21 ก.ค. เวลา 00:30 • ข่าวรอบโลก

ความฝันของกัมพูชา ภายใต้อำนาจจีน

หลังสงครามเขมรแดงสงบลง ฮุนเซนได้เปลี่ยนพรรคคอมมิวนิสต์ประชาชนปฏิวัติเขมรของเขาเป็นพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) แต่แพ้การเลือกตั้งที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสหประชาชาติในปี 2536 ให้กับกลุ่มนิยมเจ้าที่นำโดยเจ้าชายนโรดม รณฤทธิ์ พรรคของฮุนเซนไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และเกือบจะนำประเทศเข้าสู่สงครามกลางเมืองครั้งใหม่ แต่สุดท้ายเกิดการประนีประนอม โดยเจ้าชายรณฤทธิ์และฮุนเซนได้เป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกัน
1
ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2540 ฮุนเซนได้ก่อรัฐประหารและขับไล่เจ้าชายรณฤทธิ์ออกนอกประเทศ พร้อมสั่งประหารชีวิตอดีตรัฐมนตรี 2 คน และเจ้าหน้าที่พรรคร่วมมากกว่า 40 คน ส่งผลให้นานาชาติประณามการกระทำและระงับความช่วยเหลือ โดยเฉพาะญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้บริจาคเงินรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในขณะนั้น
1
ในขณะที่ฮุนเซนถูกโดดเดี่ยวโดยนานาชาติ จีนเป็นประเทศแรกที่ยอมรับระบอบการปกครองของฮุนเซนหลังการรัฐประหาร ซึ่งฮุนเซนได้ตอบสนองจีนด้วยการสั่งปิดสำนักงานประสานงานของไต้หวันในกรุงพนมเปญ เพื่อเป็นการเอาใจปักกิ่ง แล้วก้าวเข้าสู่อำนาจของจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ
.
ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 ฮุนเซนได้เดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการและได้รับเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และเงินค้ำประกันความช่วยเหลือต่างประเทศมูลค่า 18.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่นานนักลงทุน นักธุรกิจ และผู้อพยพชาวจีนก็เดินทางมาถึงกัมพูชาเพื่อลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม การทำเหมือง การผลิตโลหะ การเกษตร โรงแรม และการท่องเที่ยว พร้อมทั้งนำกัมพูชาเข้าสู่สมาชิกอาเซียน
กัมพูชาเปิดรับการสนับสนุนจากจีนภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) โดยโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของจีนจำนวนมากภายใต้ BRI ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ ทางด่วนพนมเปญ-สีหนุ สนามกีฬาแห่งชาติโมโรดอกเตโช ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบ-อังกอร์ และคลองฟูนันเตโช
ตามข้อมูลของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา (MEF) มากกว่า 40% ของหนี้ต่างประเทศมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ของกัมพูชาเป็นหนี้อยู่กับจีน ทำให้กัมพูชาติดอยู่ใน "กับดักหนี้" ของจีน
.
เนื่องจากพึ่งพาความช่วยเหลือจากจีนเป็นอย่างมาก กัมพูชาจึงกลายเป็นฝ่ายอ่อนน้อมต่อจีนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้จุดยืนที่สนับสนุนจีนชัดเจนกว่าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่
กัมพูชาได้ลงนามในข้อตกลงลับกับจีนโดยอนุญาตให้ใช้ฐานทัพเรือเรียมบางส่วน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สนามบินสีหนุวิลล์ กองทัพเรือจีนจึงมีฐานที่มั่นทางภูมิรัฐศาสตร์ในทะเลจีนใต้ ช่องแคบมะละกา ช่องแคบลอมบอก ไทย และเวียดนาม
เมื่อจีนได้เริ่มส่งเรือรบของตนไปประจำการแบบกึ่งถาวรในฐานทัพเรือเรียม เพื่อเสริมสร้างอิทธิพลทางทหารในทะเลจีนใต้ การปรากฏตัวของจีนที่ท่าเรือเรียมของกัมพูชาและสนามบินดาราสากอร์ ซึ่งอยู่ห่างจากเรียมไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 65 กิโลเมตร ทำให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แสดงความกังวลว่า หากเกิดความขัดแย้งในทะเลจีนใต้หรือไต้หวัน กองทัพจีนอาจใช้เรียม ดาราสากอร์ และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอื่นๆ ในกัมพูชา สร้างความได้เปรียบในสงคราม
.
การขยายอิทธิพลของจีนดำเนินการผ่านโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” โดย สี จิ้นผิงรับรองกับฮุนเซนว่า จีนจะสนับสนุนให้บริษัทจีนเข้ามาลงทุนในกัมพูชามากขึ้น ด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีผ่านกรอบ “หนึ่งจุดยืน หกเขตความร่วมมือ และสองระเบียง”
.
♦️กรอบความร่วมมือทวิภาคี Diamond Hexagon หรือ เพชรหกเหลี่ยม จัดตั้งขึ้นโดยจีน-กัมพูชา มุ่งเน้นความสำคัญใน 6 ด้าน ได้แก่ การเมือง การผลิต การเกษตร พลังงาน ความมั่นคง และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บทอาเซียนว่าด้วยการเชื่อมต่อ โดยโครงการที่วางแผนไว้ ได้แก่ การปรับปรุงระบบรถไฟ ท่าเรือ และสนามบิน รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและพลังงาน ความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งทั้งหมดนี้คาดว่าจะช่วยเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา
.
♦️ระเบียงสองทาง หมายถึง “ระเบียงพัฒนาอุตสาหกรรม” (Industrial Development Corridor) ที่พัฒนาขึ้นรอบจังหวัดสีหนุวิลล์และ “ระเบียงปลาและข้าว” (Fish and Rice Corridor cooperation plan) ในบริเวณทะเลสาบโตนเลสาบ เพื่อสร้างระบบเกษตรสมัยใหม่ ตามข้อตกลงการค้าเสรีจีน-กัมพูชาอย่างมีคุณภาพสูง สนับสนุนการส่งออกผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพของกัมพูชาไปยังจีน และส่งเสริมให้วิสาหกิจจีนเข้ามาลงทุนในกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น
นักปฐพีวิทยายูนนานแสดงให้เกษตรกรชาวกัมพูชาเห็นวิธีจัดการกับต้นกล้าข้าวในถาดพลาสติก ภาพ / ยูนนานรายวัน
การเชื่อมโยงจังหวัดชายฝั่งทะเลของกัมพูชา ได้แก่ กำปงโสม กำปงปอม เกาะกง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า K4 เข้ากับท่าเรือการค้าเสรีไหหลำของจีน จะเปิดโอกาสมากขึ้นสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และพลังงานในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค
.
รัฐบาลฮุน ต้องการยกระดับห่วงโซ่อุปทานให้กัมพูชากลายเป็นศูนย์กลางทางการเกษตรและอุตสาหกรรมในภูมิภาค และหวังว่าจีนจะสามารถบรรเทาความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบันได้ด้วยการย้ายฐานการผลิตมายังกัมพูชา
.
แต่สิ่งที่กัมพูชาได้รับจากการลงทุนของจีน ซึ่งเปลี่ยนเมืองท่าสีหนุวิลล์ที่ครั้งหนึ่งเคยเงียบสงบให้กลายเป็นมหานครที่มีคาสิโน โรงแรม โรงงาน และตึกระฟ้าของจีน คือ การก่ออาชญากรรม เช่น การพนันออนไลน์ การค้ายาเสพติด การค้าประเวณี การหลอกลวงและค้ามนุษย์
.
รายงานของแอมเนสตี้ระบุแหล่งหลอกลวง 53 แห่งใน 13 พื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชายแดน และชายฝั่งในกัมพูชา รวมถึง “สถานที่ต้องสงสัย” อีก 45 แห่งที่มีการหลอกลวงและค้ามนุษย์ โดยส่วนหนึ่งพบว่าเป็นแรงงานต่างชาติมากกว่า 150,000 คน มีศูนย์กลางอยู่ใน สีหนุวิลล์ พนมเปญ ไพลิน อันลองเวง โอสมัช กันดาล โพธิสัตว์ เกาะกง บาเวต เจรย์ธม กำปง อุดรมีชัย ปอยเปต บันทายมีชัย สวายเรียง และภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษดาราสาครและเฮนจ์ทมอร์ดา
.
ปัจจุบันเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) กว่า 10 แห่ง จากทั้งหมดประมาณ 30 แห่งของกัมพูชา กระจุกตัวอยู่รอบเขตบาเวต ซึ่งเชื่อว่าส่วนใหญ่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากจีน
เมืองบาเวต
เมืองบาเวต (Bavet) ในสวายเรียง ห่างจากพนมเปญโดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณสามชั่วโมง ตั้งอยู่ในมุมชายแดนตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศซึ่งยื่นออกไปในเวียดนาม ครั้งหนึ่งเคยใช้ภาษาเวียดนามอย่างแพร่หลายในเมืองบาเวต แต่ปัจจุบันเมืองนี้เต็มไปด้วยป้ายภาษาจีน แม้แต่ตามตรอกซอกซอย ร้านกาแฟบางแห่งมีพนักงานที่พูดได้แต่ภาษาจีนเท่านั้น
.
พื้นที่บาเวตมีเงินจากจีนไหลเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักมานานแล้ว ประมาณ 80% ของการลงทุนในพื้นที่บาเวตมาจากบริษัทจีนแผ่นดินใหญ่หรือฮ่องกง การเปลี่ยนแปลงของบาเวตได้สร้างความกังวลให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ด้วยคาสิโนที่ได้รับทุนจากจีน นำมาสู่การก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับพลเมืองจีน
.
การเติบโตอย่างต่อเนื่องของบาเวต เป็นเสน่ห์สำหรับนักลงทุน ด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ห่างจากก๋ายเม็ป-ถิวาย ซึ่งเป็นท่าเรือระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามเพียงสี่ชั่วโมงโดยทางบก การตั้งร้านค้าข้ามพรมแดนจากเวียดนามไปยังกัมพูชา ช่วยให้บริษัทต่างๆ ได้รับประโยชน์จากต้นทุนแรงงานที่ลดลง ในขณะเดียวกันก็สามารถเข้าถึงท่าเรือระหว่างประเทศได้สะดวก
เส้นทางที่วิ่งจากเมืองก๋ายเม็ป-ถิวาย ผ่านบาเวต และข้ามกัมพูชาเข้าสู่ประเทศไทย ได้รับการขนานนามว่าเป็นระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ ซึ่งแต่เดิมได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น และปัจจุบันการก่อสร้างทางด่วนสายใหม่ระหว่างกรุงพนมเปญและบาเวต รวมทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษที่กำลังก่อตั้งขึ้นรอบบาเวต ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากจีน
.
แม้ว่า รัฐบาลทรัมป์ประกาศเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้จากกัมพูชาถึง 36% แต่การลงทุนของจีนในกัมพูชาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัท YUNYA Hotel Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติจีน ได้ประกาศการลงทุนครั้งใหญ่มูลค่ากว่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อก่อสร้างโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวในเมืองบาเวต
.
นอกจากนี้ เมื่อเดือนเมษายน 2568 สื่อท้องถิ่นกัมพูชายังได้รายงานว่า บริษัทจีนจะสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งแรกของกัมพูชา แสดงให้เห็นว่า ปัญหาสังคมที่เกิดจากกลุ่มพนันออนไลน์ การฉ้อโกงทางโทรคมนาคม และอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ ซึ่งทั่วโลกวิจารณ์ว่ามีฐานอยู่ในสีหนุวิลล์ ปอยเปต บาเวต พนมเปญ และเมืองต่างๆ ในกัมพูชา เป็นสิ่งพึงประสงค์ของนักลงทุนจีน
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต จับมือกับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ในระหว่างการลงนามข้อตกลง 37 ฉบับ ณ พระราชวังสันติภาพ ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 (AKP)
อย่างไรก็ตาม การเยือนกรุงพนมเปญอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อเดือนเมษายน 2568 ได้มีการลงนามข้อตกลงใหม่ 37 ฉบับ พร้อมคำมั่นสัญญาที่จะกระชับความสัมพันธ์ “ประชาคมกัมพูชา-จีนแห่งอนาคตร่วมกันในทุกสถานการณ์” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันถึงความสำคัญของปักกิ่งในนโยบายต่างประเทศของกัมพูชากับโลกตะวันตก
.
ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเพิ่มความเข้มข้นในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศด้วยการฝึกซ้อมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และร่วมกันปราบปรามการพนันออนไลน์ การฉ้อโกงทางโทรคมนาคม การค้ายาเสพติด และอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ
ค่ำวันที่ 24 เมษายน 2568 ตำรวจกัมพูชาได้เปิดฉากบุกค้นในเมืองบาเวต จังหวัดสวายเรียง เพื่อทลายแหล่งต้องสงสัยเกี่ยวกับการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมข้ามพรมแดนและแหล่งกบดานการพนันออนไลน์ ระหว่างปฏิบัติการ มีผู้ต้องสงสัยหลายร้อยคนถูกควบคุมตัว ณ ที่เกิดเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่ถือหนังสือเดินทางจีน
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 รัฐบาลพนมเปญได้ออกพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งคณะกรรมการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต
.
เมื่อพิจารณาจากอิทธิพลของจีนในกัมพูชาแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่ารัฐบาลกัมพูชาจะสามารถบริหารประเทศอย่างเป็นอิสระจากปักกิ่งได้ ในทางกลับกัน เขาจะกลายเป็นตัวแทนของจีนภายในอาเซียน และจะเป็นขุมกำลังภายใต้ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ให้กับจีนอีกด้วย.
โฆษณา