มองปัญหา เห็นโอกาส
“อาจจะโชคดีที่แต๋มเจอปัญหามาเยอะ”
คนที่ตกผลึกแบบนี้ได้ ไม่ได้แค่เพราะมีประสบการณ์ แต่ต้องมาจากทัศนคติที่พร้อมจะเข้าเผชิญกับปัญหาเหล่านั้นด้วย
ในสัมมนาคนพลิกวิกฤต ตัดโดย นสพ ประชาชาติ คุณแต๋ม ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือดุสิตธานี ได้มาเล่าถึงกระบวนการแก้ปัญหาที่เธอเองนำมาประยุกต์ใช้ จนในช่วง 9 ปีที่ผ่านมาช่วยให้เครือโรงแรมดุสิตผ่านพายุหลายลูก และเกิดการปรับตัว เปิดโครงการใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างที่เราเห็นในวันนี้
ถ้าพร้อมแล้ว เราไปเรียนรู้มุมมองการฝ่าพายุแบบคุณแต๋มไปพร้อมๆกัน
1. วิธีมองปัญหาให้เป็น (เห็นด้วยใจ)
สำคัญที่สุดคือ วิธีมอง
ปัญหาไม่ว่าเล็กหรือใหญ่
ต้องมองให้เป็น ต้องเห็นด้วยใจ
มองให้เป็นคือ มองปัญหาด้วยสายตาของปัญญา ด้วยสายตาของสติ ปัญหาไม่ใช่อุปสรรค แต่คือข้อมูล สัญญาณ คือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้
เห็นด้วยใจคือ การเข้าใจสถานการณ์ ต้องเมตตา เปิดใจ ให้รับรู้ว่าเราจะมีวิธีแก้อย่างไร
ปัญหาจะเป็นโอกาสได้ ถ้าเรามองให้เป็น เพราะปัญหาคือโอกาสที่ทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ (เพราะถ้าเป็นเรื่องที่เรารู้แล้ว คงไม่เป็นปัญหา) ปัญหาทำให้เรามีโอกาสคิดใหม่ ทำใหม่
ที่สำคัญปัญหาทำให้เรามีโอกาสเติบโตขึ้น แข็งแรงขึ้น
ปัญหาคือเวทีที่ทำให้เราพัฒนาปัญญา นี้คือหลักคิดของคุณแต๋ม
วิธีการมองปัญหาสามกอง:
- ■กองปัญหาแก้ได้ ปัญหาที่อยู่ในสิ่งที่เราควบคุมได้ กระบวนการทำงาน ทัศนคติของคนในองค์กร
- ■ปัญหาที่แก้ไม่ได้ เช่น อดีต เกิดขึ้นไปแล้ว (มีคลิปไปแล้ว อันนี้ฮากันทั้งห้อง) สิ่งที่ผ่านมาแล้วแก้ไม่ได้ หรือสิ่งที่คนที่ตัดสินใจไม่ใช่เรา เช่นปัญหาที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้น เราแก้ไม่ได้ ต้องปล่อยไป
- ■ปัญหาที่ไม่ควรแก้ ปัญหาบางอย่างไม่ต้องแก้ อาจจะเป็นปัญหาที่ไม่กระทบกับเป้าใหญ่ หรือปัญหาที่ไม่ใช้เรื่องของเรา (เราชอบเอาพลังไปแก้ปัญหาของคนอื่น สุดท้ายเสียใจก็บ่อยครั้ง)
- ✓ปัญหาที่แก้ได้ ให้แก้ทันที ลงมือทำเลย
- ✓ปัญหาที่แก้ไม่ได้ ให้ปรับตัว ปรับทัศนคติ
- ✓ปัญหาที่ไม่ควรแก้ เราก็แค่ปล่อยวาง
อุปสรรค ไม่เท่ากับ ปัญหา
“อุปสรรค” เปรียบเหมือนถนนที่ขุรขระ แค่จะทำให้เราถึงเป้าช้าลง วิธีแก้คือต้องอดทน
“ปัญหา” เปรียบเหมือนอะไรที่ไปต่อไม่ได้ ดังถนนที่สะพานขาด ต้้องแก้วิธีคิด ทางแก้คือเราจะสร้างสะพานใหม่อย่างไร หรือไม่ก็ต้องแก้วิธีเดิน
ทุกธุรกิจเจอปัญหาไม่ต่างกัน (สิ่งที่ไม่เหมือนคือรายละเอียด)
“คน งาน เงิน”
คน ไม่มี motivation ไม่ตั้งใจทำงาน ทัศนคติไม่ดี ต่างเจน
งาน กระบวนการในการทำงาน กระบวนการไม่เชื่อมโยง
เงิน ทำแล้วขาดทุน ไม่ได้กำไร ลงทุนผิดพลาด
เราสามารถใช้การมองแยกแบบลักษณะของปัญหาแบบนี้ ก็จะทำให้เราใส่พลังงานในการแก้ไขให้ดีขึ้นได้
2. วิธีการแก้ปัญหา
2.1 วางเป้าหมายให้ชัด (clear purpose)
เราทำไปเพื่ออะไร ทำไปเพื่อใคร
เช่นกลุ่มดุสิตธานี ก็มีเป้าหมายของกลุ่มที่ชัดเจน คือทำให้แบรนด์ดุสิตของคนไทยเป็นที่ทั่วโลกรู้จัก ทุกคนในดุสิตต้องเข้าใจสิ่งเดียวกัน
หรือส่วนตัวคุณแต๋ม เป้าหมายส่วนตัวคือทำเพื่อพนักงานเกือบสองหมื่นคนในเครือให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
> มีมาตราฐานที่ชัดเจน (standard)
> แต่ให้ความยืดหยุ่น (flexibility) และสร้างการมีส่วนร่วม (ownership)
> ให้รางวัลคนที่ทำดี (recognition)
2.2 รู้ใน รู้นอก รู้จังหวะ
ทุกเรื่องมีความเชื่อมโยงกัน
เราต้องรู้ว่าเราเก่งอะไร รอบรู้ข้างนอกใครมีอะไร เก่งอะไร
เราไม่จำเป็นที่ต้องเดินด้วยความเร็วเท่ากันเสมอ บางครั้งต้องรุก บางครั้งต้องถอย บางครั้งเราเดินช้าลงได้
2.3 โมเดลการแก้ปัญหาแบบแต๋ม (TAM) คือ
คิดใหญ่ (Think Big) ทำตัวให้เล็ก (Act Small) หาจังหวะเดิน (move right)
คิดใหญ่ มองให้ครบทั้งสั้นและยาว ทั้ง macro micro คิดให้ใหญ่
ทำตัวให้เล็ก แต่เริ่มทำเป็นชิ้นเล็กๆ ซอยเป้าหมายให้เล็กลง เพื่อให้คนในองค์กรเดินตามเราได้ ทำเป็น prototype ในอีกมิติหนึ่งคือต้องหัดทำตัวให้เล็กเป็นด้วย จะได้ไปหาเพื่อน ไปหาพาร์ทเนอร์มาช่วยเราได้ (ทำตัวใหญ่ เดินไปหาใครก็ ไม่มีมครอยากช่วย)
หาจังหวะเดินให้เป็น คอยเช็คว่ากลยุทธ์ที่เราวางไว้ในการแก้ปัญหามาถูกทางไหม คอยเช็คหาจังหวะเดินให้เหมาะกับสถานการณ์
สิ่งสำคัญอีกอย่างนึงคือเมื่อเราแบ่งเป้าหมายเป็นส่วนเล็ก เมื่อทำสำเร็จเราจะมีความมั่นใจมากขึ้น ต้องทำให้เป้าหมายเล็กๆของเราชัดเจน จับต้องได้ การสร้างความเชื่อมั่นไม่ใช่แค่คนในองค์กร แต่เป็นการสร้างความมั่นใจให้ตัวเองด้วย
2.4 ถ้าปัญหามันใหญ่มากทำไง มีหลายเรื่องซ้อนทับกัน
ให้ใช้หลักเศษส่วน คือ
แยกปัญหาเป็นส่วน ปัญหาคนให้ใครดูแล ส่วนการเงินให้ใครดูแล
ผู้นำต้องมีหน้าที่ในการรวมเศษส่วนเหล่านั้นมาเป็นภาพใหญ่
ใช้การจัดลำดับความสำคัญแบบ 80/20 โฟกัสพลังงานไปในเรื่องที่แก้แล้วได้ impact มากก่อน
2.5 การแก้ปัญหาเราต้องกล้า
กล้าปล่อยสิ่งเดิม เพื่อก้าวไปสู้สิ่งใหม่
เช่นดุสิตธานี ก็มีการเปลี่ยนแปลง กล้าในการปรับเปลี่ยนโรงแรมเดิม แต่ก็ยังเก็บในส่วนที่เป็น DNA ของตัวเองไว้ แต่เป้าหมายเหมือนเดิมเสมอ
2.6 การแก้ปัญหา ผู้นำต้องทำให้ดูด้วย
ชัดเจนว่าคุณแต๋มเน้นถึงการใส่พลังงานในการแก้ปัญหาให้เหมาะสม ทุ่มพลังในสิ่งที่แก้ได้
3. วิธีการดูแลใจตัวเอง
ยึดมั่นกับคุณค่า ไม่ยึดติดกับคำพูด เราต้องรู้ว่าเราทำเพื่อใคร เพื่ออะไร
แยกข้อเท็จจริงจากเสียงรบกวนให้ออก เปิดใจกับข้อเท็จจริง แยกแยะให้ได้
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีเหตุและปัจจัย เหตุคือสิ่งที่ทำได้ด้วยตัวเอง อย่าเริ่มแก้ปัญหาด้วยการชี้ไปที่คนอื่น ปัจจัยก็มีสามกอง กองที่แก้ได้ แก้ไม่ได้ ไม่ควรแก้
✅ใช้ปัญหา เป็นเวทีพัฒนาปัญญา
✅ปัญหาที่ใหญ่ อย่าแก้พร้อมกัน อย่าทำคนเดียว
✅ทำในสิ่งที่คุณรู้ 100% หาส่วนดีของตัวเองให้เจอ และใช้ส่วนนั้นในการแก้ปัยหาให้เต็มที่
✅ในทุกๆวิกฤตมีโอกาสเสมอ มองให้เป็น
✅ชนะแบบเล็กๆไปเรื่อยๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเองและทีมงาน
✅ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
ถ้าชอบบทความฝากกด ❤️และเเชร์ต่อให้ด้วยนะครับ
- 9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
