Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชตระกูล ศรีสวัสดิ์
•
ติดตาม
16 ก.ย. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก
ไทย
นักท่องเที่ยวสายขี้เมื่อยต้องไม่พลาด ร้านนวดในเชียงใหม่ ที่ซึ่งดูจะเป็นการบริการที่ใส่ใจมากที่สุด!
“ทริปนี้มีเรื่องนวด”ณ เรือนจำกลางเวียงเชียงใหม่ ( ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่) มีบริการนวดแผนไทยที่เปิดให้บริการในชื่อ "เรือนจำชั่วคราวกลางเวียง"
หรือ "Naree de'klangwiang" โดยเปิดให้บริการนวดแผนไทยและนวดฝ่าเท้า ซึ่งดำเนินการโดยผู้ต้องขังหญิง ทั้งนี้เพื่อเป็นการฝึกวิชาชีพให้แก่ผู้ต้องขัง
1
เรือนจำหญิงเชียงใหม่มีร้านนวดแผนไทย ได้เปิดบริการนักท่องเที่ยวสายขี้เมื่อยในชื่อ "Naree de'klangwiang" ที่สำคัญ พนักงานต้อนรับที่ออกบัตรคิวที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าคือ ผู้คุมเรือนจำเชียวนาครับ
1
และช่างเทคนิคที่นวดในห้องโถงด้านหลัง คือนักโทษหญิง นี่คือการปฏิรูปแรงงานของพวกเธอจริงๆ
"นวดฝ่าเท้า 200 บาท, นวดตัว 200 บาท, ชุดรวมนวดสองแบบครบชุด 400 บาท"
ด้วยเทคนิคการนวดแผนไทยฉบับต้นตำรับ ราคาบริการที่นี่เป็นธรรม และมีประสบการณ์ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ร้านนวดเรือนจำหญิงเชียงใหม่จึงเป็นที่รู้จักในวงการนวดแผนไทยมาเกือบทศวรรษ
เมื่อเป้าหมายของประเทศไทย เปลี่ยนจากประเทศมหาอำนาจทางเกษตรกรรมมาเป็นประเทศท่องเที่ยว
1
เรือนจำหญิงเชียงใหม่ก็ยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้น
เรือนจำแห่งนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ในเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำทั่วโลก
มีใบรับรองคุณภาพจาก TripAdvisor ที่ติดไว้ภายในร้านนวด แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและความนิยมของร้านนวดแห่งนี้
แต่ร้านนวดแห่งนี้ไม่รับจองใดๆ ทั้งสิ้น และต้องต่อคิวที่เรือนจำเท่านั้น
1
ด้วยข้อแตกต่างนี้...ทำให้ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวใดน่าสนใจไปกว่าร้านนวดในเรือนจำ แม้ว่าจุดชมวิวแห่งนี้จะมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมากสำหรับนักท่องเที่ยวก็ตาม
ดังนั้น โดยปกติแล้ว หากนักท่องเที่ยวมาถึงหลัง 10 โมงเช้า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้โควต้านวดสำหรับวันนั้นๆ
1
เนื่องจากร้านนวดจะเลิกงานตอน 16.30 น. พวกเขาจึงต้องคอยควบคุมในช่วงกลางวัน และรับบทอาชญากรที่ต้องรับโทษในตอนกลางคืน
ดังนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องขยันขันแข็งพอที่จะรีบไปร้านนวดแต่เช้าและได้รับการต้อนรับอย่างดีจากหมอนวด
ในฐานะแขก พวกคุณก็ต้องปฏิบัติตามกฎหนึ่ง คือ ห้ามถ่ายรูป
เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของนักโทษหญิง แน่นอนว่ายังมีการแอบถ่ายที่ผิดกฎหมายอยู่บ้างเช่นกัน
และพี่สาวผู้คุมเรือนจำทั้ง 5 คนที่เก่งกาจในการต่อสู้ระยะประชิดก็คอยเฝ้าระวังอยู่เสมอ ฮาาา
แต่ๆๆๆๆ ในร้านนวดก็มีเพียงไม่กี่แห่งที่อนุญาตให้ถ่ายรูปได้เช่นเดียวกันนะครับ
นั่นคือ เก้าอี้หวายรูปหัวใจที่วางอยู่ท่ามกลางดอกไม้และต้นไม้ให้บรรยากาศโรแมนติกแบบมีคลาส
แต่ข้อความ "ยินดีต้อนรับสู่เรือนจำ"
ที่เขียนไว้บนเก้าอี้กลับเป็นเหมือนน้ำเย็นราด ลงบนหัวใจที่ร้อนรุ่มของลูกค้าเมื่อนักท่องเที่ยวมาที่ร้านนวดเรือนจำหญิง
1
ที่ซึ่งตอนนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทางออนไลน์
สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือสัมผัสประสบการณ์การนวดแผนไทยและสั่งอาหารอร่อยๆที่แท้จริงที่สุด
เห็นได้ชัดว่าในการท่องเที่ยวเชิงถ่ายภาพ และการเช็คอินที่นี่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
แต่ด้วยอิสระภาพ ร้านนวดในเรือนจำไม่ได้ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เร่งรีบตรงกันข้ามกับความคาดหวังของนักท่องเที่ยวที่สั่งสมมายาวนาน
ที่สำคัญ ร้านนวดเรือนจำหญิงดูเหมือนจะไม่เต็มใจที่จะพัฒนาในวงกว้างเกี่ยวกับจุดประสงค์เดิมของการสร้างร้านนวดโดยผลกำไร
ในเรือนจำหญิงเชียงใหม่ไม่ใช่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว หรือหารายได้เสริมนะครับ
แต่มุ่งหวังที่จะช่วยให้ผู้หญิงไทยในเรือนจำสามารถกลับคืนสู่สังคม
2
พัฒนาทักษะการนวดเพื่อเลี้ยงชีพ และหลีกเลี่ยงการกระทำผิดซ้ำ
1
“ที่นี่ไม่มีกำแพง ที่นี่เป็นเรือนจำแบบเปิด” ผู้อำนวยการเรือนจำหญิงเชียงใหม่เคยกล่าวไว้ ด้วยความสำคัญของระบบเรือนจำแบบดั้งเดิมนั้นจะมีอยู่ 3 ด้าน
ได้แก่ การลงโทษ การป้องปราม และการเปลี่ยนแปลง
2
เรือนจำหญิงเชียงใหม่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถกลับคืนสู่สังคมและมีชีวิตที่ดีได้เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
นั่นเป็นเพราะ ถ้าไม่ใช่ผู้ที่ไม่มีอำนาจ หรือมีความกว้างขวาง การอยู่ในเรือนจำในประเทศไทยถือเป็นเรื่องยาก ....ฮาาาา หยอกๆๆๆๆๆ
3
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงอัตราการครองเรือนจำของประเทศสูงถึง 339.1% และตัวเลขนี้เป็นความจุที่เกินขีดจำกัดอย่างมาก
ทำให้เรือนจำแออัดแต่ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็มีอัตราผู้ต้องขังหญิงสูงที่สุดในโลกอยู่ที่ 12%
สำหรับผู้ต้องขังทุกๆ สิบคน จะมีผู้หญิงอย่างน้อยหนึ่งคน ที่กลับเข้ามาในนี้
1
จากข้อมูลสองชุดแสดงให้เห็นว่าชีวิตในเรือนจำหญิงที่คับแคบ และคำว่าคับแคบนั้นน่าสนใจ
ความคับแคบนี้ไม่ได้เกิดจากการละเมิดสิทธิของเจ้าหน้าที่เรือนจำ แต่มาจากการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังชายแบบเดิมๆ ที่ใช้วิธีการแบบ "เหมารวม"เหมือนกับอายัดเงินโอนจากธนาคาร
3
เพราะ ระเบียบวิธีในการบริหารเรือนจำหญิงส่วนใหญ่ลอกเลียนมาจากเรือนจำชายทั้งหมด
ทำให้กฎระเบียบหลายอย่างไม่สามารถบังคับใช้กับผู้ต้องขังหญิงได้ ด้วยจำนวนผู้ต้องขังหญิงที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย
การชี้แจงมาตรการบริหารจัดการพิเศษสำหรับเรือนจำหญิงจึงกลายเป็นประเด็นเร่งด่วนที่เพิ่มมากขึ้น และผู้ริเริ่มแนวคิดนี้เป็นครั้งแรกคือ
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
1
หรือ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ผู้ทรงผลักดันสิทธิของผู้ต้องขังหญิงอย่างเข้มแข็ง มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549
ด้วยพระบารมีอันไม่หยุดยั้ง องค์การสหประชาชาติจึงได้ตรา
1
“กฎว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงและมาตรการที่มิใช่การคุมขังสำหรับผู้กระทำความผิดหญิง”
หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ข้อกำหนดกรุงเทพฯ” ขึ้นในปี พ.ศ. 2553
1
กล่าวคือ เป็นข้อกำหนดสหประชาชาติ
ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงและมาตรการที่มิใช่การคุมขังสำหรับผู้กระทำผิดหญิง (United Nations Rules for the Treatment of Women Prisoners and Non-custodial Measures for Women Offenders หรือ The Bangkok Rules)
เป็นมาตรฐานสากลฉบับแรกของสหประชาชาติที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของผู้หญิงในระบบเรือนจำและผู้กระทำผิดหญิง
