พาลูกเที่ยวเซี่ยงไฮ้ เมืองเทคโนโลยี
ห่างหายไปนาน เนื่องจาก กำลังยุ่งกับการทำ Chatbot ที่สามารถสนทนากับลูกค้าแทนคนได้ โดยใช้ RAG (Retrieval Augmented Generation) เพื่อให้มีข้อมูลของแต่ละธุรกิจ เช่น รายละเอียดสินค้าหรือบริการ
นอกจากนี้ยังมี ทริป พาลูกชาย ไป Lego Land ที่เซี่ยงไฮ้ที่เพิ่ง เปิดเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา เลยอยากจะเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เซี่ยงไฮ้ ที่ได้ไปเจอมาในการเดินทางครั้งนี้
คุณเคยคิดไหมว่าการใช้ชีวิตในอนาคตจะเป็นอย่างไร 🤔 หุ่นยนต์ส่งอาหารถึงหน้าห้อง, โดรนบินส่งของ, พิพิธภัณฑ์ Sci-fi ที่ให้คุณเดินเข้าไปในนวนิยายได้จริงๆ
ถ้าคุณคิดว่าเหล่านี้เป็นเพียงจินตนาการ ลองไปดูที่เซี่ยงไฮ้สิ! 🏙️ เมืองแห่งนี้ไม่ใช่แค่ศูนย์กลางทางการเงินของจีนแล้ว แต่ยังเป็นห้องทดลองเทคโนโลยีที่ทำให้เราได้สัมผัสอนาคตได้แล้ววันนี้
การเดินทางจากสนามบิน Pudong เข้าใจเมืองก็เป็นประสบการณ์เทคโนโลยีแล้ว! 🚄 รถไฟแมกเลฟ Shanghai Maglev ที่ใช้เทคโนโลยีแม่เหล็กลอยตัว วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม. (ความเร็วสูสีกับที่ญี่ปุ่นเลย) เข้าโค้งทีเอียงเกือบ 45 องศา ลูกชาย ถึงกับบอกว่า "ป๊า ผมกลัวตาย!!"
รถไฟความเร็วสูง Shanghai Maglev
ตั้งแต่ขึ้นรถไฟ คุณจะรู้สึกเหมือนนั่งยานอวกาศ ไม่มีเสียงล้อกระทบราง เพราะรถไฟลอยอยู่เหนือราง 2-3 เซนติเมตร ✨ ระยะทาง 30 กิโลเมตรใช้เวลาเพียง 8 นาที เท่านั้น! ก็ถึงใจกลางเมืองที่สถานี Longyang Road
ภายในรถไฟมีจอแสดงความเร็วแบบเรียลไทม์ เมื่อเห็นเลข 300 กม./ชม. ขึ้นมา หัวใจจะเต้นแรงกว่าเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกอีก 🎢 นี่คือจุดเริ่มต้นของการสัมผัสเทคโนโลยีเซี่ยงไฮ้!
หิวข้าว แต่ไม่อยากออกจากห้อง 🍜 ที่เซี่ยงไฮ้ คุณไม่ต้องรอคนส่งอาหารอีกต่อไป! หลายโรงแรมใช้หุ่นยนต์ส่งอาหารแล้ว ตัวเจ้าหุ่นยนต์นี้ฉลาดพอที่จะเข้าลิฟต์ เดินผ่านโถงทางเดิน และมาส่งอาหารถึงหน้าประตูห้องคุณเลย
ไม่เพียงแค่นั้น ตอนนี้เขากำลังทดลองใช้โดรนส่งอาหารด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่รถติดหนัก 🚁 ส่วนตอนไปกินข้าวร้าน ก็ไม่ต้องรอเซิร์ฟเวอร์ เพียงแค่แสกน QR Code สั่งอาหารผ่านแอป WeChat หรือ Alipay ก็จบ! (ต้องมี ซิมมือถือจีน)
บางร้านยังมี AI ช่วยในครัวด้วย ช่วยคำนวณเวลาทำอาหารและปริมาณเครื่องปรุงให้พอดี 🤖
เด็กๆ เบื่อแล้วกับสวนสนุกธรรมดา? 🎢 ลองพาไปที่หอไข่มุกสิ! (Oriental Pearl Tower) ที่นี่ไม่ใช่แค่จุดชมวิวธรรมดา แต่เป็นสวนสนุกเทคโนโลยีเต็มตัว
หุ่นยนต์ส่งของในโรงแรม
พิพิธภัณฑ์แบบอินเทอร์แอคทีฟใช้ Augmented Reality (AR) ทำให้ประวัติศาสตร์เซี่ยงไฮ้มีชีวิตขึ้นมา 📱 ส่วนทางเดิน Transparent Skywalk ก็ให้คุณเดินบนกระจกใสมองเมืองข้างล่าง หัวใจเต้นแรงแน่นอน!
ที่เด็ดที่สุดคือ Space Capsule VR Zone ที่ให้เด็กๆ ได้สัมผัสการเดินทางสู่อวกาศ 🚀 ด้วยจำลองการเคลื่อนไหวและภาพ 360 องศา รับรองว่าตื่นเต้นกว่าดูหนังไซไฟเยอะ!
กิจกรรมในหอไข่มุก
แฟนไซไฟห้ามพลาด! 🛸 พิพิธภัณฑ์ไซไฟ "Waving Cube" ที่ได้แรงบันดาลใจจากนวนิยายดัง "The Three-Body Problem" ของหลิวเฉินซิน ทำเป็นซีรีส์ใน Netflix ด้วยนะ เด็กๆดูกับผู้ปกครองได้ทั้งความรู้และความสนุกทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ที่นี่มี Droplet Theater ที่ใช้เลเซอร์และเอฟเฟกต์ลอยตัว ทำให้รู้สึกเหมือนเข้าไปในเรื่อง
ยังมีจำลองยานรบ Natural Selection ขนาด 13 เมตร ที่มีแหวนอาวุธหมุนได้และระบบไฟที่เปลี่ยนไปตามจังหวะ ⚡
ส่วน Dome Challenge Arena เป็นโรงภาพยนตร์แบบอินเทอร์แอคทีฟ ที่ผู้ชมต้องร่วมมือกันแก้ปริศนาจักรวาล ด้วยพื้นที่ตรวจจับการเคลื่อนไหว
Waving Cube Sci-fi museum
นอกจากความสนุกแล้ว ยังมีโรงภาพยนตร์วิทยาศาสตร์อธิบายฟิสิกส์จริงที่อยู่ในนวนิยายด้วย เรียนรู้ไปสนุกไป! 🧠 ที่นี้นั่งรถแท็กซี่ไปไกลหน่อยประมาณชั่วโมงกว่า ปิด วัน จันทร์ อังคาร
เลโก้แค่ต่อก้อนธรรมดา? ไม่หรอก! 🧱 ที่ Shanghai Lego Land Discovery Center เด็กๆ ได้เล่นเลโก้แบบดิจิทัล
VR Lego Rides ให้เด็กออกแบบรางรถไฟเหาะเอง แล้วนั่งเล่นในโลกเสมือนจริง 🎠 ส่วน AR Build Zones ทำให้ผลงานเลโก้ที่ต่อเสร็จมีชีวิตขึ้นมาบนหน้าจอ
ที่เจ๋งที่สุดคือ Lego Robotics Workshops ที่สอนเด็กๆ เขียนโปรแกรมให้หุ่นยนต์เลโก้ทำภารกิจต่างๆ การเรียนรู้ coding ผ่านการเล่นแบบนี้ เด็กๆ จำได้ไวกว่าเรียนในห้องเรียนเยอะ! 💻
Lego Land Resort เซี่ยงไฮ้
เซี่ยงไฮ้ไม่ใช่แค่เมืองที่ใช้เทคโนโลยี แต่ยังเป็นที่เกิดของเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วย 💡 Zhangjiang AI Island คือศูนย์กลางวิจัย AI ที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Baidu, Tencent, Huawei
ทุกปีมีงาน MWC Shanghai ที่โชว์นวัตกรรม 5G, AI, IoT จากทั่วโลก 🌐 ส่วนโปรแกรม ShanghAI 2025 พาผู้นำด้านเทคโนโลยีเยี่ยมชม AI labs, ศูนย์หุ่นยนต์ และฟังสตาร์ทอัพพิทช์ไอเดีย
ด้วยเครือข่าย 5G ที่จะครอบคลุม 88% ของเมืองในปี 2030 เซี่ยงไฮ้จึงเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล 📶
จากหุ่นยนต์ส่งอาหารไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ไซไฟที่ขับเคลื่อนด้วย AI 🤖 เซี่ยงไฮ้แสดงให้เห็นว่าอนาคตไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกแล้ว
ไม่ว่าคุณจะเป็นคนท้องถิ่นหรือนักท่องเที่ยว เมืองนี้มีโอกาสให้คุณได้สัมผัสเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย
ทำไมเซี่ยงไฮ้ถึงเป็นเมืองเทคโนโลยีได้ขนาดนี้? 🤔 คำตอบคือ "ระบบนิเวศ" (Ecosystem) ที่ครบวงจร! รัฐบาลจีนไม่ได้แค่ให้เงินอุดหนุน แต่สร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เครือข่าย 5G, ศูนย์ข้อมูล, และนโยบายที่เอื้อต่อนวัตกรรม
ภาคเอกชนก็ไม่ได้นั่งเฉยๆ บริษัทใหญ่อย่าง Alibaba, Tencent ลงทุนวิจัยพัฒนาหนัก ขณะเดียวกันก็ให้ทุนสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ 💰 การทำงานร่วมกันระหว่างรัฐและเอกชนทำให้เกิดพลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง
ที่สำคัญคือ "การศึกษา" ตั้งแต่เด็ก! 👶 โรงเรียนในเซี่ยงไฮ้เน้นสอน STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics ), coding, หุ่นยนต์ เด็กๆ เติบโตขึ้นมาพร้อมกับเทคโนโลยี ได้ลงมือทำ และ เห็นการใช้งานจริง เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ก็กลายเป็นกำลังหลักในการสร้างนวัตกรรม
สถานที่อย่าง Lego Land, พิพิธภัณฑ์ไซไฟ ไม่ใช่แค่สถานที่เที่ยว แต่เป็น "ห้องเรียนแห่งอนาคต" ที่ปลูกฝังความคิดสร้างสรรค์ให้เด็กๆ 🧠
ผลลัพธ์ที่ได้? เซี่ยงไฮ้กลายเป็นเมืองที่ทุกคนอยากมาทำงาน อยากมาเรียนรู้ และอยากมาสร้างสิ่งใหม่ๆ นี่แหละคือ "วงจรแห่งความสำเร็จ" ที่เมืองเทคโนโลยีต้องมี!
ใครที่กำลังวางแผนเที่ยวให้ลูกๆ อย่าลืมใส่เซี่ยงไฮ้
#เซี่ยงไฮ้เทคโนโลยี
#เที่ยวจีนสไตล์เทค
#SmartCityLife
#หุ่นยนต์ในชีวิตจริง
#พาลูกเที่ยวสายเทค
Writer : DeepSeek/Claude Sonnet 4
Image : Techy Dad/english.shanghai.gov.cn
Editor : Techy Dad
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
