22 ก.ค. เวลา 12:27 • ไลฟ์สไตล์
กรุงเทพมหานคร

“เงินเดือนจำกัด โอกาสไม่จำกัด ถ้าวางแผน”

วันนี้ลองคิดกับลูกศิษย์ (แพทย์หญิง) ที่ได้เงินเดือนรวมเงินค่าทำงานนอกเวลา (แบบpart time แต่ทำประจำสม่ำเสมอ)
ตัวอย่างนี้ค่ะ
"มนุษย์เงินเดือนแพทย์หญิง รายได้ 25,000 บาทต่อเดือน จะอยู่อย่างไรในภาวะเศรษฐกิจถดถอยท่ามกลางสงครามการค้า แบบนี้"
---
บทนำ
ในโลกยุคใหม่ที่เศรษฐกิจโลกดิ่ง..หรือพูดแบบเบาลงหน่อยว่า เริ่มชะลอตัวจากภาวะเงินเฟ้อ สงครามการค้า และกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ ที่ส่งผลต่อซัพพลายเชนทั่วโลก มนุษย์เงินเดือนชาวไทย โดยเฉพาะเพศหญิงที่มีรายได้ประจำอย่างจำกัด เช่น 25,000 บาทต่อเดือน ต้องวางแผนการเงินอย่างไร
มาค่ะ ถามคุณเอไอมา และปรับแก้ให้เข้ากับบริบทของคุณหมอจบใหม่คนหนึ่ง
---
### 1. ทำความเข้าใจกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
* เศรษฐกิจชะลอตัว*: ราคาสินค้าจำเป็นเพิ่มขึ้น แต่รายได้ส่วนใหญ่นิ่ง ทำให้ความสามารถในการออมลดลง
*สงครามการค้า*: กระทบอุตสาหกรรมส่งออกและการจ้างงานในบางภาคส่วน
ค่าข้าวแพงขึ้นอย่างชัดเจน หรือราคาเท่าเดิม แต่กินไม่อิ่ม..แง
*ค่าครองชีพเมืองใหญ่*: ค่าห้อง (ถ้ายอมเสียเงินค่าเดินทางก็กลับไปนอนบ้านพ่อแม่) ค่าเดินทาง และค่ากินอยู่เป็นภาระหลักของผู้มีรายได้ระดับกลางถึงล่าง
(เงินเดือนขนาดนี้ อาศัยอยู่ในกทม. หมอจบใหม่อยู่ระดับนี้ค่ะ )
---
### 2. โครงสร้างรายจ่ายที่แนะนำ (จากเงินเดือน 25,000 บาท)
| หมวดรายจ่าย | เปอร์เซ็นต์ | จำนวน (บาท) |
| ----------------------- | ----------- | ----------- |
| ค่าอาหารและของใช้จำเป็น | 30% | 7,500 |
| ค่าเช่าบ้าน/ผ่อนบ้าน | 25% | 6,250 |
| ค่าพาหนะ/เดินทาง | 10% | 2,500 |
| ค่าใช้จ่ายส่วนตัว | 5% | 1,250 |
| เงินออมฉุกเฉิน | 10% | 2,500 |
| เงินลงทุนเพื่ออนาคต | 10% | 2,500 |
| ประกันสุขภาพ/ชีวิต | 5% | 1,250 |
| เผื่อค่าใช้จ่ายพิเศษ | 5% | 1,250 |
ลองปรับใช้กันดูค่ะ
มองให้เป็นตารางนะคะ
หากมีหนี้สิน
ควรนำส่วนเงินออม
หรือที่จะวางแผนลงทุน
ไปชำระหนี้ก่อน
เพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยสะสม
วางแผนไว้ก่อน เอไอสอนไว้
---
#3. กลยุทธ์การเงินเชิงรุก
3.1 ออมก่อนใช้
ใช้หลัก “ออมก่อนใช้” ไม่ใช่ “เหลือแล้วค่อยออม”
หัก 10–20% ของรายได้เข้าบัญชีออมทันที
ที่เงินเดือนเข้า
ปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุดค่ะ (ป้าพา)
3.2 *เงินฉุกเฉิน*
เก็บเงินสำรองอย่างน้อย 3–6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือนเป็น *เงินเผื่อฉุกเฉิน*
เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ไม่สบายจนไปทำงานนอกเวลาไม่ไหว, ฝนตกน้ำท่วม รถเสีย..โอย จิปาถะ
3.3 ลงทุนบางส่วนเพื่อความมั่นคงในอนาคต
แม้มีรายได้ไม่มาก แต่การลงทุนแบบรายเดือนในกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำ เช่น RMF หรือ SSF เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี และเพิ่มมูลค่าในระยะยาว เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
เวลาไปช้อปปิ้ง
ต้องรอบคอบและยืดหยุ่นกับตัวเองบ้าง
อย่างน้อยก็มากกว่าที่เคย
”ไม่ช้อปเพื่อฮีลใจ“
“ไม่ช้อปแก้อกหัก
รักคุด..
หรือแก้เซ็ง..
ท่องสำนวนนี้ไว้
"อดเปรี้ยวไว้กินหวาน"
"รอให้น้ำลายไหล"
รอ 7-14 วัน
ถ้าอยากได้จริงๆ หรือคิดว่าคุ้มต่อชีวิตแน่ ๆ
ค่อยซื้อ
เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
และเพิ่มโอกาสในอนาคตที่จะกำเงินก้อนใหญ่กว่านี้
มาซื้อชิ้นที่ดีกว่านี้
มีคุณค่ากว่านี้
หลักของป้าเอง
3.4 ซื้อประกัน
เพื่อป้องกันความเสี่ยง
ควรมีประกันสุขภาพพื้นฐานและประกันอุบัติเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุไม่คาดฝันกลายเป็นภาระทางการเงิน
3.5 หารายได้เสริม
อย่าดูหมิ่นเงินน้อย
(เขียนที่นี่ก็ได้)
ได้ฟอลโลเวอร์สะสมทุกวัน ๆ ละคนสองคน 🥰
โลกยุคใหม่มีช่องทางหารายได้เสริมมากมาย
เช่น
ขายของออนไลน์
รับงานฟรีแลนซ์
ทำคอนเทนต์
การมีรายได้หลายทางจะช่วยลดความเสี่ยงจากงานประจำ
หวังอย่างนั้น ต้องฝึกปรือ และลงมือทำทุกวัน
4. เรียนรู้เพิ่มเติมและเสริมทักษะ
ในยุคเศรษฐกิจผันผวน
ใครรู้ทักษะการใช้เทคโนโลยีเช่น AI, Excel, การตลาดออนไลน์
หรือทักษะทางการเงิน
เช่น การอ่านงบ
การจัดงบส่วนตัว
เสริมทักษะการสื่อสาร และ
ภาษาอังกฤษเพื่อเปิดโอกาสในการทำงานที่รายได้สูงขึ้น
---
5. แนวคิดสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน
จำไว้ว่า
เงินเดือนอาจจำกัด
แต่โอกาสไม่จำกัด
ถ้าเราวางแผนดีพอ
ป้าเชียร์ ๆ ๆ
มนุษย์เงินเดือนผู้หญิงไทย
ไม่ว่าเป็นอาชีพอะไรในยุคนี้ไม่ควรมองตนเองว่าเป็นผู้เสียเปรียบ
ควรมองว่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ (อดทน) ในการปรับตัวเร็ว
หากมีวินัยการเงินดี รู้จักพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ย่อมเติบโตเป็นมหาเศรษฐีนีได้สักวันค่ะ
มหาเศรษฐีนี
มหาเศรษฐี นี
มหาเศรษฐี นี
..ท่องไว้ค่ะ
ป้าพาเอง
---
สรุป
แม้จะอยู่ในยุคที่รายจ่ายแซงรายรับ การวางแผนการเงินที่มีระบบ จะช่วยให้ผู้หญิงไทยที่มีรายได้ 25,000 บาทต่อเดือน..
สามารถมีอนาคตที่มั่นคง ลดความเสี่ยง
และแม้ไม่ได้ร่ำรวยก็สามารถมีชีวิตที่ “มั่งคั่งอย่างมีคุณภาพ” ได้ในที่สุด
เชื่อป้า ป้าเรียนมา
อ้างอิง
โฆษณา