20 ก.ค. เวลา 03:43 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

🎬 Jurassic World: Rebirth - ’ตำนานกลับมาอีกครั้ง กับหนังแฟรนไชส์ไดโนเสาร์ที่เราคิดถึงกันสุดๆ!‘

บอกเลยว่าเฝ้ารอหนังเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นปี
คาดหวังตั้งแต่เห็นทีมนักแสดง อย่างการคืนจอให้หายคิดถึงของ Scarlett Johansson
และที่สำคัญ Jonathan Bailey ปลื้มมาตั้งแต่เป็นพระเอกมาดเข้มใน Bridgerton และ กับการได้มาแสดงหนังบู๊ฟอร์มยักษ์นี้ครั้งแรก (แหม่! รู้เลยนะทำไมเลือกโปสเตอร์รูปนี้)
ยังไม่ได้คิดเรื่องไดโนเสาร์เลย คือแกจะเอาตัวอะไรมาก็ได้ แต่แค่อย่าลืม T. Rex ผมนะ
ซึ่งเอาจริงหนังให้คุณได้มากกว่า…นั้นอีก!
—- เมื่อโลกไม่ได้ตื่นเต้นกับไดโนเสาร์อีกต่อไป มันเป็นแค่สิ่งมีชีวิตอันตรายที่ถูกทิ้งไว้ และบางตัวก็ยังอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นชื้นเหมือนยุคดึกดำบรรพ์
นั่นคือที่ประเทศไทย หรือเอาให้เจาะจงหน่อยคือ จังหว้ดพังงา ฮ่า!
แต่ยังมีบางคนอยากได้ของดีจากเจ้าพวกตัวยักษ์นี้ จนตั้งทีมพระกาฬไปปฏิบัติภารกิจแอบเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม
โดยที่ไม่รู้เลยว่า…บนเกาะนั้นมีบางสิ่งที่ยิ่งกว่าไดโนเสาร์ที่เรารู้จักกันอาศัยอยู่ด้วย
สิ่งที่ได้จากเรื่องนี้อย่างแรกเลยนะ…ไม่กล้ากินหนมแล้ววางทิ้งไว้บนพื้นแล้วคับ ฮ่า!
หนังเปิดมาด้วยฉากที่ลุ้นระทึก แบบน่ากลัวเอาเรื่อง ตัวอะไรวะนั่น! ให้คนดูสงสัย ซึ่งในส่วนนี้หนังทำออกมาได้ดีมาก
ไดโนเสาร์แต่ละตัว แต่ละสายพันธุ์ยังคงดุดันไม่เกรงใจใคร นึกว่าจะมาแบบติ๋มๆ
คงจะมีแค่น้องคอยาวเท่านั้นแหละที่น่ารักเสมอ
ขนาดน้องนกตัวเท่า F-16 ยังไม่อ่อนโยน ฮ่า!
ฉากบู๊เอย อะไรเอยยังทำเอาตื่นเต้นจนนั่งลุ้นไปด้วยทุกฉาก ซึ่งหนังมักจะใช้เทคนิคคนดูเห็น แต่ตัวละครไม่เห็น ก็ทำได้แค่ลุ้นว่า ไอ้เหี้ย ระวัง!
ความบู๊ชั้นตกมาที่ Scarlett Johansson ยังคงเท่ระเบิดระเบ้อ เช่นเดียวกับคุณพี่ Mahershala Ali เท่ไม่มีใครเกินละ ส่วน Jonathan Bailey ถึงจะแสดงหนังบู๊ แต่คุณคือพ่อหนุ่มเนิร์ดไดโนเสาร์อ่ะ ก็ขอเท่สไตล์พ่อหนุ่มสุดเนิร์ดไปก่อนละกันนะ
กับครอบครัวตัวโจ๊กที่ตามสไตล์หนัง Jurassic จะต้องมีเด็ก ซึ่งก็เป็นครอบครัวตัวโจ๊กจริง ทำเอาทั้งโรงฮาครื่นกันเป็นพักๆ เลยทีเดียว โดยเฉพาะว่าที่ลูกเขยกับพ่อตานี่แหละ
โดยรวมแล้วหนังยังทำออกมาได้ลุ้นระทึก ตื่นเต้น และบันเทิงไม่น้อยเลย
บางอย่างมันก็ดูเว่อร์ไปหน่อย แต่เป้าหมายคือให้เราลุ้นนั่งไม่ติดเบาะก็ยังเวิรก์นะ และที่สำคัญคือการเล่นกับแสง ไฟ และเงาคืออย่างชอบเลย
เอาจริงแอบหลุดกรี๊ดมาหลายรอบด้วย ฮ่า จนกังวลว่าคนสูงวัยมาดูต้องระวังหัวใจกันหน่อยนะ
แต่พอเป็นส่วนของเนื้อเรื่องเราว่ามันเบาไปหน่อย เหมือนจุดที่ต้องการจะเน้นมันกระจัดกระจายมากไป อีกแง่หนึ่งมันดูเหมือนจู่ๆ ก็มีคนมารวมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ความเชื่อมโยงมันขาดๆ ไป เลยรู้สึกดูจบก็จบ ไม่ได้ Impact เหมือนภาค Jurassic world ภาคแรก ซึ่งก็แอบเสียดายอยู่นะ
สุดท้ายถ้าเอาเพื่อความบันเทิง เหล่าไดโนเสาร์ก็ทำหน้าที่ได้เริศเลยทีเดียว ดูจากรายได้ทั่วโลกก็ยังฟาดไปถึง $500 กว่าล้านเหรียญ จากทุนสร้างประมาณ $180 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จไม่ใช่เล่น
หรือที่จริงสำหรับเรา ไดโนเสาร์ยังคงเป็นสิ่งที่ตื่นเต้นเสมอกันนะ
ตอนนี้หนังยังคงฉายในโรงภาพยนต์นะคะ
ใครที่ดูแล้วอยากรู้เลยว่า --ไปติดสปอย Alert ได้-- ว่าชอบฉากไหนกันมากที่สุด
โฆษณา