โดยครอบคลุมเรื่องต่างๆ เช่น สุขภาพอนามัย การตั้งครรภ์ การดูแลบุตร การฝึกอาชีพ และการลดการใช้มาตรการคุมขัง
กฎนี้ถือเป็นมาตรฐานสากลฉบับแรกของโลกสำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิง
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหลักชัยแห่งสิทธิที่เท่าเทียมกันในอีกส่วนหนึ่งของสังคมมนุษย์ขณะเดียวกัน
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงส่งเสริมนโยบายการพัฒนาทักษะทางสังคมสำหรับผู้ต้องขังหญิงในประเทศไทย
ผู้ต้องขังหญิงสามารถเรียนรู้ทักษะอาชีพต่างๆ
เช่น การทำอาหาร การเย็บผ้า งานฝีมือ และการนวดในเรือนจำ
1
เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการกลับคืนสู่สังคมหลังจากได้รับการปล่อยตัว แม้ว่าหลักสูตรฝึกอบรมการนวดจะเป็นที่นิยมในเรือนจำ
1
แต่ข่าวร้าย ก็คือ ผู้ต้องขังหญิงทุกคนก็ไม่สามารถเป็นช่างเทคนิคในร้านนวดในเรือนจำได้เช่นกัน
และข่าวดีก็คือ หาก คุณต้องการประกอบอาชีพหมอนวด โทษจำคุกที่เหลือจะต้องไม่เกินสามปีครึ่ง หรือน้อยกว่าหนึ่งปี
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้ต้องขังหญิงจำเป็นต้องฝึกฝนทักษะการเอาตัวรอดเพื่อเข้าสู่สังคมอย่างน้อยหนึ่งปีล่วงหน้า
ดังนั้น ในแง่หนึ่ง ผู้ต้องขังหญิงก็จะมีแรงจูงใจในการเรียนรู้มากกว่านักศึกษาไทยที่ผมต้องมานั่งสอน(เถียง)จนปวดหัว ฮาาาาา...
1
อย่างน้อยก็การต่อสู้ดิ้นรนของพวกเธอก็มีอนาคตที่ดี ยาวนาน และมั่นคง
เบลอสุดๆแล้วนาครับ
เหตุผลที่จำเป็นต้องมีระยะเวลาการเรียนรู้ที่ยาวนานเช่นนี้ก็คือ พวกเธอต้องเข้ารับการอบรมในเรือนจำจำนวน 300 ชั่วโมง
และฝึกงานก่อนเริ่มงานในเรือนจำอีก 150 ชั่วโมง
พวกเธอจึงจะมีโอกาสไปฝึกงานที่ร้านนวดได้หลังจากสำเร็จการให้บริการลูกค้าอย่างน้อยจำนวน 100 คน ในระหว่างการฝึกงานแล้วเท่านั้น
จึงจะได้รับใบรับรองคุณวุฒิวิชาชีพที่ออกโดยเรือนจำหญิง
ซึ่งสิ่งสำคัญนี้ จะเป็นบันไดสู่การหาเลี้ยงชีพในสังคมหลังจากได้รับการปล่อยตัว และกระบวนการช่วยเหลือทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
1
เป็นสวัสดิการสาธารณะ และผู้ต้องขังหญิงทุกคนที่ทำงานจะได้รับรายได้ 50% ทันที
ส่วนอีก 50% จะนำไปใช้จ่ายตามปกติของร้านนวด
รวมเงินเดือนประมาณ 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งผมดูแล้วมันดูจะสูงกว่าเงินเดือนพื้นฐาน 10,000 บาทในประเทศไทยเล็กน้อย
และเงินจำนวนนี้ก็จะกลายเป็นทุนเริ่มต้นหลังจากพ้นโทษของพวกเธออีกด้วย
และเมื่อรวมกับทักษะการนวดที่เชี่ยวชาญแล้ว ก็เพียงพอที่จะช่วยให้ผู้ต้องขังหญิงกลับคืนสู่สังคมหลังจากพ้นโทษ
และหลีกเลี่ยงการกลับไปก่ออาชญากรรมอีก
อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว อุดมการณ์ทางสังคมมักเบี่ยงเบนไปจากการต่อสู้ส่วนตัว แม้ว่าผู้ต้องขังหญิงจะมุ่งมั่นที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่
แต่พวกเธอก็มักจะหางานทำได้ยากเนื่องจากประวัติอาชญากรรม
1
อย่างน่าเสียดาย คนไม่อยากจ้างคนที่มีประวัติอาชญากรรม พวกนายจ้างกลัวพวกเธอ และกังวลว่าจะเดือดร้อน
1
นี่เป็นการค้นพบความยากลำบากที่นักโทษหญิงต้องเผชิญหลังจากได้รับการปล่อยตัว
ผู้หญิงบางคนอยากทำงานในสปาขนาดใหญ่ที่หาเงินได้มากกว่า แต่ด้วยประวัติอาชญากร
กลับเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเธอ
1
เมื่อพบว่ามีประวัติอาชญากรรม พวกเธอจะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไป จนนักโทษหญิงจะรู้สึกหงุดหงิดมาก
พวกเธอจึงตัดสินใจลาออกอย่างเด็ดเดี่ยว และเริ่มกลับเข้ารับสมัครที่ร้านนวดที่รับสมัครนักโทษหญิงที่ได้รับการปล่อยตัว...
