1 ส.ค. เวลา 11:30 • ท่องเที่ยว
Munch museum

🎒 “เที่ยวออสโลแบบไม่ง้อแผนที่ – ปล่อยตัวไปกับธรรมชาติรอบเมือง” EP#3 Munch Museum (“MUNCH”)

ในย่าน Bjørvika ริมฟยอร์ดของออสโล มีอาคารสูงรูปทรงแปลกตาตั้งตระหง่านอยู่ข้าง Oslo Opera House – นั่นคือ MUNCH พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะของหนึ่งในศิลปินผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก: Edvard Munch เจ้าของผลงานภาพวาดชื่อก้องโลก The Scream (หรือ “Skrik” ในภาษานอร์เวย์) EP#2 เราเดินมาเที่ยว Opera House แล้วเราก็ไม่ควรพลาด Museum นี้นะคะ เดินไม่ไกลมากนัก…
อาคารพิพิธภัณฑ์ MUNCH ที่ตั้งอยู่ในย่าน Bjørvika ของออสโล ไม่ใช่แค่ “ตึกจัดแสดงงานศิลป์” ธรรมดา แต่มันคือ สัญลักษณ์ใหม่ของเมือง และของจิตวิญญาณความเป็นนอร์เวย์ ที่ผสานทั้งความเคารพต่อศิลปินระดับชาติ และความกล้าท้าทายด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัย
การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี 2015 แล้วเสร็จในปี 2020 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ตุลาคม 2021 โครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในแผนพัฒนาเมือง “Fjordbyen” ที่มุ่งหมายเปลี่ยนพื้นที่อุตสาหกรรมริมฟยอร์ดให้กลายเป็นย่านวัฒนธรรม ศิลปะ และคุณภาพชีวิต…
อาคารนี้มีชื่อทางการว่า Lambda Building ออกแบบโดยสถาปนิกชาวสเปนจากบริษัท Estudio Herreros สิ่งที่โดดเด่นมากคือ รูปทรงอาคารที่เอนลาดไปด้านหน้า ด้านบนของตึก ซึ่งเปรียบเสมือน “คอที่โน้มลงมองผู้คนด้านล่าง” หรือ “เสียงกรีดร้องเงียบ ๆ” จากท้องฟ้า — เป็นกิมมิกทางสถาปัตยกรรมที่สื่อถึง อารมณ์ลึกในงานของ Munch…
อาคารสูงกว่า 60 เมตร มีทั้งหมด 13 ชั้น และใช้วัสดุที่เน้นความยั่งยืน เช่น อะลูมิเนียมรีไซเคิล และระบบควบคุมพลังงานอัจฉริยะ ถือเป็นอาคารแกลเลอรีแนวตั้งที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป..
นี่ไม่ใช่ความบังเอิญ
แต่มันคือเจตนา
เพราะ “ศิลปะของ Munch ไม่ใช่ภาพที่แค่ให้เราดู แต่เป็นภาพที่ให้เรารู้สึก”
Anxiety” (ความวิตกกังวล)
🇳🇴 ความหมายกับชาวนอร์เวย์
สำหรับชาวนอร์เวย์ พิพิธภัณฑ์นี้มีความหมายลึกซึ้งกว่าคำว่า “สถานที่จัดแสดงงานศิลปะ” มาก เพราะ…
• Edvard Munch คือสมบัติของชาติ: เขาไม่เพียงเป็นศิลปินระดับโลก แต่เป็นผู้บันทึกจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ และความโดดเดี่ยวแบบสแกนดิเนเวียนผ่านงานของเขา
• มรดกที่มอบให้: Munch มอบผลงานกว่า 28,000 ชิ้นให้แก่เมืองออสโลเมื่อเขาเสียชีวิตในปี 1944 ซึ่งถือเป็นการ “มอบหัวใจ” ของเขาให้กับประชาชนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
• MUNCH คือความภาคภูมิใจร่วมสมัย: อาคารแห่งนี้กลายเป็นไอคอนของเมืองรุ่นใหม่ สื่อถึงความกล้าในการผสมผสานอดีตเข้ากับอนาคต ไม่ยึดติดกับแบบแผน แต่ยังคงให้เกียรติรากเหง้า
ใครที่ชื่นชอบพิพิธภัณฑ์ ชื่นชมภาพวาด ทันทีที่คุณก้าวเข้าสู่ภายในอาคาร คุณจะรู้สึกได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่ “พิพิธภัณฑ์” แต่มันคือพื้นที่ที่พยายามทำให้คุณ สัมผัสถึงความรู้สึกดิบ ลึก และจริง ของมนุษย์ — ความกลัว ความรัก ความเศร้า ความตาย และความงามในความเจ็บปวด ซึ่งเป็นธีมที่อยู่ในงานของ Munch ตลอดชีวิต❤️
คุณจะได้เห็นไม่เพียงแค่ The Scream เท่านั้น — แต่ยังมีผลงานอีกหลายร้อยชิ้น ทั้งจิตรกรรม ภาพพิมพ์ ภาพวาดดินสอ และงานศิลป์ทดลอง ซึ่งแสดงถึงการต่อสู้กับความเปราะบางของจิตใจ และความหม่นลึกของการดำรงอยู่
ความรู้สึกในแต่ละชั้น ของพิพิธภัณฑ์นี้จะแตกต่างกันไป บางชั้นมืด สงบ และนิ่งราวกับให้คุณย้อนกลับเข้าไปในความคิดของตนเอง ขณะที่บางชั้นเปิดโล่ง สว่าง และกระตุ้นให้คุณมองเห็นความงามแม้ในความเหงา MUNCH ไม่พยายามจะสอนคุณว่าอะไรคือศิลปะ แต่มันตั้งคำถามว่า “คุณรู้สึกยังไงกับสิ่งนี้?”
The Scream ธรรมชาติทั้งมวลกำลังกรีดร้อง คุณจะยืนอยู่หน้าภาพ The Scream บางคนยืนนิ่ง บางคนขมวดคิ้ว บางคนเดินผ่าน แต่ไม่ว่าใคร — ไม่มีใครไม่รู้สึกอะไร มันเหมือนกับว่า Munch ไม่ได้วาดภาพนั้นจากข้างนอก แต่เขาวาดมาจาก “ในเรา”
Munch ผู้เป็นมากกว่าศิลปิน
Edvard Munch เป็นหนึ่งในศิลปินชาวนอร์เวย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก
เขาไม่ได้วาดภาพเพื่อขาย แต่เขาวาดเพื่อแสดง “สิ่งที่อยู่ข้างใน” ออกมาอย่างซื่อสัตย์
The Scream, Madonna, The Sick Child, Anxiety, Jealousy…
ชื่อผลงานแต่ละชิ้น ไม่ใช่แค่ชื่อ — แต่มันคือ “ความรู้สึก” ที่เราเองก็เคยสัมผัส เขาพูดถึงความกลัว ความตาย ความรักที่ไม่สมหวัง และเสียงในใจที่ไม่มีใครได้ยิน มันคือศิลปะที่กล้าพูดถึงด้านมืดของมนุษย์ — และนั่นคือเหตุผลที่คนทั้งโลกยังรู้จักเขาจนวันนี้…
และเมื่อเขาเสียชีวิตในปี 1944 เขาไม่ได้ฝากงานไว้แค่กับหอศิลป์ เขามอบผลงานมากกว่า 28,000 ชิ้น ให้ “เมืองของเขา” — ออสโล เพราะในใจเขา ศิลปะควรเป็นของประชาชน
🧠 ทำไมถึงไม่ควรพลาด MUNCH
• ถ้าคุณเคยรู้สึกว่าโลกมัน “เสียงดังเกินไป” หรือจิตใจวุ่นวาย คุณจะเข้าใจ Munch
• ถ้าคุณอยากเห็นว่าศิลปะสามารถ “กรีดเสียงของมนุษย์ออกมาเป็นภาพ” ได้ยังไง — MUNCH คือที่แห่งนั้น
• ที่นี่ไม่ใช่แค่สำหรับคนที่ชอบศิลปะ แต่มันเหมาะกับทุกคนที่เคย ตั้งคำถามกับตัวเอง ชีวิต หรือความรู้สึกของตน
ภาพถ่ายอีกมุมหนึ่งของอาคาร
🚶‍♂️ การเดินทางไปยัง MUNCH
การไปยัง MUNCH ง่ายและสะดวกมาก พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ห่างจาก Oslo Central Station (Oslo S) เพียงแค่เดินประมาณ 5–7 นาที โดยคุณสามารถมองเห็นอาคารดีไซน์โมเดิร์นที่ “เอนไปด้านหน้าเล็กน้อย” ตั้งเด่นชัดอยู่ริมน้ำ
ระหว่างทางจากสถานีไปยังพิพิธภัณฑ์ คุณจะเดินผ่าน ถนนคนเดิน Bjørvika ที่มีร้านกาแฟเล็ก ๆ ร้านหนังสือ ร้านเบเกอรี และวิวทะเลที่แสนสงบ เป็นการเดินที่ทำให้หัวใจค่อย ๆ ปรับจากความเร่งรีบในเมือง เข้าสู่ “จังหวะของศิลปะ”
🎧 สิ่งที่คุณควรทำเมื่อไปที่ MUNCH
• ใส่หูฟัง ฟังเสียงคำบรรยาย หรือเพียงแค่เปิดเพลงคลอเบา ๆ แล้วเดินชมภาพแต่ละภาพด้วยตัวเอง
• หยุดหน้าภาพ The Scream แล้วหลับตา คิดถึงเสียงกรีดร้องที่ไม่มีใครได้ยิน นอกจากตัวเราเอง
• ขึ้นไปยังชั้นบนสุด เพื่อจิบกาแฟในคาเฟ่ที่มองเห็นวิว Oslofjord และให้ตัวเองได้ หายใจเข้าลึก ๆ พร้อมทบทวนว่ารู้สึกอะไรกับงานศิลปะ
✨ สรุปในแง่ความรู้สึก
อาคารแห่งนี้จึงไม่ใช่แค่ “ที่เก็บภาพ The Scream”
แต่มันคือ ของขวัญชิ้นใหญ่จากศิลปินถึงเมือง และจากเมืองถึงโลก
เป็นพื้นที่ที่ศิลปะไม่เพียงแค่ให้เราดู — แต่ทำให้เรารู้สึก…ว่าเราเป็นมนุษย์
MUNCH ไม่ได้ให้คำตอบ แต่มันทำให้คุณกล้าถามตัวเองมากขึ้น — และบางครั้ง นั่นคือการเดินทางที่ลึกกว่าการไปที่ไหน ๆ ในโลกก็ว่าได้
และเมื่อคุณเดินออกจาก MUNCH พร้อมสายลมเบา ๆ จาก Oslofjord ที่พัดผ่านใบหน้า คุณจะไม่ได้แค่พกภาพวาดติดตากลับไปเท่านั้น…
แต่คุณจะได้ บางสิ่งติดอยู่ในใจ – ความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายด้วยคำพูด
เพราะที่นี่…ไม่ใช่เพียงพิพิธภัณฑ์ของศิลปินระดับโลก
แต่มันคือ พื้นที่เงียบ ๆ ที่เปิดโอกาสให้เราได้เผชิญหน้ากับตัวเอง อย่างแท้จริง
บนชั้นบนสุดของ MUNCH มีคาเฟ่ริมกระจกที่เปิดมุมมองออกสู่ Oslofjord
คุณสามารถสั่งกาแฟร้อน นั่งลง แล้วมองออกไปที่ทะเลนิ่ง ๆ
บางคนอาจรู้สึกว่ามันแค่ “วิวสวย”
แต่สำหรับคนบางคน — นั่นคือช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเองอย่างแท้จริง
MUNCH มีบันไดกระจกยาวที่มองเห็นภาพตึกโอเปร่า มองลงไปที่ทางเดินของคนในเมือง
ความสัมพันธ์ระหว่างศิลปะ เมือง และชีวิตมนุษย์ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างแนบเนียน
📍ไม่ว่าคุณจะรักศิลปะ หรือแค่เคยตั้งคำถามว่า “เสียงในใจเรามันกำลังพูดอะไรอยู่” —
MUNCH คือสถานที่ที่คุณควรมาสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิต
EP#3 ผ่านไปแล้วนะคะ หากท่านใดชื่นชอบ เขียนคอมเม้นท์มาได้ หรือ ข้อติชมอย่างไร ยินดีเสมอ
โดย ป้าดาวนอร์เวย์
โฆษณา