฒนาด้านนี้ของรัสเซีย ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมเลย
ในขณะที่เพื่อนจีนและคู่แข่งโดยตรงค่ายตะวันตก
ไปกันไกลมากแล้ว
มันคือฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง ที่จะสร้างรัสเซีย
ให้ขึ้นมาเคียงบ่าเคียงไหล่ กับสหรัฐหรือจีนได้
…หากรัสเซียยังตามหลังแม้แต่ยูเครน ในด้าน AI….
ยูเครนเองก็มีพวกคนทำงานข้ามชาติด้าน IT เยอะเหมือนรัสเซีย การไม่โดนแบน มีส่วนมากที่ทำให้เข้าถึงอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ จึงพัฒนาได้มากกว่ารัสเซีย
จากผู้นำ สู่ผู้ตาม ที่จะไม่มีวันตามทัน…
ในความเป็นจริงแล้ว หลายปีก่อนมีสงคราม
รัสเซียมีความก้าวหน้าด้าน AI สูงมาก
สูงกว่ายุโรป หรือจีนด้วยซ้ำ
เนื่องจากรัสเซียนั้นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อมาก
ว่ามีโปรแกรมเมอร์เก่งๆ มากที่สุดในโลก
สิ่งแวดล้อมด้านอุตสาหกรรม IT ของพวกเขา
เคยดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป หลังปูตินตัดสินใจบุกยูเครน
ในปี 2022 จะเรียกว่าสงครามนี้ เป็นการเริ่มยุคมืด
ด้านเทคโนโลยี IT ของรัสเซียเลยก็ว่าได้
มันเป็นจังหวะเวลาที่แย่ เพราะในขณะที่โลกกำลังแข่งขัน
ในการพัฒนา AI มากที่สุด รัสเซียกลับได้แต่มองตาปริบๆ
เพราะ ขาดของ ขาดคน ขาดเงิน
หรือขาดทุกอย่างที่จะซัพพอร์ตโครงการด้านนี้
ขาดของ ซึ่งก็คือชิพขั้นสูง ซึ่งจำเป็น แต่ในมือรัสเซีย
มีน้อยมากๆในปัจจุบัน เมื่อถูกชาติตะวันตกแบน
และพวกเขาไม่สามารถผลิตเองได้
ซ้ำร้าย พันธมิตรอย่างจีน ก็ไม่มีความคิดจะขายให้
เพราะต้องการเก็บไว้เป็นความลับขั้นสุดยอด
เพื่อการควบคุมรัสเซีย และไม่ให้เสี่ยงรั่วไปทางตะวันตก
เนื่องจากรัสเซียมักใช้อาวุธขั้นทดลองในยูเครนเสมอ
ซึ่งนั่น ทำให้ความลับรั่วไหลได้ง่ายมาก
โดยจีนใช้ข้ออ้างว่า บริษัทผู้ผลิตเป็นของเอกชนในตลาดหลักทรัพย์ของพวกเขาซึ่งรัฐควบคุมไม่ได้
เนื่องจากเอกชนต้องการป้องกันความเสียหายจากการ
คว่ำบาตรที่จะเกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้น
เพื่อรักษาสัมพันธ์กับรัสเซียจีนโบ้ยแบบนี้มาตลอด
มันต่างกับอาวุธโบราณแบบอื่น หรือโดรนที่จีนแอบสนับสนุน
ชิพจีนนั้น ไหลเข้ารัสเซียน้อยมากหลังสงคราม
ก็เพราะเหตุผลนี้ ที่เข้าไป ก็มีแต่ชิพระดับทั่วๆไป
การจัดหาของรัสเซียในปัจจุบัน ทำผ่านตลาดมืด
และรัฐบริวารเก่าซึ่งไม่ได้โดนแบน เช่น คาซัคสถาน
แต่ปัจจุบัน โดนปิดช่องเหล่านี้หมดแล้ว
รัสเซียจึงแทบไม่มีชิพชั้นสูงในมือเลย
แม้แต่จะผลิตเครื่องบินรบ เพื่อส่งมอบให้ทัน
กับลูกค้าที่สั่งไว้ ก็ยังทำไม่ได้
โรงซ่อมบำรุง SU ในคาซัคสถาน ถูกจับได้ว่า
เป็นแหล่งถ่ายเทชิพของสหรัฐ และฝรั่งเศส ให้กองทัพรัสเซีย
พวกเขาก็เลยยกเลิกสัญญาทุกอย่าง จนเป็นที่มาว่า
ทำไมรัสเซียถึงไม่สามารถผลิต SU ทันใช้ ทันขายในตอนนี้
1
ดังนั้นอุตสาหกรรม AI ที่ต้องการชิพจำนวนมหาศาล
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ว่ารัสเซียจะมีพอใช้พัฒนา
ว่ากันว่าซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับเมนเฟรมของรัสเซียเอง
ถ้าเสียขึ้นมาจะซ่อมได้ไหมก็ยังไม่รู้
เพราะในนั้น มีแต่ชิพ อเมริกัน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ทั้งนั้น
…เพื่อให้เห็นชัดเจน ว่าต้องมีชิพมากแค่ไหน
คงต้องเปรียบเทียบกับค่ายอื่นที่กำลังพัฒนาอยู่…
ก่อนโดนแบน มีการประเมินจากคำสั่งซื้อและการใช้งาน
ของรัสเซียเอง คาดว่ารัสเซียมีชิพระดับสูงสุด ที่จำเป็น
กับการพัฒนา AI อยู่ราว 90,000 ตัว
แต่ ถ้าเทียบกับ Google บริษัทอเมริกันเพียงบริษัทเดียว
พวกเขามีชิพพวกนี้ในมือ มากกว่า 500,000 ตัว !
และนี่คือเอกชนสหรัฐ บริษัทเดียวเท่านั้น
เชื่อว่าทางจีนก็ไม่ต่างกัน แม้จะเป็นชิพคนละตระกูลก็ตาม
…รัสเซีย ไม่มีของพวกนี้ การพัฒนา AI จึงเป็นไปไม่ได้เลย…
ไอ้กัน ไม่ต้องพูดถึง ชาตินี้รัสเซียไม่มีทางไล่มันทัน ถ้าปูตินยังอยู่จนชาวบ้านเขากลัวกันหมดแบบนี้
ต่อมาก็คนขาด…
ซึ่งนั่นก็เกิดจากภาวะสมองไหล ระดับร้ายแรง
ของผู้เชี่ยวชาญ เช่นเดียวกับที่เคยเกิดในเยอรมัน
สมัยนาซีนั่นเอง
ที่เป็นเช่นนี้ เหตุผลนึงก็คือ การเกณฑ์ทหารแบบบ้าคลั่ง
แต่อีกส่วนที่สำคัญกว่าคือเงื่อนไขทางธุรกิจ
และค่าตอบแทนของคนที่จะทำงานในระดับสูงเหล่านี้
เรื่องเกณฑ์ทหาร ไม่ต้องพูดถึง ใครๆก็กลัว
หนีกันหมด ถ้ามีกำลังทรัพย์พอ และรัฐบาลรัสเซีย
ไม่ได้กักตัวไว้ทำงานก่อนหน้านี้ หรือไม่มีภาระผูกพัน
กับทางรัฐบาล
ไปดูเถอะ รัสเซียที่มาอยู่เมืองไทย ทำอาชีพอะไรเยอะที่สุด
ใช่ครับ โปรแกรมเมอร์ พวกนี้รับงานข้ามโลก
ซึ่งคนจ้างส่วนมาก ก็คือชาติตะวันตกและจีนนั่นแหละ
เจ็บปวดไหมล่ะ
แล้วก็มีอีกไม่น้อยเลย ที่ไปอาศัยแบบลี้ภัยถาวร
และทำงานให้ประเทศคู่แข่งของรัสเซีย อย่างสหรัฐและจีน
รวมถึงยุโรป และญี่ปุ่น
เงินเยอะกว่าเหรอ อาจใช่ แต่ไม่ทั้งหมด
อย่างนึงคือรัสเซียหลังการโดนแบน
มันไม่เอื้อให้คนทำงานจริงๆเขาอยู่ และทำที่นั่น
พวกบุคคลธรรมดา freelance ก็อย่างที่บอก
ขาดของ การรับเงินจากต่างประเทศที่เคยทำได้ง่ายๆ
ก็ไม่ได้อีกแล้ว รัฐบาลก็จ้างแต่จ่ายแบบไม่พอกิน
และไม่ใช่จ้างกันเยอะแยะอะไร
พวกนิติบุคคล พวกนี้หนักกว่า เพราะนอกจากปัญหา
ที่เหมือนคนทั่วไปแล้ว ธุรกิจในรัสเซียปัจจุบันยังแบก
ต้นทุนสูงมาก โดยเฉพาะดอกเบี้ย หากอยากลงทุน
ขยายกิจการ
ดอกนโยบาย 20% กู้จริงๆทะลุ 30% แล้วแต่ความน่าเชื่อถือ
…แล้วใครจะอยู่ล่ะ…
…รักชาติไหม เขาก็รักแหละ แต่เขาต้องกินต้องใช้….
แล้วปูตินกับคนรุ่นใหม่มีปัญหากันอยู่แล้ว ซึ่งคนเก่งด้านนี้
มีแต่เด็ก มันก็เลยไม่มีใครอยู่ทำงานให้รัฐบาลรัสเซีย…
…สมองไหลยับ อุตสาหกรรม IT รัสเซีย ก็ไร้อนาคต….
…ส่วนขาดเงินนี่ไม่ต้องอธิบายกันมาก งบเท่าไหร่ผลาญไป
กับการบุกยูเครนหมด ล่าสุดต้องทิ้งเรือบรรทุกเครื่องบิน
ลำเดียวของตัวเอง เพราะซ่อมไม่ไหวไปแล้ว รัฐวิสาหกิจ
ที่ทำหน้าที่ซ่อมล้มละลาย รัฐเล่นเอาเงินไปทำโดรนชาเฮด
กับขีปนาวุธใช้ในยูเครนหมด ….
ทางยุโรปก็พัฒนาเร็วมากเหมือนกัน
ที่เขียนมานั้น เป็นแค่มิติด้านเดียวของ AI
คือด้านความมั่นคง และอาวุธสงคราม
แต่ในความเป็นจริงแล้ว AI จะมีบทบาทมากทุกด้าน
ในอนาคตที่กำลังมาถึงอันใกล้
เศรษฐกิจยุค AI จะเปลี่ยนหน้าตาไปมาก
ใครมีดีด้านนี้ ก็มีโอกาสรวย ได้มากกว่าไม่มี
AI ยังเป็นส่วนสำคัญในการประชาสัมพันธ์ตัวเอง
ในด้านบวก หรือการส่งออก soft power อย่างมาก
ซึ่งสิ่งนี้จำเป็นมาก สำหรับการเป็นมหาอำนาจที่แท้จริง
เราลองดู AI สร้างภาพง่ายๆของจีนก็ได้
นีคือตัวอย่างที่ดีมาก ในการส่งออก soft power ของจีน
ภาพสไตล์จีนๆ หน้าคนที่เจนฯออกมาแล้วเป็นอาตี๋ อาหมวย
หรือความน่ารักในแบบการ์ตูนจีน ซึงต่างกับญี่ปุ่นหรือฝรั่ง
มันทำให้คนรู้จัก และอยากรู้จักจีนมากขึ้น
มันเป็นผลดีทั้งในมุมมองทางการเมืองและสร้างรายได้
เพื่อมาต่อยอดความเป็นมหาอำนาจให้จีนได้
อเมริกาก็มี ยุโรปก็มี ระดับรองๆลงมา อย่างเกาหลีใต้ก็มี
หรือสิงคโปร์ก็ยังมีตัวเด็ดๆ …
แล้วไหนล่ะ ของรัสเซีย ที่รัฐบาลพวกเขาเคยโฆษณา ?
…ความเป็นรองด้านนี้ จะทำให้รัสเซียเสียเปรียบ
มหาอำนาจอื่นอย่างยิ่ง นับจากนี้ไป แล้วจะไม่ให้บอกว่า
เป็นมหาอำนาจ ที่รอวันตกกระป๋องได้ยังไง….
การตัดสินบุกยูเครนของรัสเซียนั้น
ความจริงมันเกิดจากการประเมินว่ายุโรป
และสหรัฐนั้นมีปัญหาด้านเศรษฐกิจจากผลของ COVID
หนักหนามากอยู่แล้ว
รัสเซียน่าจะเชื่อว่า หากพวกเขาบุก ด้วยสถานะเศรษฐกิจ
ที่บักโกรกอยู่แล้วของตะวันตก จะทำให้ตะวันตกนิ่งเฉย
เช่นเดียวกับตอนบุกรอบแรก ปี 2014 ซึ่งตอนนั้นยุโรป
ก็เจอปัญหาพิษเศรษฐกิจต่อเนื่องมาช่วงปี 2010
พวกเขาหวังว่าการใช้พลังงานขู่ เพื่อให้ตะวันตก
กลัวเงินเฟ้อ จะสร้างความได้เปรียบในการต่อรอง
แต่มันผิดแผน หรือปูตินเองประเมินยุโรปและยูเครนต่ำไป
การติดหล่มสงครามซึ่งนำมาสู่การคว่ำบาตรที่รุนแรง
มันสร้างปัญหามากพออยู่แล้วกับรัสเซีย
แต่มันหนักหนาสาหัสขึ้น เมื่อจังหวะที่รัสเซียติดหล่ม
มันคือช่วงที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านในสองด้านที่สำคัญ
หนึ่งคือพลังงาน เราเดินมาสู่ปลายยุคพลังงานน้ำมัน
และฟอสซิลอย่างเป็นทางการแล้ว
สองคือ AI ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนระบบต่างๆในทุกด้าน
รัสเซียปัจจุบัน ไม่มีความพร้อมอะไรเลย
ที่จะรับมือความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากๆ แบบนี้ได้
พวกเขายังคงวนเวียนอยู่กับวิธีคิด เศรษฐกิจแบบเก่า
มีมุมมองต่อธุรกิจพลังงานที่ล้าหลังกว่าตะวันออกกลางเสียอีก
ลองคิดดู
…เมื่อโลกเปลี่ยนผ่านพลังงาน ราคาพลังงานรายได้หลัก
ของรัสเซีย มันจะมีแต่น้อยลงไปเรื่อยๆ ….
…เมื่อคู่แข่งมี AI กันหมด แต่พวกเขาไม่มีที่ดีพอจะแข่งขัน
พวกเขาจะเสียเปรียบมหาศาลในทุกด้าน…
…แล้วพวกเขาจะไปต่อได้อย่างไรล่ะ แผ่นดินพื้นที่มหาศาล
ที่ปกติรายได้รัสเซียก็น้อยไปอยู่แล้วในการดูแล มันจะแย่
ลงไปอีกมากแค่ไหนในอนาคต?….
แน่นอน มันไม่ทำให้รัสเซียแตก หรือล่มสลายหรอก
แต่การยืนในสถานะมหาอำนาจของโลกนั้น มันจะได้เหรอ
ใช่ ! พวกเขามีนิวเคลียร์ และจะเป็นมหาอำนาจด้านนี้ไป
…แต่ก็แค่ “อีกสักพัก”…
ปัจจุบัน นิวเคลียร์ติดไฮเปอร์โซนิค คือสิ่งที่ทำให้
โลกนั้นยังต้องหวาดกลัว และเกรงใจรัสเซีย
แต่รู้หรือไม่ ว่าแนวคิดไฮเปอร์โซนิคสกัดไม่ได้นั้น
กำลังถูกกร่อนลงเรื่อยๆ เมื่อการปัองกันนั้นทำได้มากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งจากในยูเครน และอิสราเอล ที่เป็นเหมือนสนามทดลอง
การสกัดขีปนาวุธเหล่านี้
ไฮเปอร์โซนิคสกัดไม่ได้ คือแนวคิดบนพื้นฐาน
ของระบบการคาดเดาทิศทางจรวด ด้วยคอมพิวเตอร์
ระดับสูงของสหรัฐ เมื่อหลายปีก่อน ที่ทำงานร่วมกับคน
ไม่ใช่กับ AI ปัจจุบัน ซึ่งมีศักยภาพสูงกว่าคอมพิวเตอร์
ตอนนั้นหลายร้อยเท่า
คาดการณ์กันว่า อีกไม่นาน ขีปนาวุธสกัดที่ทำงานร่วมกับ
ระบบการประเมินเส้นทางของ AI ประสิทธิภาพสูง
จะทำการสกัดจรวดไฮเปอร์โซนิคได้อย่างสมบูรณ์
…และถ้าวันนั้นมาถึง รัสเซียก็จะไม่เหลืออะไรในมือ
ที่จะข่มขู่ชาวโลกเขาแล้วจริงๆ ….
การบุกยูเครน ไม่ใช่จุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของรัสเซีย
…แต่มันคือสาเหตุที่จะทำให้พวกเขาตกจากบัลลังก์
ของความเป็นมหาอำนาจในยุคหลังจากนี้มากกว่า….
ซึ่งกว่ารัสเซียจะสร้างสิ่งแวดล้อมทางเทคโนโลยี
ด้านต่างๆ เพื่อปฏิรูประบบตัวเองให้ทันคนอื่น
มันอาจต้องเสียเวลาไปอีกหลายสิบปี ซึ่งคนอื่นเขาก็
ไม่ได้หยุดพัฒนา และคงหนีไปเรื่อยๆ
….ไล่ให้ทัน แทบเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป ….
…แล้วจะรักษาความเป็นมหาอำนาจไว้ได้ยังไงล่ะ ?…..
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา