15 ก.ค. เวลา 13:30 • สุขภาพ

กลัวการปล่อยมือ เมื่อต้องบอกลายาต้านเศร้า...มันน่ากลัวจริงหรือ

มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมอยากจะเล่าให้ฟัง เธอชื่อ "ป้าสมใจ" ครับ...
หลายปีก่อน ชีวิตของป้าสมใจเคยเหมือนจมอยู่ในอุโมงค์ที่มืดมิดและไร้ทางออก "เจ้าหมาดำตัวใหญ่" ที่ชื่อว่าโรคซึมเศร้าได้เข้ามากัดกินความสุขของเธอไปจนหมดสิ้น โลกที่เคยมีสีสันกลับกลายเป็นสีเทา เสียงหัวเราะกลายเป็นเรื่องไกลตัว จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณหมอได้ยื่นสายจูงเส้นเล็กๆ มาให้เธอนั่นก็คือ ยาต้านเศร้า
ยาเม็ดเล็กๆ นั้นได้ค่อยๆ ดึงป้าสมใจออกมาจากความมืด เธอเริ่มกลับมาเห็นสีสันของดอกไม้ ได้ยินเสียงนกร้อง และที่สำคัญที่สุด...เธอเริ่มกลับมาหัวเราะได้อีกครั้ง ชีวิตของเธอกลับมาเป็นของเธอ ยาต้านเศร้ากลายเป็นเพื่อนที่แสนดี เป็นผู้พิทักษ์ที่คอยกันเจ้าหมาดำตัวนั้นไม่ให้เข้ามาใกล้
เวลาผ่านไป...ป้าสมใจรู้สึกเข้มแข็งขึ้นมาก เธอพร้อมแล้วที่จะลองเดินด้วยตัวเองอีกครั้ง แต่พอนึกถึงวันที่ต้อง ปล่อยมือจากยาที่คุ้นเคย ความกลัวระลอกใหม่ก็ถาโถมเข้ามา...
...แล้วถ้าหยุดยาแล้วจะทรมานล่ะ? แล้วถ้าอาการมันตีกลับมารุนแรงกว่าเดิมล่ะ? เธอเคยได้ยินเรื่องเล่ามากมายบนอินเทอร์เน็ต ถึงอาการถอนยาที่น่ากลัวราวกับตกนรก ความกลัวนี้ใหญ่โตเสียจนทำให้ป้าสมใจไม่กล้าที่จะก้าวต่อไป...
เรื่องราวของป้าสมใจไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้น แต่เป็นภาพสะท้อนความรู้สึกของผู้คนนับล้านที่กำลังยืนอยู่บนทางสองแพร่งเดียวกัน ความกลัว "อาการถอนยา" (Withdrawal) เป็นเหมือนกำแพงขนาดใหญ่ที่ขวางกั้นพวกเขาจากการมีชีวิตที่ปราศจากยา แต่เมื่อไม่นานมานี้ งานวิจัยในวารสาร JAMA Psychiatry อาจจะเปลี่ยนมุมมองและความกลัวของเราไปตลอดกาล
นักวิจัยจากสถาบันชั้นนำของโลกอย่าง Imperial College London และ King's College London มารวมตัวกัน พวกเขาไม่ได้ทำการทดลองใหม่ แต่ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น คือการรวบรวม งานวิจัย Gold Standard ที่ดีที่สุดและน่าเชื่อถือที่สุดเกี่ยวกับการหยุดยาต้านเศร้าทั้งหมดที่มีอยู่มาวิเคราะห์ร่วมกัน
พวกเขากวาดข้อมูลจากผู้คนกว่า 17,000 ชีวิต (ซึ่ง 70% เป็นผู้หญิงเหมือนป้าสมใจ) เพื่อหาคำตอบที่ชัดเจนที่สุดให้กับคำถามที่ค้างคาใจเรามานาน
และนี่คือสิ่งที่พวกเขาค้นพบ ซึ่งอาจจะทำให้หัวใจของป้าสมใจ (และอีกหลายคน) พองโตขึ้นด้วยความหวังครับ
ข่าวดีที่สุด คนส่วนใหญ่ "ไม่ได้" มีอาการถอนยารุนแรง นี่คือหัวใจของเรื่องราวทั้งหมดครับ จากเรื่องเล่าที่น่ากลัวต่างๆ นานา งานวิจัยนี้กลับพบความจริงที่ตรงกันข้าม สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว การหยุดยาไม่ได้น่ากลัวเหมือนการตกหน้าผา แต่มันเป็นเหมือนการเดินลงเนินเตี้ยๆ ที่อาจจะมีสะดุดบ้างเล็กน้อยเท่านั้น อาการที่เกิดขึ้นมักไม่รุนแรง และไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน
อาการที่พบบ่อยที่สุดไม่ใช่ภาวะทางอารมณ์ที่พังทลาย แต่เป็นอาการทางกายที่ไม่รุนแรง เช่น เวียนศีรษะเล็กน้อย (Dizziness) คลื่นไส้ (Nausea) หรือรู้สึกประหม่า กระสับกระส่าย (Nervousness) ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมีอาการเหล่านี้เพิ่มขึ้นมาเพียง 1 อย่างเท่านั้น ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่า "ไม่มีนัยสำคัญทางคลินิก" หรือพูดง่ายๆ คือ ไม่ได้รุนแรงจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมากนัก
คำถามสำคัญ แล้วถ้าความเศร้ากลับมาล่ะ? นี่คืออาการถอนยาใช่ไหม?
งานวิจัยนี้ให้คำตอบที่ชัดเจนมากครับว่า "ไม่ใช่" หากคุณรู้สึกว่าความเศร้า ความสิ้นหวัง หรืออาการของโรคซึมเศร้ากำลังกลับมา นั่นไม่ใช่อาการถอนยาครับ แต่มันเป็นสัญญาณว่า "เจ้าหมาดำ" หรือตัวโรคเอง อาจกำลังจะกลับมาอีกครั้ง ซึ่งนี่คือสัญญาณเตือนที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องรีบกลับไปปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อวางแผนการรักษาใหม่ ไม่ใช่การทนอยู่กับความเข้าใจผิดว่านี่เป็นแค่ผลข้างเคียงจากการหยุดยา
แต่...ในโลกนี้ไม่มีอะไร 100%
เพื่อให้เห็นภาพที่สมบูรณ์ งานวิจัยก็ยอมรับว่า ยังมีคนกลุ่มเล็กๆที่อาจจะมีอาการถอนยาที่รุนแรงกว่าคนอื่นได้ และยาบางตัว เช่น Venlafaxine (เวนลาฟาซีน) ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะได้บ่อยกว่ายาตัวอื่น
เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ป้าสมใจอาจจะยังรู้สึกกลัวอยู่บ้าง แต่ความกลัวนั้นคงไม่ได้มืดบอดเหมือนเคย มันมีความหวังและความเข้าใจเข้ามาแทนที่ หากคุณคือป้าสมใจในวันนี้ ผมอยากจะกระซิบบอกแนวทางในการปล่อยมืออย่างปลอดภัยว่า...
อย่าปล่อยมือเพียงลำพังเด็ดขาด นี่คือกฎเหล็กข้อแรกและสำคัญที่สุด ห้ามหยุดยาเองโดยพลการเด็ดขาดครับ
แล้วให้แพทย์เป็นผู้นำทาง แพทย์ผู้ดูแลคือคนที่รู้จักคุณและโรคของคุณดีที่สุด พวกเขาจะช่วยวางแผน "การเดินทางขาลง" หรือการค่อยๆ ลดขนาดยา (Tapering) อย่างช้าๆ และปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณโดยเฉพาะ
งานวิจัยชิ้นนี้เป็นเหมือนจดหมายรักที่ส่งมาถึงทุกคนที่เคยรู้สึกสิ้นหวังและหวาดกลัว มันบอกเราว่าคุณเข้มแข็งกว่าที่คุณคิด และอนาคตที่ปราศจากยาไม่ใช่ความฝันที่ไกลเกินเอื้อม
เรื่องราวของป้าสมใจในวันนี้ยังไม่จบลง แต่ฉากต่อไปของชีวิตเธอไม่ได้ถูกเขียนขึ้นด้วยความกลัวอีกต่อไปแล้ว แต่ถูกเขียนด้วยความหวังและความเข้าใจ... แล้วคุณล่ะ พร้อมที่จะเขียนบทต่อไปของชีวิตคุณ ด้วยความกล้าหาญและความรู้ที่ถูกต้องแล้วหรือยัง?
แหล่งอ้างอิง:
1. Imperial College London. (2025, July 9). Largest review of antidepressants to date finds most people do not experience severe withdrawal. Medical Xpress.
2. Kalfas, M., Jauhar, S., et al. (2025). Incidence and Nature of Antidepressant Discontinuation Symptoms, A Systematic Review and Meta-analysis. JAMA Psychiatry. DOI: 10.1001/jamapsychiatry.2025.1362.
โฆษณา