14 ก.ค. เวลา 16:01 • ไลฟ์สไตล์
เมื่อประมาณ อาทิตย์ก่อน ก่อนเข้าพรรษา เราก็ทำผ้าป่า มีผ้าไตรจีวร ร่วมๆกัน มา มีปัจจัย กองสังฆทาน ก็มีพระมารับกองผ้าป่า องค์แรกบอกว่า ฉันรับแต่ผ้าไตรจีวร แทนพี่ชาย ปัจจัยนั้นฉันรับไม่ได้ มันมีแต่เชื้อโรค ทำให้มาเกิดแก่เจ็บตาย ท่านมาอนุโมทนา รับผ้าไตรแล้ว ก็ไป .ก็มีอีกองค์หนึ่งมารับปัจจยังอนุโมทนา ให้เกิดเป็นบุญกุศล
พอองค์ที่สามมา ท่านก็ให้ยกของวางพาด บนผ้าที่ท่านวางลงมา ท่านก็บอก เครื่องบริวารนี้ มันมีแต่กรรม ท่านก็ช่วยสงเคราะห์ ปัจจัยนั้น มาแปรสภาพให้เป็นบุญ กระจัดกระจาย บุญนั้นให้แก่ผู้ที่ร่วมอนุโมทนามา และผู้ที่มาร่วมอนุโมทนา
พอท่านรับเสร็จ ท่านก็เล่าว่า พระอรหันต์ นั้นท่านมองพวกวัดถุปัจจัย บ้านช่อง ทรัพย์สินเงินทอง เป็นของไม่มีค่า เหมือนถนนหนทาง ที่เค้าก็เอาเงินทองมา แปรสภาพ เป็นถนนหนทาง คนก็เดินเหยียบย่ำ ไปบนถนน ที่มาจากเงินทอง จากหยาดเหงื่อแรงกาย ก็เหยียบย่ำไป เหมือนของไม่มีค่า
ทั้งสามองค์ที่ท่านมารับอนุโมทนา ท่านก็บอกว่า โยมไปพิจารณา ใครครวญดูน่ะ เรื่องราวสิ่งที่ยึดถือ ทำให้เวียนว่ายตายเกิด .
(องค์ที่สาม ท่านก็บอกชื่อท่าน. เราไม่ขอนำมากล่าว พระไม่สมควร )
คราวนี้ เรื่ิองของปัจจัยอะไรต่าง ที่ไปหามา หามากมายก่ายกอง หากไม่ใช้ ไม่มีความจำเป็น มันก็วางอยู่เฉย บางที่สะสมมา ก็ต้องเอาไปเก็บไปซ่อน .แล้วก็นั่งเฝ้ามันตอนร่างกายแก่เฒ่าชรา พอหมดลม มันก็กองทิ้งไว้ให้คนอื่นเค้าใช้ ..เพราะฉะนั้น เมื่อเรามาได้ เราก็สละ แบ่งมาสร้าง แประสภาพให้เป็นทานเป็นบุญเกิดขึ้น เมื่อก่อนเราก็ไม่รู้จักว่า บุญกุศลนั้น เป็นอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะเกิดเป็นบุญกุศลเกิดขึ้น ทั่งผู้ที่สร้างบุญ ทั้งผู้ที่รับอนุโมทนาครองผ้ากาสาวพัสตร์
พอเสร็จงานทำบุญ ก็มีผู้มาบอกให้ฟัง ว่าพระที่ท่านอยู่ป่า กายบริสุทธิ์ จิตบริสุทธิ์แล้ว ท่านมาหยิบจับน้ำที่ญาติโยมถวายหรอก เพราะน้ำในโลกมีแต่เชื้อโรค พวกคนธรรพ์ พวกเทพเค้่าไม่ไปหยิบจับ ดื่มกินหรอก เวลามาอนุโมทนา เค้าก็นั่งนิ่ง ๆ อนโมทนา
..ยิ่งมีการสอนธรรม จากจิตของผู้ที่เป็นพระบริสุทธิ์ เค้าก็มาฟังกัน เพื่อบันทึกเก็บไว้ที่ธาตุทั่งสี่ของเค้า เมื่อเค้ามาเกิดเป็นมนุษย์ เมื่อมีใครมาสะกิดจิตของเค้า เค้าก็เรียนรู้จักสร้างบุญกุศลต่อไปได้เลย ส่วนผู้ที่ที่ไม่มีนิสัย สร้างบุญกุศลมาเลย เค้าก็ไม่สามรถมาเรยีนรู้จักบุญกุศลได้เลย
โฆษณา