EEC หรือ เขตล่าอาณานิคมยุคใหม่? เมื่อป่าถูกยึดโดยอำนาจพิเศษ
ถ้าคุณคิดว่าอาณานิคมตายไปพร้อมกับจักรวรรดิอังกฤษในศตวรรษที่ 20
คุณยังไม่เคยเจอเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือที่เราเรียกกันง่าย ๆ ว่า EEC
นี่คือโครงการที่รัฐไทยป่าวประกาศว่าเป็นทางรอดของประเทศในศตวรรษใหม่
แต่ถ้าคุณเป็นชาวบ้านแนวป่า หรือช้างที่ไร้ปาก มันคือระเบิดเวลา
ระเบิดที่ใช้ คำว่า “พัฒนา” บังหน้า แล้วสวมรองเท้าบู๊ทย่ำป่าผืนสุดท้าย
รัฐประหารเปิดทาง นายทุนยึดที่
หลังรัฐประหาร 2557 สิ่งที่เร่งด่วนกว่าการร่างรัฐธรรมนูญ คือการเปิดหน้าดิน
กฎหมายพิเศษถูกขีดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
EEC ได้อำนาจฟ้าประทาน ยึดที่ดินป่า ข้ามขั้นตอน ข้ามประชาชน
แค่คลิกในเว็บไซต์ของคณะกรรมการส่งเสริมฯ ที่กรุงเทพฯ
ผืนป่าที่เคยเป็นบ้านของช้างก็กลายเป็นนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ
ช้างไม่เข้าใจคำว่าอุตสาหกรรม 4.0
แต่พวกมันเข้าใจดีว่า ไม่มีไผ่ ไม่มีน้ำ ไม่มีเส้นทางเดิน
แถมยังมีเสียงเจาะเข็ม ลงเสา เทถนน วิ่งตัดกลางเขตหากิน
คนในพื้นที่ไม่ใช่ Stakeholder แต่กลายเป็นผู้ต้องหา
เมื่อชาวบ้านถามหาความชอบธรรม พวกเขากลับถูกตราหน้าว่า “ขัดขวางความเจริญ”
บางคนโดนคดี บางคนโดนไล่ที่ บางหมู่บ้านโดนตัดน้ำเพื่อเอาไปให้โรงงาน
พอช้างออกมาเหยียบพืชสวน รัฐก็โทษธรรมชาติ
แต่พอโรงงานปล่อยน้ำเสียลงคลอง กลับบอกให้เข้าใจว่า "เป็นผลพลอยได้ทางเศรษฐกิจ"
EEC ไม่ได้เกิดในสุญญากาศ แต่มันเหยียบอยู่บนกระดูก
กระดูกของช้างที่ขาดน้ำ
กระดูกของชาวบ้านที่ไร้สิทธิในที่ดิน
กระดูกของระบบธรรมชาติที่เคยเชื่อมถึงกัน แต่ถูกปิดกั้นด้วยกำแพงอุตสาหกรรม
นี่ไม่ใช่เขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่มันคือ “เขตความสูญเสียถาวร”
จึงมีข้อเสนอจากสมรภูมิพัฒนาว่า
1. หยุดใช้กฎหมายพิเศษเป็นเครื่องมือเวนคืนป่าโดยไม่ฟังเสียงท้องถิ่น
2. ทำ SEA (Strategic Environmental Assessment) สำหรับพื้นที่ EEC โดยมีภาคประชาชนเป็นเจ้าภาพ ไม่ใช่ที่ปรึกษาบริษัท
3. จัดตั้ง “โซนกันชนนิเวศ” รอบนิคมอุตสาหกรรม โดยใช้ข้อมูลเส้นทางการเคลื่อนที่ของช้างเป็นเกณฑ์
4. สร้างกลไกรับฟังและตรวจสอบแบบมีสิทธิต่อรองจริงของชาวบ้านแนวป่า ไม่ใช่แค่จัดเวทีแล้วถ่ายรูปส่งรายงาน
ถ้า “พัฒนา” แปลว่าก้าวไปข้างหน้า
งั้นเราก็ต้องถามว่า…ใครกันที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
และพวกเขาจะมีสิทธิกลับเข้ามาอยู่ในแผนที่ชาติได้อีกครั้งหรือไม่
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
