16 ก.ค. เวลา 09:46 • ข่าว

ชาวมาเลย์หัวจะปวด ทรัมป์เตรียมตั้งทูตสายโปร-อิสราเอล มาประจำมาเลเซีย

ทำอะไรตามใจ คือทรัมป์แท้ ใครจะว่าอะไรก็ช่าง ในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ต้องเตรียมใจรับมือกับสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ที่จะมาพร้อมกับการยั่วยุให้กวนใจสุดๆ อย่างที่รัฐบาลมาเลเซียกำลังจะต้องเจอในวันนี้
เมื่อมีข่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแล้วว่า เขาเสนอให้ นิค อดัมส์ มาเป็นเอกอัคราชทูตสหรัฐ ประจำกรุงกัลลาลัมเปอร์ในมาเลเซีย โดยที่ผู้นำสหรัฐได้อวยว่า นิค อดัมส์ นี่แหละ คือสุดยอดผู้รักชาติอย่างแท้จริง แต่สำหรับชาวมุสลิม-มาเลเซียจำนวนมากถึงกับเดือดว่า นี่เป็นการดูถูกคนมาเลเซียอย่างร้ายกาจที่สุด
อันเนื่องมาจากจุดยืนที่แสดงออกมาแข็งขัน และ ชัดเจนของรัฐบาล และกลุ่มชาวมุสลิมของมาเลเซีย มาโดยตลอดก็คือ การสนับสนุนปาเลสไตน์ และต่อต้านการรุกรานของฝ่ายอิสราเอล
แต่ว่าที่ ทูตสหรัฐฯ ประจำมาเลเซียคนใหม่นี้ ก็เปิดเผยตัวเองเช่นกันว่าเป็นสายโปร-อิสราเอลเต็มขั้น และมีทรัมป์เป็นไอดอล เคลมตัวเองอย่างหรูว่าเป็น Alpha-Male เป็นชายแท้แบบตะโกน ต่อต้านวิถีโว้ค และใครที่ไม่อยู่ข้างอิสราเอล คือพวกผู้ก่อการร้าย
นิค อดัมส์ มีชื่อเต็มๆ ว่า นิคโคลัส อดาโมโพลูส เป็นชาวออสเตรเลีย เชื้อสายกรีก เกิดที่ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และได้ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งในเนื้อเยื้อประสาท (นิวโรบลาสโต) ตั้งแต่ยังเป็นทารก มีความเสี่ยงสูงมากที่จะไม่รอด แต่ก็รอดได้จากการตรวจวินิจฉัย และ รักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกัน จนหายดี ที่อาจมีส่วนอย่างมากที่ทำให้เขารู้สึกรักและผูกพันกับประเทศสหรัฐอเมริการาวกับมาตุภูมิ มาตั้งแต่ยังเด็ก
นอกจากนี้ เขายังเติบโตมากับครอบครัวอนุรักษ์นิยมที่เลี้ยงดูเขามาอย่างเข้มงวด เคร่งศาสนา และส่งเข้าโรงเรียนชายล้วนชั้นดีในซิดนีย์ตั้งแต่ยังเด็ก จนกระทั่งจบจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ในระดับปริญญาตรี สาขามีเดียและสื่อสารมวลชน พอเรียนจบก็มาลงสนามการเมืองท้องถิ่นในซิดนีย์ทันที
และใช้ความสามารถด้านการพูดของเขาจนประสบความสำเร็จ ได้รับเลือกเป็นรองนายกเทศมนตรีในเขตแอชฟิลด์ ที่เป็นบ้านเกิดของเขาในปี 2005 ด้วยวัยเพียง 21 ปี นับเป็นรองนายกเทศมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในออสเตรเลีย
และเสนอนโยบายแปลกๆมากมาย ที่เป็นที่จดจำ (แต่ทำไม่ได้) อย่างให้กำจัดนกพิราบออกไปให้หมด เพื่อป้องกันไข้หวัดนก แต่ไม่ได้แจงวิธีการว่าจะต้องทำอย่างไร หรือ ตรวจจับเจ้าของสุนัขด้วย DNA เพื่อมาจ่ายค่าปรับที่ไม่ยอมเก็บมูลสุนัขของตัวเองในที่สาธารณะ นอกจากนี้ เขายังขาดประชุมสภาบ่อยครั้งเนื่องจากไปรับงานพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจไกลถึงสหรัฐอเมริกา
ต่อมาเขายังถูกสภาท้องถิ่นกล่าวหาว่ามาเบิกค่าโทรศัพท์ และ ค่าแท็กซี่ ของหลวงทั้งๆที่ไปทำธุระส่วนตัว และยังแฉด้วยว่า นิค อดัมส์ มีแนวคิดต่อต้านสังคมหลากหลายวัฒนธรรม เพราะมันจะนำไปสู่การเปรียบเทียบ และไม่เป็นเอกภาพ และเขายังเคยคุยกับคนในสภาท้องถิ่นว่า เขาจะไม่จบแค่ที่นี่ เป้าหมายต่อไปคือ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งออสเตรเลีย!!
แต่ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหน นิค อดัมส์ ก็ถูกพรรคเสรีนิยมที่เขาสังกัด สั่งพักงานเป็นเวลา 6 เดือน ที่สร้างความเสื่อมเสียให้พรรคด้วยการไปทะเลาะกับนักข่าวช่อง 10 ที่เตรียมแฉว่าเขาขาดประชุมสภาฯ ไปทำงานส่วนตัวที่ต่างประเทศบ่อยมาก แต่เขากลับด่าตอบนักข่าวด้วยด้วยถ้อยคำหยาบคาย แถมทิ้งท้ายด้วยว่า พรรคไม่ต้องมาพักงานเขาหรอก เพราะเขาขอลาออกจากพรรคมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
และนั่นเป็นวีรกรรมสุดท้าย ก่อนลาออกจากแวดวงการเมืองออสเตรเลียโดยถาวร เพื่อมาเริ่มต้นบทบาทใหม่ ที่อาจจะปังกว่าเก่า ในยุคของผู้นำที่เกิดมาเพื่อคนอย่างเขาที่แท้ทรู
หลังจากออกจากออสเตรเลีย เขาย้ายมาอยู่รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ประเทศในฝันของเขาในปี 2012 และได้เป็นพลเมืองอเมริกันสมใจ เขาก็ได้มาทำงานเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เป็นนักเขียน อินฟลูเอนเซอร์ และนักเคลื่อนไหวสายอนุรักษ์นิยมที่เผยแพร่ค่านิยมแบบอเมริกัน ที่พาเขาเข้าสู่กลุ่มการเมืองสายอนุรักษ์ และ โดนัลด์ ทรัมป์ได้ในที่สุด
โดยในปี 2016 เขาเข้าร่วมแคมเปญหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ชิงกับฮิลลารี คลินตัน พร้อมกับก่อตั้งมูลนิธิเพื่อเสรีภาพและความยิ่งใหญ่ของอเมริกา ไปพร้อมๆกัน และใช้ทักษะการพูดของเขาในการสรรเสริญทุกอย่างที่เป็นทรัมป์ ยอมแม้กระทั่งเป็นสายล่อฟ้าให้ทรัมป์ ที่ออกยืนยันว่า ทรัมป์ถูกปล้นชัยชนะจากการเลือกตั้งในปี 2020
และเมื่อทรัมป์ชนะเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2024 ชื่อของนิค อดัมส์ ก็กลับมาใหม่ พร้อมกับให้คำจำกัดความตัวเองว่าเป็นชายแท้ระดับ Alpha-male เป็นผู้ชายแถวหน้า และยังได้ออกผลงานหนังสือของตัวเองที่ชื่อว่า Alpha Kings ที่ทรัมป์มาเขียนคำนำลงหนังสือให้ด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ นิค อดัมส์ มักโพสต์ X แสดงความเห็นสุดโต่งของเขาอยู่บ่อยๆ อาทิ
"ถ้าคุณไม่ยืนอยู่ข้างอิสราเอล แสดงว่าคุณอยู่ข้างผู้ก่อการร้าย"
"เทเลอร์ สวิฟท์ เป็นราชินิเจซาเบลแห่งชาวโว้ค" (ราชินีในคัมภีร์ฮิบรูที่ภายหลังถูกโค่นบัลลังก์, จับโยนออกมาจากหน้าต่าง และถูกม้าเหยียบจนถึงแก่ความตาย)
"อย่าเลี้ยงลูกให้โตขึ้นมาเป็นเทเลอร์ สวิฟต์ หรือ แฮร์รี สไตล์"
และยังเขียนอวยตัวเองด้วยว่า เขาเป็นชายหนุ่มในอุดมคติที่มีแต่ผู้หญิงไล่ตาม เป็นชายผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูง มีรูปร่างเหมือนเทพเจ้ากรีก มีไอคิวระดับ 180 มีเสน่ห์ดึงดูดเย้ายวน ที่ทำให้ใครๆก็เกลียด แน้!!!
แม้ตรรกะหลายอย่างในชีวิตของ นิค อดัมส์ อาจจะฟังดูเพี้ยนๆ ความสามารถก็ยังเป็นข้อกังขา ไม่ต้องพูดถึงประสบการณ์ด้านการทูต ที่เห็นอยู่ว่า ไม่มี!! นอกจากความเป็นนักพูด แต่ทรัมป์ชอบ และเตรียมดันเขาให้มารับตำแหน่งเอกอัคราชทูตสหรัฐประจำมาเลเซีย ประเทศที่ปฏิเสธว่าจะไม่ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับอิสราเอล = เป็นผู้สนับสนุนการก่อการร้ายในคำนิยามของ นิค อดัมส์ นั่นเอง
และก็มีม็อบ เตรียมมาต้อนรับ นิค อดัมส์ เรียบร้อยแล้ว โดยกลุ่มผู้นำเยาวชนพรรคอิสลามแห่งมาเลเซีย ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาต่อต้านทูตคนใหม่ของสหรัฐอย่างชัดเจน ว่ามาเลเซียไม่ใช่ที่สำหรับทรราชไซออนนิสต์
สื่อในมาเลเซียก็ออกมาโจมตีหนักว่า
- มาเลเซียไม่ใช่สนามทดสอบของหุ่นเชิดทางการเมืองคนไหนของสหรัฐทั้งนั้น
- นิค อดัมส์ ไม่ใช่แค่ตัวแทนแห่งความขัดแย้ง แต่เขายังเป็นตัวกระจายความเกลียดชังต่อชาวมุสลิมอย่างเปิดเผย และสนับสนุนระบอบไซออนนิสต์โดยไม่ไตร่ตรองใดๆ
ดร. บริดเจ็ต เวลช์ นักวิเคราะห์การเมืองด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แสดงความเห็นว่า การที่ทรัมป์สนับสนุน นิค อดัมส์ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลอเมริกันในปัจจุบัน ขาดความเข้าใจ หรือเห็นถึงความสำคัญของมาเลเซียในภูมิภาคนี้อย่างสิ้นเชิง เป็นเหมือนการดูถูก และลดคุณค่าชาวมาเลเซีย ที่จะผลักดันในบรรดาชาติในอาเซียนไปเป็นพันธมิตรกับจีนมากขี้นด้วย แทนที่จะเป็นการสกัดอิทธิพลของจีนอย่างที่รัฐบาลสหรัฐตั้งใจ
ด้านสถานทูตสหรัฐในมาเลเซีย ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใดๆ ในประเด็นนี้ ส่วนการแต่งตั้งเอกอัคราชทูตคนใหม่ ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา
แต่ถ้าฮีทรัมป์จะเอาจริงๆ ใครจะไปขัดใจได้ มีอาวุธเป็นกำแพงภาษีอยู่ในมือซะอย่าง อยากทำอะไรก็ได้ เป็น alpha male ตัวพ่ออยู่แล้ว แถมหนังเหนียว เคี้ยวยากอีกต่างหาก
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา