Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Pawdoc Station.
•
ติดตาม
20 ก.ค. เวลา 02:00 • สัตว์เลี้ยง
Pawdoc station EP.25 : แมวไม่กินอาหาร...ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
“แมวชอบเลือกกิน” อาจเป็นคำพูดที่เราได้ยินจนชิน และหลายคนอาจรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่หากวันหนึ่งเจ้าเหมียวที่เคยกินอาหารจานโปรดอย่างอร่อย กลับนิ่งเฉยไป ไม่แตะ ไม่ดม หรือกินแค่นิดเดียวแล้วเลิก พฤติกรรมเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่ความขี้เบื่อธรรมดา ๆ อีกต่อไป
ในทางสัตวแพทย์ การที่แมวไม่กินอาหารต่อเนื่องเพียง 24–48 ชั่วโมง ถือเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในแมวที่มีน้ำหนักเกินหรือแมวที่มีภาวะเครียดแฝง เนื่องจากอาจนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า hepatic lipidosis หรือ โรคไขมันสะสมในตับ ซึ่งเป็นภาวะที่ต้องเฝ้าระวังเป็นอย่างมาก และอาจถึงแก่ชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
🧠 ทำไมการไม่กินอาหารในแมวจึงอันตราย?
แมวเป็นสัตว์ที่มีระบบเมตาบอลิซึมเฉพาะตัว ซึ่งต่างจากสัตว์ชนิดอื่น เมื่อพวกเขาไม่ได้รับอาหารเพียงพอ ร่างกายจะเริ่มสลายไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงาน แต่ปัญหาคือ ตับของแมวไม่สามารถจัดการกับไขมันในปริมาณมากได้ ส่งผลให้ไขมันไปสะสมในเซลล์ตับมากเกินไป จนเกิดการอักเสบและตับวายในที่สุด
ภาวะนี้พบได้บ่อยในแมวที่มีน้ำหนักเกินหรือมีโรคประจำตัวอื่นอยู่ก่อนแล้ว และมักเริ่มจากเหตุการณ์เล็ก ๆ ที่ดูไม่น่ากังวล เช่น การย้ายบ้าน เจ้าของไม่อยู่ สัตว์เลี้ยงตัวอื่นเข้ามาใหม่ หรือแม้แต่การเปลี่ยนอาหารกระทันหัน แมวที่ไวต่อสิ่งแวดล้อมอาจตอบสนองด้วยการหยุดกินทันที และหากเจ้าของไม่สังเกต อาจพลาดโอกาสในการรักษาแต่เนิ่น ๆ ได้
🐾 สัญญาณเตือนที่เจ้าของควรสังเกต ได้แก่
• แมวไม่กินอาหารเลย หรือกินได้น้อยมากติดต่อกัน 1–2 วัน
• ซึม เงียบ ไม่เล่น ไม่สนใจของโปรดที่เคยชอบมาก ๆ
• ชอบหลบมุม นอนนิ่ง หรือแยกตัวจากคนและสัตว์ภายในบ้าน
• น้ำหนักลดรวดเร็วในเวลาไม่กี่วัน
• ผิวหนัง เหงือก ใบหู หรือเยื่อบุตาเริ่มมีสีเหลือง (สัญญาณของดีซ่าน)
• มีอาการอาเจียน น้ำลายมากผิดปกติ เดินเซ หรือไม่มีแรง
หากพบพฤติกรรมดังกล่าวควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะการรอให้ “หายเอง” อาจทำให้สายเกินแก้ได้
🩺 หากพบว่าแมวมีภาวะเหล่านี้ สามารถรักษาได้ไหม? ต้องทำอย่างไร?
การรักษา hepatic lipidosis ต้องอาศัยการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเป้าหมายหลักคือการทำให้แมวได้รับพลังงานและสารอาหารที่เพียงพออย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งในกรณีที่แมวไม่สามารถกินเองได้ อาจต้องใช้การให้อาหารผ่านทางสายให้อาหาร เช่น esophagostomy tube หรือ nasogastric tube ซึ่งช่วยให้สัตวแพทย์ควบคุมปริมาณสารอาหารได้แม่นยำ
นอกจากการให้อาหารแล้ว การรักษายังรวมถึงการแก้ไขภาวะขาดน้ำ การควบคุมอิเล็กโทรไลต์ภายในร่างกาย การให้ยาลดอาเจียน ยาบำรุงตับ และการติดตามการทำงานของตับอย่างใกล้ชิด หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมตั้งแต่ต้น แมวจำนวนมากสามารถฟื้นตัวได้เต็มที่ภายในไม่กี่สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการรักษาขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่แมวหยุดกินก่อนเข้ารับการดูแล และพื้นฐานสุขภาพเดิมของแมวตัวนั้น ๆ ด้วย และหากพบว่าสัตว์เริ่มมีภาวะดังกล่าว ยิ่งปล่อยไว้นานเกินไป อัตราการรอดชีวิตจะลดลงตามไปด้วย
❤️ สิ่งที่อยากฝากเหล่าทาสแมวทั้งหลาย...
แมวเป็นสัตว์ที่เก็บอาการเก่งมาก และบางครั้งเขาไม่แสดงความเจ็บป่วยให้เห็นเลยจนกว่าจะสายเกินไป การที่เขาไม่กินข้าว ไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ควรคิดว่าเป็นเพียงพฤติกรรมชั่วคราวที่หายได้เอง
แม้เขาจะนอนนิ่ง ดูเฉย ๆ ไม่ร้อง ไม่อ้อนเหมือนปกติ แต่ในร่างกายของเขาอาจกำลังเกิดวิกฤตที่อาจพรากชีวิตได้เนื่องจากยังมีรายงานการเสียชีวิตจากภาวะ Hepatic lipidosis ในแมวได้อยู่เรื่อย ๆ เจ้าของทุกคนจึงควรเฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ เหล่านี้ให้ดี เพราะบางครั้งแค่พาไปหาหมอเร็วขึ้นเพียงวันเดียว อาจทำให้เขายังได้อยู่กับเราไปอีกนาน
ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามพวกเรา Pawdoc station ทุกช่องทาง เพื่อที่จะไม่พลาดเนื้อหาใหม่ๆของพวกเรา
ติดตาม Pawdoc station ได้ที่ช่องทางหลัก ดังนี้
- Blockdit :
https://www.blockdit.com/pawdocstation
- Facebook :
https://www.facebook.com/profile.php?id=61573439400610
- Instagram :
https://www.instagram.com/pawdocstation/
- Youtube :
http://www.youtube.com/@PawDocStation
สัตว์เลี้ยง
สุขภาพ
ความรู้รอบตัว
3 บันทึก
5
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Pawdoc station Episode.
3
5
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย