26 ก.ค. เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์

ประวัติศาสตร์ “เมืองน่าน” ดินแดนแห่งงาช้างดำริมน้ำที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญในอดีตกาล

ข่าวเหตุการณ์น้ำท่วมที่น่านนับว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวอุทกภัยที่ควรให้ความสนใจไม่แพ้กัน เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์น้ำท่วมไปแล้วเหมือนกันเมื่อราวปี 2567 น่านนับว่าเป็นอีกเมืองสำคัญของภาคเหนือถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองรองด้านการท่องเที่ยวแต่อย่างนั้นก็เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม รวมไปถึงสถานที่ที่น่าไปเยือนมากมาย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
เหตุการณ์น้ำท่วมน่านนับว่าเป็นอะไรที่สร้างความเสียหายในหลาย ๆ ประการ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของเศรษฐกิจ ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นอยู๋นี้ก็นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น้ำท่วมหนักที่สุดซึ่งท่วมเข้ามายังพื้นที่เขตเศรษฐกิจของน่านด้วย
น่านเป็นเมืองที่มีบทบาททางเศรษฐกิจมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีต ซึ่งด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทำให้เป็นอีกหนึ่งเมืองในฝั่งล้านนาที่เป็นที่หมายตาของอาณาจักรอื่น ใน All About History สัปดาห์นี้เราจะขอพาไปสำรวจเรื่องราวของ “น่าน” ในหลากหลายแง่มุมทั้งประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ ไปจนถึงสังคมกัน
⭐ “พงศาวดารเมืองน่าน” ตำนานและประวัติศาสตร์เมืองน่าน
ในพงศาวดารเมืองน่าน ฉบับพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ได้เล่าถึงกำเยิดของเมืองน่านเอาไว้ในรูปแบบที่มีการเสริมแต่งให้เป็นตำนานอย่างหนึ่ง โดยกล่าวถึงต้นกำเนิดของราชวงศ์ภูคาซึ่งเป็นราชวงศ์เแรกที่ปกครองพื้นที่เมืองน่านเอาไว้ว่าเมื่อครั้งพระยาภูคาเป็นผู้ปกครองเมืองย่าง (แถบอ. ท่าวังผา) ได้มีพรานผู้หนึ่งได้แกะรอยตัวเนื้อขึ้นไปบนดอยภูคา และได้พบกับไข่ 2 ฟองที่มีขนาดใหญ่เท่าลูกมะพร้าว จึงได้นำไข่ดังกล่าวมาถวายพระยาภูคา
ซึ่งก็ทรงโปรดฯให้นำฟองหนึ่งไปใส่ในกะทอนุ่ม ใบหนึ่งใส่ในกะทอฝ้าย ก่อนที่ต่อมาไข่ในกะทอนุ่นจะฝักออกมาเป็นเด็กชาย ตามมาด้วยเด็กชายในกะทอฝ้าย พระยาภูคาก็รักเสมอลูกแท้ ๆ และให้ชื่อคนโตว่าขุนนุ่น และคนน้องว่าขุนฟอง พอทั้งคู๋โตมาก็ปรารถนาที่มีเมืองเป็นของตัวเอง
พระยาภูคาเมื่อได้ฟังคำปรารถนาของขุนนุ่นและขุนฟอง จึงโปรดฯ ให้ทั้งสองเดินทางไปหาพระยาเถรแต๋งเพื่อขอให้สร้างเมืองให้ พระยาเถรแต๋งจึงพาทั้งคู๋ไปที่ริมฝั่งโขงและแบ่งเขตแดนให้ ฝั่งหนึ่งให้เป็นเมืองจันทบุรี (เมืองหลวงพระบาง) มอบแก่ขุนนุ่น อีกฝั่งหนึ่งให้ชื่อว่าวรนคร (เมืองปัว) มอบให้แก่ขุนฟอง ซึ่งพื้นที่วรนครของขุนฟองนี่เองที่จะเป็นที่มาของเมืองน่าน
เมืองปัวได้รับการปกครองสืบมาจากขุนฟอง เจ้าพระยาเก้าเกื่อน เจ้าพระยาผานอง ล่วงถึงสมัยพระยาการเมือง ก็เกิดการสถาปนาพระธาตุแช่แห้งขึ้นมา ซึ่งการสถาปนาพระธาตุแช่แห้งก็ได้ทำให้ประชาชนจากเมืองปัวได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานให้ใกล้กับพระธาตุแช่แห้งมากขึ้น เมืองปัวก็ได้ลดบทบาทลง กระทั่งในสมัยของเจ้าผากอง ก็ได้เกิดการตั้งเมืองใหม่ขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการปกครอง
ในช่วงเวลาที่เจ้าผากองปกครองเวียงแช่แห้งได้ 6 ปี ก็ประสบปัญหาภัยแล้ง จึงได้เดินทางย้ายเมืองมาอีกและตั้งเวียงน่านขึ้นมาในปีรงายซง้า จุลศักราช 730 (พ.ศ. 1913) ซึ่งสาเหตุที่เลือกตรงนี้นั้น มีเล่ากันเพิ่มเติมว่าเจ้าผากองทรงมีพระสุบินเห็นโคอุสุภราชวิ่งข้ามแม่น้ำน่านไปฝั่งตะวันตก และถ่ายมูลไว้เป็นหลักเขตแนวกำแพงเมือง ซึ่งเจ้าผากองก็เสด็จไปทอดพระเนตรเห็นว่ามีพื้นที่นั้นอยู่จริงตามในฝันจึงโปรดให้ตั้งเมืองขึ้นที่บริเวณดังกล่าวที่เดิมชื่อว่าห้วยไคร้นั้นให้เป็นเมืองนันทบุรี หรือเมืองน่าน
เรื่องราวของโคอุสุภราชในตำนานดังกล่าวจึงเป็นที่มาของตราประจำจังหวัดน่านสืบมานี่เอง
⭐ จากล้านนาถึงพม่า
น่านถูกรุกรานโดยเชียงใหม่ซึ่งนำโดยพระเจ้าติโลกราช ทำให้น่านได้กล่าวเป็นส่วนหนึ่งของล้านนา ซึ่งทางเชียงใหม่ได้ทำการปกครองน่านด้วยวิธีการส่งเจ้าเมืองไปเป็นผู้ปกครองซึ่งก็มีการผลัดเปลี่ยนเรื่อยมา ซึ่งตลอดระยะเวลาภายใต้การปกครองของล้านนา น่านก็ได้รับเอาวิทยาการต่าง ๆ มากมายเข้าไปยังภายในอาณาจักร เดิมทีนั้นอิทธิพลทางวัฒนธรรมและศิลปกรรมของน่านจะได้รับมาจากทางฝั่งสุโขทัย แต่พอได้เข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของล้านนาแล้ว น่านก็ได้รับเอาอิทธิพลต่าง ๆ จากทางฝั่งล้านนาเข้ามาแทน
ต่อมาในสมัยหลัง ล้านนาก็ถูกเข้าตีโดยพระเจ้าบุเรงนองและตกเป็นประเทศราชของพม่า ทำให้น่านตกเป็นประเทศราชตามด้วย ซึ่งเจ้าเมืองน่านในขณะนั้นก็ได้ลี้ภัยไปยังล้านช้าง พม่าจึงสถาปนาเจ้าเมืองคนใหม่ขึ้นมาแทน น่านภายใต้การปกครองของพม่ามีความพยายามที่จะก่อจราจลขึ้นมาเสียหลายครั้งเพื่อแยกตัวออกเป็นอิสระแต่กลับพ่ายทุกครั้งไป
⭐ “เกลือ” ทรัพยากรเมืองน่านที่ต่างอาณาจักรแย่งชิง
ในปัจจัยสำคัญที่ทำให้น่านเป็นที่หมายตาโดยพระเจ้าติโลกราชนั้นก็เนื่องมาจากทรัพยากรอย่างหนึ่งที่ไม่มีในอาณาจักรล้านนามาแต่เดิม นั่นก็คือเกลือธรรมชาติที่อำเภอบ่อเกลือในปัจจุบัน เป็นเกลือภูเขาแห่งเดียวในพื้นที่ของไทย และน่านก็ใช้เกลือเป็นสมบัติล้ำค่าที่ใช้ในการค้าขายและติดต่อเจรจากับอาณาจักรอื่น ๆ นี่เองที่ทำให้เศรษฐกิจของน่านในช่วงเวลาดังกล่าวค่อนข้างเข้มแข็งก่อนที่จะตกไปเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านนาในภายหลัง
น่านเลือกที่จะทำการผูกสัมพันธไมตรีกับสุโขทัยแลพพึ่งพาสุโขทัยในช่วงก่อนล้านนาเนื่องจากสุโขทัยนั้นอู่ทางใต้ และมีการค้าทางน้ำออกไปสู่ทะเล การค้าเกลือกับสุโขทัยจึงมีลักษณะของการเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจของน่านออกไป เกลือเป็นสิ่งสำคัญที่ใใช้ทั้งปรุงและถนอมอาหาร
นั่นเองในสงครามอยุธยาล้านนา พระเจ้าติโลกราชถึงได้ทำการยึดเมืองน่านซึ่งก็มีการค้าขายเกลือลงไปสู่อยุธยาไว้ และผูกขาดตลาดเกลือเอาไว้เอง เมื่อขาดเกลืออยุธยาก็ประสบปัญหา พระบรมไตรโลกนาถก็ต้องหันไปพึงพาทางอื่น นั่นก็คือเกลือสมุทร ซึ่งในยุคก่อนหน้านั้นยังไม่มีใครทำ และได้ไปลอบเรียนรู้วิธีการทำเกลือสมุทรจากชาวจีนจนสำเร็จ
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าอยุธยาจะไม่ได้พึ่งพาเกลือภูเขาจากน่านอีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงเป็นทรัพยากรสำคัญของดินแดนทางตอนเหนือ ทั้งในล้านนาและล้านช้างดังที่ปรากฎว่าในสมัยของเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช (ผู้แต่งพงศาวดารเมืองน่าน) ซึ่งตรงกับรัชกาลที่ 5 ของรัตนโกสินทร์ มีชาวฝรั่งเศสส่งคนมาขโมยเกลือด้วยเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่าเมืองน่านยังคงมีบทบาทในฐานะของผู้ค้าเกลือในแผ่นดินทางตอนเหนืออยู่
⭐ ประเทศราชใต้นามสยามรัฐ
น่านได้หลุดจากการปกครองพม่าหลังจากที่กองทัพของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (ในพงศาวดารเรียกพระยานคร) เสด็จขึ้นไปตีเมืองเชียงใหม่ แต่ถึงอย่างนั้นตัวเจ้าเมืองอย่างพระยาวิธูรและครอบครัวก็ถูกจับลงมายังธนบุรี เมืองน่านจึงไร้ผู้ปกครองและถูกกวาดต้อนผู้คนไปเมืองอื่นจนร้างไป
อย่างไรก็ดี เมื่อเข้าสู่ครั้งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชก็ทรงโปรดให้บุตรชายของพระยาวิธูรคือเจ้าจันทปโชติ ให้ขึ้นเป็นพระยามงคลวรยศไปเป็นเจ้าเสวยเมืองน่านแทนก่อนที่จะเสียน่านไปในสงครามเก้าทัพ กระทั่งในสมัยถัดมาคือสมัยของเจ้าอัตถวรปัญโญ ก็ได้ปลีกตัวพร้อมกับเจ้าเมืองเหนือทั้งหลายลงมาสวามิภักดิ์กับสยาม
นับแต่นั้นมากษัตริย์สยามก็โปรดฯ รับรองสถานะประเทศราช และให้เกียรติเจ้าเมืองในฐานะของกษัตริย์ประเทศราชด้วย โดยในช่วงนี้น่านได้มีการย้ายเมืองช่วงหนึ่งจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ไปที่ดงพระเนตรช้างก่อนที่จะย้ายกลับมายังเวียงน่านเดิมและบูรณะใหม่ มีการสร้างคุ้มแก้วและหอคำ เป็นที่ประทับและเป็นศูนย์กลางการปกครองของน่านตลอดระยะเวลาที่เป็นประเทศราชด้วย น่านปกครองด้วยเจ้าเมืองจนมาถึงสมัยของมหาอำมาตย์โทเจ้ามหาพรหมสุรธาดา และเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารบ้านเมืองใหม่ และมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแลแทน
⭐ น่านในปัจจุบันสมัย จากบ่อเกลือถึงภาคเกษตรและการท่องเที่ยว
ในอดีตน่านมีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจในฐานะของผู้ถือครองบ่อเกลือภูเขาในยุคสมัยที่ผู้คนในภูมิภาคยังไม่รู้จักการทำเกลือสมุทร อย่างไรก็ดี เมื่อคนในภูมิภาคนี้รู้จักการผลิตเกลือสมุทร ทำให้บทบาทสำคัญของน่านที่มีต่อกลุ่มอาณาจักรที่มีอาณาเขตติดทะเลเริ่มลดลงไป แต่อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันนี้น่านก็ยังมีทรัพยากรอื่น ๆ ที่เป็นจุดขายและเป็นแหล่งรายได้ที่เปลี่ยนไปจากในอดีตที่มีการค้าเกลือและงาช้างเป็นหลัก
น่านมีทรพยากรป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์มากถึง 85% ของพื้นที่ ตลอดจนเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติถึง 7 แห่ง คือดอยภูคา ขุนน่าน ขุนสถาน แม่จริม นันทบุรี ศรีน่าน และถ้ำสะเกิน ซึ่งด้วยความอุดมสมบูรณ์นี้ทำให้การเกษตรเป็นอีกหนึ่งอาชีพหลักของชาวน่าน ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เน้นไปที่การปลูกพืชไร่เป็นหลัก แม้มีนาข้าวกับส่วนผลไม้ในอัตราส่วนรองลงมา
อีกทั้งยังมีภาคอุตสาหกรรมอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแปรรูปผลิตจากพืช ไปจนถึงอุสาหกรรมอโลหะ และการแปรรูปไม้ อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดน่าเที่ยวที่ถึงแม้จะเป็นเมืองรองแต่ก็เต็มไปด้วยสถานที่มากมายที่ดึงดูดให้ใครหลายคนเดินทางมา โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 นี้ น่านมีการขยายตัวในด้านอุปทานถึง 2.6% โดยมีภาคบริการที่ขยายตัวสูงกว่าภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม
เหตุการณ์น้ำท่วมเมืองน่าน ถ้าเราย้อนอดีตกลับไปก็พบว่าเป็นปัญหาที่เคยมีมาในอดีตที่ถึงขั้นต้องย้ายเมืองอยู่เหมือนกันในตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าสถานการณ์น้ำจะกลับมาเป็นปกติเร็วไว และคืนเมืองน่านให้กลับมาเป็นเมืองที่น่าไปเหมือนเดิม
เรื่อง : ณัฐรุจา งาตา
ภาพประกอบ : บริษัท ก่อการดี จำกัด
════════════════
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
════════════════
#ประวัติศาสตร์ #ไทย #น่าน #เศรษฐกิจ #น้ำท่วม #Bnomics #BBL #BangkokBank #ธนาคารกรุงเทพ
อ้างอิง:
ไทยพีบีเอส. "แม่น้ำน่าน" เกินจุดวิกฤต ทะลักท่วมเขตเศรษฐกิจน่าน.
ภูเดช แสนสา. ประวัติศาสตร์เมืองน่าน.
สำนักงานจังหวัดน่าน. ประวัติความเป็นมา.
พงศาวดารเมืองน่าน. อนุสรณ์งานบำเพ็ญพระราชกุศลอกกเมรุ พระราชทานเพลิงศพ พระเทพนันทาจารย์ (บุญชู ธมฺมสารมหาเถร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดน่าน เจ้าอาวาสวัดพญาภูพระอารามหลวง 1 เมษายน 2543. เชียงใหม่:ธนุชพริ้นติ้ง. 2543
เพ็ญสุภา สุขคตะ. เกลือเมืองน่าน : ยุทธศาสตร์ร้อนแรงแห่งสมรภูมิเลือด ล้านนา-อยุธยา. ใน “ล้านนาศึกษา” ใน “ไทศึกษา” ครั้งที่ 13 (23). มติชนสุดสัปดาห์
สำนักงานคลังจังหวัดน่าน. รายงานประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดน่าน ปี พ.ศ. 2568 ไตรมาส 1. https://www.cgd.go.th/cs/nan/nan/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99_MC.html?page_locale=en_US
โฆษณา