28 ก.ค. เวลา 09:30 • ประวัติศาสตร์

ความฝันในหอแดง 12 หลิวเหล่าเลามาเยี่ยมครั้งที่หนึ่ง

朝扣富儿门,富儿犹未足。
虽无千金酬,嗟彼胜骨肉。
อรุณรุ่งเยี่ยมเยียนคหบดี
ผู้มีทรัพย์จับจ้องว่าหมองหม่น
แม้พระคุณจุนเจือมิท่วมท้น
วันหน้าคืนล้นเหลือเหนือเลือดเนื้อ
ในจวนหยง มีผู้อาศัยอยู่รวมแล้วกว่าสามร้อยคน จึงมีเรื่องวุ่นวายวันละสิบยี่สิบเรื่องไม่เว้นวัน ตรองไม่ตกว่าจะเล่าเรื่องไหนให้ฟังก่อนดี จู่จู่วันหนึ่งมีคนต่ำต้อยด้อยค่าดังต้นหญ้าเมล็ดถั่ว สัญจรพันลี้มาพัวพันกับจวนหยง
คนต่ำต้อยผู้นี้เกี่ยวดองกับครอบครัวสกุลหวาง 王 บรรพบุรุษเคยรับราชการตำแหน่งเล็กๆ ในเมืองกรุง จึงได้รู้จักกับท่านปู่ของพี่เฟิ่งหรือก็คือท่านพ่อของหวางฮูหยิน อยากจะอาศัยบารมีของบ้านสกุลหวาง จึงอ้างความเป็นญาติร่วมแซ่ ขอฝากตัวนับเป็นหลาน 侄儿 เรื่องนี้มีผู้รู้อีกคนก็เพียงพี่ชายของหวางฮูหยินหรือก็คือท่านพ่อของพี่เฟิ่ง (หวางจื่อเสิ้ง 王子胜) นอกนั้นไม่มีผู้ใดล่วงรู้อีก
มาบัดนี้ ผู้เป็นปู่ล่วงลับไปนานแล้ว มีบุตรชายโทนชื่อว่า หวางเฉิง 王成 ฐานะทางบ้านย่ำแย่จึงย้ายออกจากเมืองกรุงไปอยู่ชนบท ต่อมาก็ถึงแก่กรรม คงอยู่แต่บุตรชายผู้หนึ่งชื่อเล่นว่า ไอ้หมา 狗儿 แต่งภรรยาสกุลหลิว 刘氏 มีบุตรชายด้วยกันคนหนึ่งชื่อ ปั่นเอ๋อ 板儿 และบุตรสาวอีกคนชื่อ ชิงเอ๋อ 青儿 ครอบครัวสี่ชีวิตประกอบอาชีพกสิกรรม
ไอ้หมากลางวันทำงานในไร่นา นางหลิวสื้อ 刘氏 ทำงานบ้านงกๆ กันทั้งวัน สองเด็กน้อยชิงเอ๋อ ปั่นเอ๋อ พี่สาวน้องชายจึงไม่มีใครดูแล ไอ้หมาจึงไปรับหลิวเหล่าเลา 刘老老 ผู้เป็นแม่ยายมาอยู่ด้วยช่วยเลี้ยงเด็ก
หลิวเหล่าเลาเป็นม่ายมานาน ไม่มีบุตรชาย อาศัยไร่สองหมู่ 亩 พอเก็บกินประทังชีวิต พอลูกเขยไปรับมาเลี้ยงดูย่อมเต็มใจมาช่วยงานลูกสาวลูกเขย
ปลายสารทย่างเหมันต์ปีนี้ อากาศเริ่มหนาว แต่ในบ้านยังไม่พร้อมรับมือฤดูหนาว ไอ้หมาจึงหงุดหงิดยิ่งนัก เอาแต่ดื่มเหล้าแล้วโพล่งระบายอารมณ์อยู่กับบ้าน นางหลิวสื้อก็ไม่กล้าตอแย หลิวเหล่าเลาอดรนทนไม่ได้จึงกล่าวกับลูกเขยว่า
“อาเขย 姑爷 อย่าหาว่าข้าพูดมาก พวกเราชาวชนบท ใครก็อยากกินข้าวชามใหญ่ทั้งนั้น ตอนเจ้ายังเล็กอยู่กับพ่อแม่ อาศัยบารมีพวกท่านมีพอกินจนเคยตัว มาทุกวันนี้ เงินที่หาได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง พอเงินขาดมือก็มาอารมณ์เสีย นับเป็นลูกผู้ชายที่ไหนกัน
พวกเราอพยพจากในเมืองใกล้พระยุคลบาทมาอยู่ชนบทกันเอง ในกรุงฉางอาน เงินตราปูเต็มพื้น เสียดายแต่ว่าไม่มีใครกลับไปเก็บ มาเที่ยวกระทืบเท้าเร่าๆ อยู่กับบ้านนี่ไม่มีประโยชน์”
ไอ้หมาว่า “คนแก่อย่างแม่ก็ได้แต่พูดจาเรื่อยเปื่อย จะให้ข้าเข้ากรุงไปปล้นชิงเขา คงทำไม่ได้”
หลิวเหล่าเลาว่า “ใครบอกให้เจ้าไปปล้น พวกเรามาช่วยกันคิดหาวิธี จะรอให้เงินวิ่งมาประเคนใส่เองคงไม่มีทาง”
ไอ้หมายิ้มเยาะว่า “ถ้ามีวิธีจะมานั่งจับเจ่าอยู่นี่หรือ ข้าไม่มีญาติเป็นผู้เก็บภาษี หรือว่าเพื่อนเป็นขุนนาง จะได้คิดหาวิธี หรือต่อให้มี พวกเขาก็ไม่สนใจคนอย่างพวกเราหรอก”
หลิวเหล่าเลาว่า “นั่นก็ไม่แน่
แผนอยู่ที่คน ผลอยู่ที่ฟ้า 谋事在人 成事在天
พวกเรามาช่วยกันวางแผน แล้ววิงวอนพระโพธิสัตว์ อาจมีโอกาสก็ได้ ใครจะรู้ ข้าช่วยเจ้าหาได้วิธีหนึ่ง
เมื่อก่อน พวกเราเคยนับญาติกับจวนหวางเมืองจินหลิง ยี่สิบปีก่อน พวกเขายังช่วยเหลือพวกเจ้าดีอยู่ มาเดี๋ยวนี้ เจ้าอวดดีเองไม่ยอมไปมาหาสู่เขา จึงเหินห่างกันไป
เมื่อก่อนนี้ ข้ากับลูกสาวเคยไปเยี่ยมเขา คุณหนูรอง 二小姐 บ้านนั้น เป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา ไม่วางมาด ตอนนี้เป็นสะใภ้รองของจวนหยง (หวางฮูหยิน) ฟังมาว่า พอสูงอายุขึ้น ยิ่งเห็นใจคนยากคนจนและคนชรา ชอบเข้าวัดทำบุญและถือศีลกินเจ พี่ชายของท่านที่จวนหวางปัจจุบันเลื่อนยศย้ายไปรักษาชายแดน ข้ากลัวว่าไท่ไท่อาหญิงรองจะจำพวกเราไม่ได้เสียแล้ว ทำไมเจ้าไม่ลองไปเยี่ยมดูสักเที่ยว เผื่อเขายังจำเรื่องเก่าๆ ได้ ถอนขนหน้าแข้งให้เราสักเส้น ยังมากกว่าเงินได้ของเราทั้งบ้าน”
นางหลิวสื้อว่า “แม่เฒ่าก็ว่าไปเรื่อย หน้าตาอย่างพวกเราไปหาเขา กลัวจะถูกตะเพิดกลับออกมา ขายหน้าเสียเปล่า”
ใครรู้ได้ ไอ้หมากลับได้คิด พอฟังเมียแย้งมาดังนั้นจึงหัวเราะว่า
“แม่เฒ่าพูดก็ถูก อีกทั้งยังเคยพบหน้าไท่ไท่อาหญิงรองมาแล้วหนหนึ่ง พรุ่งนี้แม่เฒ่าก็ควรไปอีกครั้งลองดูท่าทีเขาสักหน่อย”
หลิวเหล่าเลาว่า “ไอ้หยา ประตูบ้านขุนนางกว้างเหมือนสมุทรคั่น 侯门似海 ข้าเป็นตัวอะไร ถ้าพวกเขาไม่นับญาติกับข้า ไปก็เสียเที่ยว”
ไอ้หมาว่า “ไม่เป็นไร ข้าจะบอกวิธีให้ ท่านพาปั่นเอ๋อไปหานายท่านโจว 周大爷 เป็นเผยฝาง 陪房 (บ่าวติดตามเจ้าสาวมาจากบ้านเดิม) ของท่านอาหญิง นายท่านโจวสนิทกับพ่อของข้าสมัยอยู่ด้วยกัน เขาคงหาทางช่วยให้เข้าพบได้”
หลิวเหล่าเลาว่า “ข้าก็รู้จักเขา เพียงแต่ไม่เคยไปหาเสียนาน ไม่รู้เดี๋ยวนี้เป็นอย่างไร เอาเถอะ ในเมื่อเจ้าเป็นชายก็ปากหนักรักหน้า ส่วนเมียยังสาวก็ควรรักนวลสงวนตัวอยู่กับเรือน คงมีแต่เสนอหน้าแก่แก่อย่างข้านี่ ถ้าได้ผลก็สมประโยชน์ทุกฝ่าย”
วันรุ่งขึ้นฟ้ายังไม่สาง หลิวเหล่าเลาตื่นมาล้างหน้าหวีผม แล้วสอนปั่นเอ๋อให้หัดพูดสองสามประโยค เด็กอายุห้าหกขวบ พอรู้ว่าจะได้เข้าไปเที่ยวในเมือง ก็ชอบใจใหญ่อะไรอื่นก็ไม่สนใจ
หลิวเหล่าเลาพาปั่นเอ๋อเข้าเมืองมาถึงหน้าประตูใหญ่จวนหยง เห็นหน้าจวนมีเกี้ยวและรถม้าเต็มไปหมดจอดกันอยู่ข้างสิงโตหิน จึงไม่กล้าเข้าไป เอามือปัดฝุ่นจากเสื้อผ้าแล้วพาปั่นเอ๋อหลบมาทางประตูข้าง เห็นชายอกผายไหล่ผึ่งกลุ่มหนึ่งยืนเจรจาพาทีชี้ไม้ชี้มืออยู่หน้าประตู
หลิวเหล่าเลาเข้าไปทักทายว่า “พวกนายท่านสบายดี 纳福”
ชายกลุ่มนั้นหันมาประเมินมองอยู่พักหนึ่งจึงถามว่า “มาจากไหน”
หลิวเหล่าเลายิ้มว่า “ข้ามาหานายท่านโจว 周大爷 เผยฟางของไท่ไท่ รบกวนนายท่านช่วยเรียนเชิญท่านออกมาพบสักหน่อย”
คนกลุ่มนั้นได้ฟังก็ไม่สนใจอะไร อีกครึ่งค่อนวันจึงหันมาบอกว่า
“เจ้าไปยืนรอข้างกำแพงไกลๆ โน่น เดี๋ยวคงมีคนที่บ้านเขาเดินออกมา”
เฒ่าผู้หนึ่งในกลุ่มกล่าวว่า
“จะให้เขาเสียเวลาทำไม”
แล้วหันมาบอกหลิวเหล่าเลาว่า
“นายท่านโจวไปทำธุระทางใต้ เขาอาศัยอยู่ด้านหลังนี่ ภรรยาเขาอยู่บ้าน เจ้าเดินอ้อมทางนี้ไปที่ประตูหลัง”
หลิวเหล่าเลากล่าวขอบคุณ แล้วพาปั่นเอ๋อเดินอ้อมมายังประตูหลัง เห็นแถวหน้าประตูมีคนหาบของมาขาย มีทั้งของกินและของเล่น เด็กยี่สิบสามสิบคนส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันอยู่แถวนั้น