แม้ว่าจะได้เงินที่น้อยกว่า แต่คนส่วนใหญ่ยอมหารายได้น้อยกว่า และอยากอยู่ที่นี่ เพราะที่นี่สะดวกสบายกว่าและเป็นที่เคารพมากกว่า
1
แม้ว่าแนวคิดทางสังคมจะทำให้การยอมรับนักโทษหญิงเป็นเรื่องยาก แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมักเลือกร้านนวดในเรือนจำหญิงเชียงใหม่ซะมากกว่า
พวกเขา (นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ) เชื่อว่านักโทษที่ยังทำงานที่ดี สุจริต มีทักษะที่ดีกว่า เชี่ยวชาญกว่า และทำงานหนักกว่า
ด้วยการกระทำของพวกเธอเต็มไปด้วยพลังแห่งการโหยหาอิสรภาพ
จะมีอะไรที่น่านับถือไปกว่าการดิ้นรนเพื่อกลับมาเกิดใหม่อีกหรือ???
1
ยกตัวอย่างเช่น นักโทษหญิงวัย 40 ปี ถูกจำคุกในข้อหาค้ายาเสพติดเมื่ออายุ 22 ปี พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตในปีนั้น ทิ้งน้องชายและหนี้สินไว้เบื้องหลัง
เธอจึงตัดสินใจผิดพลาดและต้องติดคุกนานถึง 17 ปี เพื่อชดใช้หนี้ให้พ่อปัจจุบันเธอเหลือโทษจำคุกเพียง 3 ปีสุดท้าย และกำลังฝึกฝนเป็นหมอนวด
“ฉันรู้สึกสงสารพวกเขาและสงสารตัวเอง ที่เรายอมสละอนาคตของตัวเองในวัยเดียวกัน”
เธอพูดเมื่อมีนักโทษหญิงรุ่นใหม่ถูกคุมขังในทุกสัปดาห์ หัวใจของเธอไม่อาจสงบลงได้เป็นเวลานาน
1
และสิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจได้คือการฝึกนวดกับเพื่อนร่วมห้องขัง
“สิ่งนี้ทำให้ฉันมั่นใจที่จะก้าวต่อไปในชีวิตในอนาคต ฉันไม่อยากกลับไปเดินตามเส้นทางเดิมๆ อีกแล้ว และฉันเชื่อมั่นว่าฉันจะค้นพบเส้นทางของตัวเอง”
ผมเองก็ขอให้มีความเจริญก้าวหน้าในวันข้างหน้าเป็นของทุกคนที่พยายามนะครับ
1
สถานที่: เรือนจำชั่วคราวกลางเวียง (ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่)
google.com
เรือนจำกลางเวียงเชียงใหม่
เยี่ยมชม
บริการ: นวดแผนไทย และนวดฝ่าเท้า
ผู้ให้บริการ: ผู้ต้องขังหญิง
วัตถุประสงค์: เพื่อฝึกวิชาชีพ
เวลาทำการ: วันจันทร์ - ศุกร์ 08:00 - 16:30 น.
และวันเสาร์ - อาทิตย์ 09:00 - 16:30 น.
ข้อมูลติดต่อ: 053-327053
blockditchallengeท้าปล่อยของ
ท่องเที่ยวไทย
รัก
บันทึก
7
10
5
7
10
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย