เมื่อวาน เวลา 03:00 • การตลาด

สรุปไอเดีย ทำคอนเทนต์บน Social Media ตามกรวยการตลาดแต่ละขั้น ให้เข้าถึงลูกค้าได้ตรงจุด

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ มักจะมี “โซเชียลมีเดีย” ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือช่องทางอื่น ๆ เป็นของตัวเองอย่างน้อย 1 บัญชี
ด้วยเหตุนี้ โซเชียลมีเดีย จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญ ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้อย่างเป็นวงกว้าง
แต่คำถามสำคัญก็คือ แล้วแบรนด์จะทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียอย่างไร ให้ได้ผลดี มีประสิทธิภาพ ?
คำถามนี้ สามารถอธิบายได้ด้วย “Social Media Marketing Funnel” ที่ต่อยอดมาจาก Marketing Funnel หรือกรวยการตลาดแบบดั้งเดิม
เริ่มแรก ต้องอธิบายกันก่อนว่า จริง ๆ แล้ว Social Media Marketing Funnel มีองค์ประกอบเช่นเดียวกับ Marketing Funnel แบบดั้งเดิม
นั่นก็คือ Awareness (การสร้างการรับรู้) >> Consideration (การพิจารณา) >> Conversion (การตัดสินใจซื้อ) >> Loyalty (การซื้อซ้ำ) >> Advocacy (การบอกต่อ)
แต่ความแตกต่างระหว่าง Social Media Marketing Funnel และ Marketing Funnel แบบดั้งเดิม อยู่ตรงที่
Social Media Marketing Funnel จะเป็นกรวยการตลาด ที่อธิบายถึงกลยุทธ์ทำการตลาด ด้วยการทำคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ
ในขณะที่ Marketing Funnel แบบดั้งเดิม จะมีกลยุทธ์ในการทำการตลาด ในภาพรวมมากกว่า ซึ่งอาจไม่เหมาะกับการทำการตลาด บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบในปัจจุบัน
ทีนี้ เราลองมาเจาะลึกกันที่ Social Media Marketing Funnel แต่ละขั้นกัน
1. Awareness (การสร้างการรับรู้)
เป็นองค์ประกอบแรกของ Social Media Marketing Funnel เป็นช่วงเวลาที่กลุ่มเป้าหมายยังไม่รู้จักแบรนด์ หน้าที่ของแบรนด์จึงเป็นการ สร้างการรับรู้ (Awareness) เพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์ก่อน เป็นอันดับแรก
กลยุทธ์การทำคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย ที่สามารถสร้างการรับรู้ (Awareness) ได้ดี ก็อย่างเช่น
- การใช้อินฟลูเอนเซอร์ทำคอนเทนต์ร่วมกับแบรนด์ เพื่อสร้างการรับรู้
โดยอินฟลูเอนเซอร์ที่สามารถสร้างการรับรู้ได้ดีที่สุด ก็คือ อินฟลูเอนเซอร์ในกลุ่ม Mid-Tier Influencer (มีผู้ติดตาม 50,000-500,000 คน) ไปจนถึงกลุ่ม Mega Influencer (มีผู้ติดตาม 500,000-1,000,000 คน)
เพราะอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก จะสามารถใช้จำนวนผู้ติดตามที่มี ในการสร้างการรับรู้ได้อย่างมหาศาล
- ซื้อโฆษณาบน Facebook
โดยเลือก วัตถุประสงค์ของการซื้อโฆษณาเป็นการสร้าง Awareness เพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายบน Facebook รู้จักแบรนด์มากที่สุด
- ทำคอนเทนต์ที่คนจะแชร์ / คอนเทนต์ไวรัล
ไม่ว่าจะเป็น บทความ และอินโฟกราฟิก ที่มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ หรืออัลบั้มรูปภาพสวย ๆ ที่น่าสนใจ จนผู้ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกดแชร์
หรือทำคอนเทนต์คลิปวิดีโอสั้น ทั้งบน TikTok, Facebook และ Instagram Reels ที่มีแนวโน้มว่าผู้ใช้จะกดแชร์ต่อ
- การตลาดแบบ UGC
หรือย่อมาจาก User-Generated Content เป็นคอนเทนต์ที่ผู้ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นผู้ทำขึ้นเอง โดยอาจต่อยอดมาจากการ “จุดกระแส” จากคอนเทนต์ตั้งต้นของแบรนด์
ตัวอย่างเช่น ร้านสุกี้ตี๋น้อย ที่ทำโปรโมชันมอบส่วนลดให้กับลูกค้าที่ใส่ชุดกิโมโน ทำให้มีคนจำนวนมากที่ใส่ชุดกิโมโนไปกินสุกี้ตี๋น้อย และทำคอนเทนต์ของตัวเองลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
ซึ่งทำให้สุกี้ตี๋น้อยได้รับ Awareness ไปเป็นจำนวนมหาศาล
2. Consideration (การพิจารณา)
หลังจากที่กลุ่มเป้าหมายรับรู้ถึงการมีอยู่ของแบรนด์ หรือรู้จักแบรนด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่ช่วงที่กลุ่มเป้าหมาย นำแบรนด์ไปพิจารณาร่วมกับแบรนด์อื่น ๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาด เพื่อตัดสินใจซื้อสินค้า
สิ่งที่ควรทำในขั้นตอนนี้คือ การกระตุ้นการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า ข้อดี ข้อได้เปรียบ หรือจุดเด่นของสินค้า ที่มีเหนือคู่แข่ง รวมถึงคุณค่าที่กลุ่มเป้าหมายจะได้รับจากการใช้สินค้า
กลยุทธ์การทำคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในขั้นตอนนี้ ก็อย่างเช่น
- การทำคอนเทนต์รีวิวสินค้าของอินฟลูเอนเซอร์
โดยอาจเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ในสายที่ตรงกับประเภทของสินค้า เช่น หากสินค้าเป็นสินค้าไอที ก็เลือกอินฟลูเอนเซอร์ในสายไอที
โดยเน้นไปที่การให้ข้อมูลของสินค้าอย่างละเอียด บอกวิธีการใช้งาน เปรียบเทียบจุดเด่น จุดด้อย เพื่อเทียบกับสินค้าของแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด
- การทำคอนเทนต์ที่ให้ข้อมูล และรายละเอียดเชิงลึกของสินค้า ในหลากหลายรูปแบบ เช่น
คอนเทนต์ที่ให้ข้อมูลของสินค้าอย่างละเอียด
คอนเทนต์เปรียบเทียบคุณสมบัติของสินค้าในแต่ละรุ่น
คอนเทนต์สาธิตการใช้สินค้าจริงให้เห็นแบบชัด ๆ
คอนเทนต์ถาม-ตอบคำถาม ความสงสัยเกี่ยวกับสินค้า
ซึ่งคอนเทนต์เหล่านี้ สามารถทำได้หลายรูปแบบ ทั้งบทความ อินโฟกราฟิก รูปภาพ คลิปวิดีโอ คลิปวิดีโอสั้น ไลฟ์ หรือแม้แต่การพากลุ่มเป้าหมายให้เปิดเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าเพิ่มเติม ภายในเว็บไซต์ของแบรนด์
- ใช้กลยุทธ์ Retargeting
ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการยิงโฆษณาซ้ำ ๆ ใส่ผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย หรือผู้ที่แบรนด์รู้ว่ามีความสนใจในสินค้าของแบรนด์
เช่น ผู้ที่เคยเข้ามาดูสินค้าอยู่บ่อย ๆ ก็ให้ยิงโฆษณาซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่ให้ข้อมูล และรายละเอียดของสินค้า จนทำให้กลุ่มเป้าหมาย ได้รับข้อมูลจากแบรนด์ จนอยากตัดสินใจซื้อ
3. Conversion (การตัดสินใจ)
เป็นช่วงที่กลุ่มเป้าหมาย ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสินค้ามาสักระยะหนึ่งแล้ว ในขั้นตอนต่อไปก็คือ การลดความลังเลของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อสินค้า และกลายเป็นลูกค้าจริง ๆ ของแบรนด์
กลยุทธ์การทำคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในขั้นตอนนี้ ก็อย่างเช่น
- คอนเทนต์ที่เกี่ยวกับราคา ส่วนลด โปรโมชัน เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ
เช่น คอนเทนต์ Facebook หรือ TikTok แนะนำการกดโคดส่วนลด หรือโคดส่วนลดที่สามารถใช้ซื้อสินค้าได้ บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
- คอนเทนต์เกี่ยวกับข้อมูลของสินค้า
โดยเน้นไปที่การเปรียบเทียบสินค้าระหว่างแบรนด์กับคู่แข่ง ให้เห็นถึงข้อดี จุดเด่น หรือข้อได้เปรียบที่แบรนด์คู่แข่งไม่มี เพื่อลดความลังเลของกลุ่มเป้าหมาย
- คอนเทนต์รีวิวการใช้จริง ของลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าไปแล้ว
รวมถึงคอนเทนต์ที่ถาม-ตอบคำถามที่กลุ่มเป้าหมายสงสัยบ่อย ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าจริง
- คอนเทนต์ไลฟ์ขายสินค้าบน TikTok
ที่สามารถทำให้กลุ่มเป้าหมาย ได้รับข้อมูลของสินค้าอย่างละเอียด เปรียบเทียบสินค้าให้เห็นอย่างชัดเจน รวมถึงได้รับข้อมูลทางด้านราคา โปรโมชัน และสามารถซื้อสินค้าได้ในที่เดียว
4. Loyalty (การซื้อซ้ำ)
หลังจากที่กลุ่มเป้าหมาย ได้กลายเป็นลูกค้าจริง ๆ ของแบรนด์แล้ว หน้าที่ของแบรนด์ไม่ได้จบแค่เพียงเท่านี้
เพราะแบรนด์มีหน้าที่ต้องทำการตลาด เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าซ้ำเรื่อย ๆ จนกลายเป็นลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์ (มี Brand Loyalty) และไม่เปลี่ยนใจไปซื้อสินค้าจากคู่แข่ง
กลยุทธ์การทำคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในขั้นตอนนี้ ก็อย่างเช่น
- ทำคอนเทนต์เพื่อสื่อสารโปรโมชันพิเศษ สำหรับลูกค้าเก่า เช่น โปรโมชัน เก่าแลกใหม่ ให้ส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าเก่าเท่านั้น
- ทำคอนเทนต์กระตุ้นให้ลูกค้าเก่าสมัครสมาชิก เพื่อรับสิทธิพิเศษ หรือได้รับบริการหลังการขายอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
- การสร้าง Community สำหรับลูกค้าโดยเฉพาะ
เช่น กลุ่ม Facebook ซึ่งเป็น Community ของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าร่วมกันแชร์ประสบการณ์การใช้งาน รวมถึงเป็นพื้นที่ให้แบรนด์สามารถรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเก่าของตัวเองต่อไปได้
- ทำคอนเทนต์แชร์เทคนิคการใช้งานสินค้า
เช่น การใช้สินค้าให้ครบทุกฟีเชอร์ การบำรุงรักษา การหาซื้ออะไหล่สิ้นเปลือง เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจ ที่ได้รับการดูแลอย่างดีจากแบรนด์
5. Advocacy (การบอกต่อ)
เป็นขั้นตอนสุดท้ายของ Social Media Marketing Funnel หลังจากที่ลูกค้ากลายเป็นลูกค้าประจำ และมีความภักดีต่อแบรนด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
1
หน้าที่ของแบรนด์คือ การทำการตลาดเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลุ่มนี้ กลายเป็นกระบอกเสียง ช่วยโปรโมตสินค้าให้กับแบรนด์
กลยุทธ์การทำคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในขั้นตอนนี้ ก็อย่างเช่น
- การกระตุ้นให้ลูกค้าทำคอนเทนต์ User-Generated Content (UGC)
เช่น แชร์ประสบการณ์ ความประทับใจ รีวิวการใช้งานจริงของตัวเอง ให้คนที่กำลังตัดสินใจซื้อสินค้า ได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าแบบเรียล ๆ
โดยแลกกับสิทธิพิเศษบางอย่าง ให้กับลูกค้าที่ทำคอนเทนต์ User-Generated Content (UGC) เช่น การให้ส่วนลด หรือการให้บัตรของขวัญ
ทั้งหมดนี้ คือ Social Media Marketing Funnel ซึ่งเป็นกรวยการตลาด ที่เจาะลึกไปยังการทำคอนเทนต์ ที่เหมาะกับพฤติกรรมของลูกค้า ที่อยู่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะ
โฆษณา