หลิวเหล่าเลาดึงตัวเด็กคนหนึ่งมาถามว่า
“ขอถามชายน้อยหน่อย นายหญิงโจวอยู่บ้านไหม”
เด็กคนนั้นเหล่ด้วยหางตาแล้วถามว่า
“นายหญิงโจวคนไหน ที่นี่มีนายหญิงโจวตั้งหลายคน ไม่รู้ท่านถามถึงคนไหน”
หลิวเหล่าเลาว่า “คนที่เป็นเผยฝางของไท่ไท่”
เด็กว่า “อ๋อ ตามข้ามา”
แล้วนำหลิวเหล่าเลาไปยังลานด้านหลังชี้ไปยังลานข้างกำแพงว่า “บ้านเขาอยู่นั่น”
แล้วตะโกนเรียกว่า
“แม่ใหญ่โจว มีท่านยายมาหา”
ภรรยาโจวยุ่ย 周瑞家的 รีบออกมาจากด้านในถามว่า
“ใครมาหาน่ะ”
หลิวเหล่าเลาหัวเราะแล้วทักว่า
“สบายดี อาซ้อโจว”
ภรรยาโจวยุ่ยนึกหน้าอยู่ค่อนวันจึงหัวเราะทักว่า
“หลิวเหล่าเลา สบายดีหรือ ไม่พบกันตั้งหลายปี จนข้าลืมไปแล้ว เข้ามาในบ้านก่อน”
หลิวเหล่าเลาเดินพลางหัวเราะพลางว่า
“พวกผู้ดีมักขี้ลืม 贵人多忘事 คงจำพวกเราไม่ได้แล้ว”
พอเข้ามาในห้อง ภรรยาโจวยุ่ยบอกให้สาวใช้เทน้ำชามา
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “ปั่นเอ๋อโตขนาดนี้แล้วหรือ” แล้วถามเรื่องสัพเพเหระ จากนั้นวกเข้าเรื่องว่า
“วันนี้ผ่านทางมา หรือว่าตั้งใจมา”
หลิวเหล่าเลาว่า “แรกเลยคือมาเยี่ยมอาซ้อ สองคือถือโอกาสเยี่ยมคารวะไท่ไท่อาหญิง หากท่านสะดวก กรุณาพาข้าไปพบ แต่หากไม่สะดวก ก็ฝากคารวะด้วย”
ภรรยาโจวยุ่ยได้ฟัง ก็พอคาดเดาออกแล้วหลายส่วน อาศัยว่าเดิมสามีเคยมีข้อพิพาทเรื่องที่ดิน ได้พ่อของไอ้หมาออกแรงช่วยเหลือ วันนี้จึงยากจะปฏิเสธ อีกทั้งอยากจะแสดงให้เห็นว่าตนก็มีสถานะอยู่ไม่น้อย จึงยิ้มว่า
“เหล่าเลาวางใจ อุตส่าห์พาความจริงใจมาแต่ไกล จะไม่ให้เข้าเฝ้าพระพุทธได้อย่างไร จะว่าไป แขกใครไปมาก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าหรอก พวกเราที่นี่ก็เหมือนกันทั้งนั้น พวกผู้ชายสนใจเพียงเก็บค่าเช่าวสันต์สารทสองฤดู ที่เหลือว่างก็ตามพวกคุณชายน้อยออกเที่ยว ส่วนข้าก็คอยติดตามพวกคุณหญิงคุณนาย ตัวท่านนับเป็นญาติของไท่ไท่ แล้วยังอุตส่าห์มาหาข้า ก็คงต้องถือเป็นข้อยกเว้นช่วยส่งข่าวให้
แต่มีเรื่องหนึ่งต้องบอกให้รู้ก่อน พวกเราที่นี่ไม่เหมือนกับห้าปีที่แล้ว เดี๋ยวนี้ไท่ไท่วางมือแล้ว งานดูแลบ้านทุกอย่างให้คุณนายรองเหลียน 琏 จัดการ แล้วท่านรู้ไหมว่านางเป็นใคร ก็คือหลานสาวของไท่ไท่ ลูกสาวของท่านน้าใหญ่ ที่เรียกกันว่า เฟิ่งเกอ 凤哥 (ชายเฟิ่ง)”
(ชายเฟิ่ง 凤哥 (เฟิ่งเกอ) ทางบ้านแต่เล็กแก้เคล็ดแสร้งเลี้ยงแบบเด็กชาย จึงเรียกเป็นเด็กชายว่า เกอเอ๋อ 哥儿)
หลิวเหล่าเลาว่า “เป็นนางนี่เอง ข้าเคยพูดไว้ไม่ผิด ยิ่งอย่างนี้ ข้ายิ่งควรเข้าพบ”
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “นั่นแน่นอน เดี๋ยวนี้แขกเหรื่อไปมา ก็ได้พบแต่คุณหนูเฟิ่ง มาหนนี้ ไม่พบท่านไท่ไท่ก็ได้ แต่อย่างไรก็ต้องพบนาง มิเช่นนั้นก็นับว่ามาเสียเที่ยว”
หลิวเหล่าเลาว่า “อมิตาภพุทธ แล้วแต่อาซ้อท่านสะดวกเถิด”
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “เหล่าเลาไยกล่าวเช่นนั้น “ช่วยเขาเท่ากับช่วยตัวเอง” ข้าช่วยพูดแค่คำเดียว ไม่กินแรงอะไรหรอก”
แล้วก็สั่งสาวใช้ว่า
“เจ้าไปที่ห้องโถง ดูว่าเรือนเหล่าไท่ไท่จัดโต๊ะอาหารหรือยัง”
ระหว่างนั้นทั้งสองก็คุยกันต่อ
หลิวเหล่าเลาว่า “คุณหนูเฟิ่งปีนี้คงอายุไม่เกินสิบแปดสิบเก้า สามารถดูแลบ้านขนาดนี้ หายากนัก”
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “เหล่าเลา จะบอกให้ คุณหนูเฟิ่งแม้อายุยังน้อยแต่ทำอะไรใหญ่เกินตัว หน้าตาเหมือนคัดนางงามมา พูดน้อยแต่เจ้าความคิด พนันกันเรื่องคารม ชายสิบคนก็เถียงสู้นางไม่ได้ เดี๋ยวท่านก็เห็นเอง อีกเรื่องคือ นางออกจะเข้มงวดกับผู้น้อยยิ่งนัก”
สาวใช้กลับมาบอกว่า “เรือนเหล่าไท่ไท่จัดโต๊ะอาหารเสร็จแล้ว คุณนายรองตอนนี้อยู่ที่เรือน”
ภรรยาโจวยุ่ยเร่งหลิวเหล่าเลาว่า “รีบไป มีจังหวะว่างช่วงก่อนกินอาหารนี่เท่านั้น ช้าไปคนจะเยอะ คุยกันลำบาก ยิ่งถึงเวลานอนกลางวัน ยิ่งหาจังหวะไม่ได้เลย”
หลิวเหล่าเลาจัดแจงเสื้อผ้า สอนปั่นเอ๋ออีกสองสามประโยค แล้วรีบตามภรรยาโจวยุ่ยมายังเรือนของเจี่ยเหลียน
ตอนก่อนหน้า : นาฏกรรมความฝันในหอแดง
ตอนถัดไป : บุญคุณเหนือญาติมิตร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา