20 ก.ค. เวลา 06:00 • ไอที & แก็ดเจ็ต

YouTube ปรับกฎใหม่ คลิปซ้ำ-คลิปก๊อบ สร้างรายได้ไม่ได้ เริ่ม 15 ก.ค.นี้

YouTube เตรียมปรับกฎใหม่ คลิปซ้ำ-คลิปก๊อบ ใช้สร้างรายได้ไม่ได้ ไม่นับคลิปประเภท "รีแอ็กชัน" ส่วนคลิปสร้างด้วย AI จ่อโดนด้วย เริ่ม 15 ก.ค. นี้
YouTube แพลตฟอร์มสตรีมวิดีโอชื่อดัง ได้ประกาศกฎใหม่เกี่ยวกับการสร้างรายได้สำหรับครีเอเตอร์ ในโครงการยูทูบพาร์ตเนอร์ (YouTube Partner Program หรือ YPP) เพื่อจัดการกับคอนเทนต์ที่ไม่ใช่ต้นฉบับ (Inauthentic) และมีการผลิตซ้ำเป็นจำนวนมาก (Mass-Produced) ซึ่งมักถูกสร้างขึ้นด้วย AI
YouTube ระบุในหัวข้อการปรับปรุงนโยบายใหม่ว่า “อัปเดตนโยบายสร้างรายได้ของโปรแกรมพาร์ตเนอร์ YouTube (YPP) เพื่อให้สามารถสร้างรายได้ภายใต้โปรแกรมพาร์ตเนอร์ YouTube (YPP) ได้”
YouTube ปรับกฎใหม่ คลิปซ้ำ-คลิปก๊อบ สร้างรายได้ไม่ได้ เริ่ม 15 ก.ค.นี้
“YouTube ได้กำหนดมาโดยตลอดว่า ผู้สร้างต้องอัปโหลดเนื้อหาที่ ‘เป็นต้นฉบับ’ และ ‘ไม่ซ้ำใคร’ โดยในวันที่ 15 กรกฎาคม 2025 YouTube จะอัปเดตแนวทางเพื่อให้สามารถระบุเนื้อหาที่ผลิตจำนวนมากและผลิตซ้ำ ๆ ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น การอัปเดตนี้มีเป้าหมายเพื่อสะท้อนภาพของ ‘เนื้อหาที่ไม่เป็นต้นฉบับ’ ในยุคปัจจุบันได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น”
ด้านเว็บไซต์สื่อไอที Tech Crunch เผยว่า แม้ผู้สร้างคอนเทนต์บางรายจะกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจกระทบกับวิดีโอประเภท “รีแอ็กชัน” หรือวิดีโอที่ใช้คลิปประกอบ แต่ เรเน่ ริทชี่ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารกับครีเอเตอร์ของ YouTube ยืนยันว่า ไม่ใช่กรณีดังกล่าว และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นเพียงการอัปเดตเล็กน้อย ที่มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับคอนเทนต์ที่ผลิตซ้ำ หรือไร้คุณภาพ ซึ่งถือว่าไม่สามารถสร้างรายได้มาเป็นเวลานานแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ YouTube จะเรียกการปรับนโยบายครั้งนี้ว่าเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริง ปัญหาคอนเทนต์ที่สร้างจาก AI หรือที่ถูกเรียกว่า “AI Slop” กำลังทวีความรุนแรง โดยเฉพาะวิดีโอที่ใช้เสียงสังเคราะห์จาก AI นำมาใช้ในงานที่มีอยู่ก่อนแล้ว ผ่านการอาศัยเครื่องมือแปลงข้อความเป็นวิดีโอ (text-to-video AI) ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากผลิตเนื้อหาคุณภาพต่ำได้ง่ายกว่าที่เคย
Tech Crunch ยกตัวอย่างเนื้อหาคุณภาพต่ำ เช่น ช่องเพลงที่ใช้ AI สร้าง มีผู้ติดตามหลักล้าน วิดีโอข่าวปลอม เช่น คดีของ “P. Diddy” ซึ่งถูกสร้างด้วย AI ก็มีผู้ชมหลายล้านวิว รายการแนวฆาตกรรมที่กลายเป็นไวรัล ก็พบว่าทำด้วย AI ทั้งหมด หรือแม้แต่หน้าตาของซีอีโอ YouTube อย่าง “นีล โมฮาน” ยังถูกนำไปใช้หลอกลวงในคลิปฟิชชิง
แม้ YouTube จะมีเครื่องมือสำหรับรายงานคลิปปลอมเหล่านี้อยู่แล้ว แต่การที่คอนเทนต์ AI สามารถเผยแพร่และทำเงินได้ อาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มในระยะยาว
การปรับนโยบายครั้งนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อสกัดไม่ให้นักสร้าง AI Slop เข้าร่วมโครงการสร้างรายได้ และปกป้องคุณค่าของ YouTube ในฐานะแพลตฟอร์มเนื้อหาคุณภาพที่สร้างโดยมนุษย์
ที่มา: YouTube / Tech Crunch
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/news/252386
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา