31 ก.ค. เวลา 00:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🐛 หายนะในห่วงโซ่อาหาร? | เมื่อหนอนตัวเล็ก "เสพติด" การกินไมโครพลาสติก และมันอาจย้อนกลับมาหาเรา

เราทุกคนรู้ดีว่า "ไมโครพลาสติก" ได้แทรกซึมเข้าไปในแทบทุกส่วนของระบบนิเวศ... โดยสัญชาตญาณแล้ว เราคงจะคิดว่าสัตว์ต่างๆ น่าจะพยายาม "หลีกเลี่ยง" อาหารที่ปนเปื้อนพลาสติกใช่ไหมครับ?
แต่การศึกษาล่าสุดในหนอนตัวกลมกลับพบความจริงที่น่าตกใจและสวนทางอย่างสิ้นเชิง เมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วอายุ พวกมันไม่เพียงแค่ยอมกิน แต่กลับ "เรียนรู้ที่จะชื่นชอบ" อาหารที่ปนเปื้อนพลาสติกมากกว่าอาหารที่สะอาด ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่อาจเร่งให้พลาสติกเดินทางเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและย้อนกลับมาหาเราได้เร็วยิ่งขึ้น
🧠 การเรียนรู้ที่น่ากังวล
นักวิจัยได้ศึกษาพฤติกรรมการกินของหนอนตัวกลมขนาดเล็กที่เรียกว่า นีมาโทด (nematodes) ซึ่งเป็นหนึ่งในสัตว์ที่พบได้บ่อยที่สุดในโลกและเป็นฐานสำคัญของห่วงโซ่อาหารจำนวนมาก
เมื่อถูกเสนอให้เลือกระหว่างอาหารปกติ (แบคทีเรีย) กับอาหารชนิดเดียวกันที่ปนเปื้อนด้วยไมโครพลาสติก นีมาโทดรุ่นแรกได้เลือกทางเลือกที่สะอาดกว่า แต่หลังจากที่พวกมันถูกเลี้ยงด้วยอาหารที่เจือปนพลาสติกเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน พฤติกรรมของลูกหลานพวกมันก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
"พวกมันเริ่มที่จะชื่นชอบอาหารที่ปนเปื้อนจริงๆ" ซ่ง หลิน ชัว กล่าว
🧃 แล้วทำไมพวกมันถึงชอบพลาสติก?
ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีการมองเห็น นีมาโทดต้องอาศัย "กลิ่น" ในการหาอาหาร "พลาสติกอาจเป็นส่วนหนึ่งของกลิ่นเหล่านั้น" ชัวกล่าว "หลังจากการสัมผัสเป็นเวลานาน พวกมันอาจจดจำไมโครพลาสติกได้ว่า 'เหมือนอาหารมากขึ้น' และเลือกที่จะกินมัน"
ชัวชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมนี้ "เป็นเหมือนการตอบสนองที่ผ่านการเรียนรู้" (learned response) มากกว่าที่จะเป็นการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม และดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะ "ย้อนกลับได้" หากพวกมันกลับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาด
🌊 ผลกระทบระลอกคลื่นสู่มนุษย์
การค้นพบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันชี้ให้เห็นถึงกลไกที่อาจเร่งกระบวนการ "การสะสมในห่วงโซ่อาหาร" (Biomagnification)
• โดยปกติ สัตว์เล็กๆ ที่กินพลาสติกเข้าไปจะถูกสัตว์ใหญ่กว่ากินต่อ ทำให้พลาสติกและสารพิษที่ติดมากับมันสะสมและมีความเข้มข้นสูงขึ้นในลำดับที่สูงขึ้นของห่วงโซ่อาหาร
• แต่การที่สิ่งมีชีวิตระดับฐานอย่างนีมาโทด "จงใจ" เลือกกินพลาสติก อาจหมายความว่าปริมาณพลาสติกที่เข้าสู่ห่วงโซ่อาหารตั้งแต่จุดเริ่มต้นนั้น สูงกว่าที่เราเคยประเมินไว้มาก
"สิ่งนี้จะถูกส่งต่อไปตามห่วงโซ่อาหาร" ชัวกล่าว "ในที่สุด มันก็จะยังคงย้อนกลับมาหาเรา"
🏡 แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
สำหรับประเทศไทย ซึ่งมีปัญหา "ขยะพลาสติก" และ "ไมโครพลาสติก" ในแหล่งน้ำและทะเลอย่างรุนแรง และยังเป็นประเทศที่พึ่งพาอาหารทะเลและสัตว์น้ำอย่างสูง การค้นพบนี้คือสัญญาณเตือนภัยที่ดังและชัดเจน
มันบอกเราว่าผลกระทบของพลาสติกอาจจะเลวร้ายกว่าที่เราคิด เพราะมันไม่เพียงแค่ปนเปื้อน แต่ยังอาจกำลัง "เปลี่ยนพฤติกรรม" ของสิ่งมีชีวิตในระดับฐานของห่วงโซ่อาหาร ซึ่งหมายความว่าสัตว์น้ำต่างๆ ที่คนไทยบริโภค อาจจะกำลังสะสมไมโครพลาสติกในปริมาณที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ พฤติกรรมสุดช็อก: งานวิจัยพบว่าหนอนนีมาโทดสามารถ "เรียนรู้" ที่จะชื่นชอบและเลือกกินอาหารที่ปนเปื้อนไมโครพลาสติกได้
✅ ไม่ใช่สัญชาตญาณ: ในรุ่นแรก หนอนจะหลีกเลี่ยงพลาสติก แต่หลังจากสัมผัสไปหลายชั่วอายุคน พวกมันกลับเปลี่ยนพฤติกรรมและเลือกกินสิ่งที่ปนเปื้อน
✅ การเรียนรู้ ไม่ใช่พันธุกรรม: นักวิจัยเชื่อว่านี่เป็น "พฤติกรรมที่เรียนรู้" ผ่านการเชื่อมโยงกลิ่นของพลาสติกกับอาหาร ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
✅ หายนะในห่วงโซ่อาหาร: เนื่องจากนีมาโทดเป็นฐานของห่วงโซ่อาหารจำนวนมาก พฤติกรรมนี้อาจทำให้ไมโครพลาสติกถูกส่งต่อไปยังสัตว์ที่ใหญ่กว่าในปริมาณที่สูงขึ้น
✅ สุดท้ายจะย้อนกลับมาหาเรา: นักวิจัยเตือนว่าการสะสมพลาสติกในห่วงโซ่อาหารนี้ "จะย้อนกลับมาถึงมนุษย์" ในที่สุด
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
การค้นพบว่าสัตว์สามารถ "เรียนรู้" ที่จะชอบอาหารปนเปื้อนพลาสติกได้นี้ ทำให้คุณกังวลเกี่ยวกับปัญหาไมโครพลาสติกมากขึ้นแค่ไหน? แล้วคุณคิดว่าเราจะแก้ปัญหานี้ที่ต้นตอได้อย่างไร?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องนี้น่ากังวล пластик อย่าลืมกดบันทึกไว้ หรือแชร์ให้คนรอบข้างได้ตระหนักถึงปัญหานี้ด้วยกันนะครับ!
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Yang, A. H., et al. (2025). Microplastics Alter Predator Preferences of Prey through Associative Learning. Environmental Science and Technology Letters. http://doi.org/pw3f
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
ธรรมชาติเต็มไปด้วย "ภัยเงียบ" ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเราจะมองเห็นได้ก็ต่อเมื่อวิทยาศาสตร์ได้ส่องแสงความเข้าใจลงไป...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการทำหน้าที่เป็น "ผู้เฝ้าระวัง" ที่จะคอยสอดส่องงานวิจัยล่าสุด แล้วนำเรื่องราวที่เป็น "สัญญาณเตือนภัย" ที่สำคัญเหล่านี้มาบอกเล่าให้คุณได้รู้
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้ "หอสังเกตการณ์" ของเรายังคงทำงานได้อย่างเต็มที่ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา