🎒 “เที่ยวออสโลแบบไม่ง้อแผนที่ – ปล่อยตัวไปกับธรรมชาติรอบเมือง” EP#4 Akershus Fortress
🏰 ป้อมปราการยุคกลางตั้งอยู่ริมท่าเรือ ชมวิว Oslofjord ไปพร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสงครามโลก
Akershus Fortress หรือที่รู้จักในภาษานอร์เวย์ว่า Akershus Festning เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดของประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่บนเนินเขาริมอ่าว Oslofjord ใจกลางกรุงออสโล ตัวป้อมปราการนี้สามารถมองเห็นวิวทะเลและเมืองได้อย่างสวยงาม เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด และยังเต็มไปด้วยเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 700 ปี
🇳🇴Akershus Fortress ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 13 โดยพระเจ้า Håkon V เพื่อเป็นป้อมปราการในการปกป้องเมืองออสโลจากการรุกรานจากภายนอก การเลือกทำเลของป้อมนี้ถือว่าฉลาดมาก เพราะตั้งอยู่ในจุดที่สามารถควบคุมเส้นทางทางน้ำและการเดินทางเข้ามาในเมืองได้ทั้งหมด ในช่วงเวลานั้นนอร์เวย์ยังไม่เป็นประเทศที่มีระบบการป้องกันประเทศที่เข้มแข็งนัก การมีป้อมปราการที่มั่นคงจึงถือเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและอธิปไตยของกษัตริย์
____
🤴👸นอกจากเป็นป้อมปราการแล้ว Akershus ยังถูกใช้เป็นพระราชวังหลวงในบางยุคสมัย โดยเฉพาะช่วงที่กรุงออสโลเริ่มกลายเป็นศูนย์กลางการปกครอง ในยุคต่อมา ป้อมนี้ก็กลายเป็นสถานที่คุมขังนักโทษทางการเมือง และในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นาซีเยอรมนีเข้ายึดครองนอร์เวย์ และใช้ Akershus เป็นที่คุมขังและประหารชีวิตนักโทษฝ่ายต่อต้านการยึดครอง หลายคนมองว่าสถานที่นี้จึงเต็มไปด้วยทั้งเกียรติยศและบาดแผลของประวัติศาสตร์ในเวลาเดียวกัน
ภาพบางมุมและการแสดง
ภายในป้อมปราการยังมี Akershus Castle ซึ่งเป็นอาคารที่งดงามในสไตล์เรอเนสซองส์ โดยมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในศตวรรษที่ 17 ตัวปราสาทมีห้องโถงที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง และใช้เป็นสถานที่จัดงานทางการของราชวงศ์ รวมถึงเป็นที่ฝังพระบรมศพของกษัตริย์และราชินีของนอร์เวย์ใน Royal Mausoleum ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกัน
____
ที่กล่าวว่า Akershus Fortress เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยทั้งเกียรติยศและบาดแผลของประวัติศาสตร์ ก็เพราะว่าสถานที่แห่งนี้ได้ทำหน้าที่สำคัญในหลายช่วงเวลาของนอร์เวย์ ทั้งในด้านที่รุ่งโรจน์และด้านที่เจ็บปวด โดยสามารถอธิบายได้ชัดเจนดังนี้
✨เกียรติยศของ Akershus Fortress
1. สัญลักษณ์แห่งอำนาจและความมั่นคงของราชอาณาจักร ป้อมนี้สร้างขึ้นโดยพระเจ้า Håkon V ในช่วงที่นอร์เวย์ยังถูกคุกคามจากศัตรูต่างถิ่น การสร้างป้อมปราการขนาดใหญ่ริมอ่าวเพื่อปกป้องเมืองหลวงจึงเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในทางการเมืองและการทหาร ถือเป็นการประกาศถึงอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ
2. ใช้เป็นพระราชวังหลวง ในบางยุคสมัย Akershus Castle ภายในป้อมเคยถูกใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์ และในเวลาต่อมายังเป็นสถานที่จัดพิธีสำคัญระดับประเทศ เช่น งานพระราชพิธี และการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองจากต่างประเทศ
3. ที่ฝังพระบรมศพของกษัตริย์และราชินี
Royal Mausoleum ภายในป้อมใช้เป็นสุสานของพระมหากษัตริย์นอร์เวย์บางพระองค์ จึงถือเป็นสถานที่แห่งเกียรติภูมิที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์อย่างลึกซึ้ง
4. ศูนย์กลางของความรักชาติและการต่อต้านในสงครามโลก แม้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ป้อมแห่งนี้จะถูกรุกรานโดยนาซีเยอรมนี แต่ก็กลายเป็นสถานที่สำคัญในการจดจำความเสียสละของชาวนอร์เวย์ที่ร่วมกันต่อสู้เพื่อเสรีภาพ สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณของชาติที่ไม่ยอมจำนน
✨บาดแผลของ Akershus Fortress
1. สถานที่คุมขังและประหารชีวิต
ตลอดหลายศตวรรษ Akershus เคยถูกใช้เป็นคุก โดยเฉพาะในช่วงยุคกลางและยุคใหม่ มีนักโทษทางการเมืองและผู้ที่ต่อต้านรัฐบาลถูกขังและบางรายถูกประหารชีวิตภายในกำแพงของป้อมนี้
2. ช่วงการยึดครองของนาซีเยอรมนี
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง นาซีเยอรมนีเข้ายึดครองนอร์เวย์และใช้ Akershus Fortress เป็นที่คุมขังนักโทษฝ่ายต่อต้าน หลายคนถูกทรมานและประหารชีวิตที่นี่ ป้อมแห่งนี้จึงกลายเป็นพยานเงียบของโศกนาฏกรรมและความเจ็บปวดของผู้ที่ต้องเสียสละชีวิต
3. ความทรงจำของความรุนแรงและการกดขี่
สำหรับหลายคน โดยเฉพาะทายาทของผู้ที่เคยถูกคุมขังหรือเสียชีวิตที่นี่ สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงอนุสรณ์สถาน แต่เป็นความทรงจำที่เจ็บปวด เป็นร่องรอยของบาดแผลในหน้าประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจลืม
____
ปัจจุบัน Akershus Fortress เปิดให้ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ บริเวณรอบ ๆ ป้อมเป็นสวนสาธารณะที่ผู้คนสามารถมาเดินเล่น ถ่ายภาพ หรือปิกนิกได้อย่างสบาย ๆ มีการจัดแสดงนิทรรศการถาวรและชั่วคราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของนอร์เวย์ โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ Norwegian Resistance Museum ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการต่อต้านนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองอย่างละเอียด
นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษตลอดทั้งปี เช่น การเดินชมสถานที่ยามค่ำคืน การแสดงแสงสีเสียง และการจัดงานเทศกาลต่าง ๆ ปีนี้มีการจัดงาน Pride Oslo 2025 เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่สถานที่แห่งนี้ วงดนตรีจัดขึ้น จุคนมากกว่า 100000 คน ทำให้ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่โบราณสถานที่เงียบเหงา แต่ยังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และการเรียนรู้ร่วมสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่เสมอ
หากได้มาเยือนกรุงออสโล Akershus Fortress คือสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ไม่เพียงเพราะทัศนียภาพที่สวยงาม แต่ยังเพราะเป็นพื้นที่ที่รวมความเป็นมา ความเจ็บปวด และความภาคภูมิใจของชาตินอร์เวย์เอาไว้ในที่เดียว ความเงียบสงบของที่นี่อาจพาให้เราหยุดคิดถึงอดีต พร้อมกับมองไปข้างหน้าด้วยความเข้าใจในเส้นทางที่ชาติหนึ่งได้เดินผ่านมาอย่างยาวนาน
การเดินเข้าไปใน Akershus จึงไม่ใช่แค่การเยี่ยมชมโบราณสถาน แต่เป็นการก้าวเข้าไปในหน้าประวัติศาสตร์ที่มีทั้งแสงสว่างและเงามืดของชาติที่เคยต่อสู้อย่างเข้มแข็งจนมายืนอยู่ได้อย่างสง่างามในวันนี้
____
การเดินทางไป Akershus Fortress ในกรุงออสโลนั้นง่ายและสะดวกมาก เพราะป้อมนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับสถานที่สำคัญหลายแห่ง ทั้งท่าเรือ Oslofjord ย่าน Aker Brygge และถนนสายหลักอย่าง Karl Johans gate
ภาพต่างมุมด้านนอกและด้านใน พื้นที่ให้เดินกว้างมาก
นี่คือเส้นทางหลัก ๆ ที่สามารถเลือกได้
เดินเท้า 🚶🏽♀️
หากคุณพักอยู่ในตัวเมืองออสโล เช่น ย่าน Oslo Central Station, Aker Brygge หรือ Karl Johans gate การเดินเท้าไป Akershus Fortress คือวิธีที่ดีที่สุด ใช้เวลาประมาณ 10–15 นาที และระหว่างทางยังสามารถชมวิวเมืองและท่าเรือได้อย่างเพลิดเพลิน เส้นทางเดินขึ้นเนินเขาไปยังป้อมไม่ชันมาก และมีทางเดินปูพื้นเรียบ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
รถไฟใต้ดิน (T-bane) 🚉
สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสายใดก็ได้มาลงที่สถานี Stortinget หรือ Nationaltheatret แล้วเดินต่อประมาณ 10–15 นาที ก็จะถึงบริเวณทางเข้าของป้อม
รถราง (Trikk)🚋
สามารถนั่งรถรางสาย 12 หรือ 13 มาลงที่ป้าย Kontraskjæret หรือ Aker Brygge แล้วเดินเข้าไปยัง Akershus Fortress ได้ในระยะทางไม่เกิน 5 นาที
รถบัส 🚌
รถบัสสายที่วิ่งผ่านศูนย์กลางเมือง เช่น สาย 30 หรือ 31 ก็สามารถนั่งมาลงที่ป้าย Rådhuset (City Hall) หรือ Aker Brygge ได้ แล้วเดินต่อไม่นาน
เรือเฟอร์รี่ ⛴️
หากคุณเดินทางมาจากฝั่งตรงข้ามของ Oslofjord เช่นจาก Bygdøy หรือนั่งเรือชมเมือง คุณสามารถลงที่ท่าเรือ Aker Brygge Terminal ซึ่งอยู่ใกล้กับ Akershus Fortress มาก เดินต่อประมาณ 5–7 นาที ก็ถึงทางเข้า
แท็กซี่หรือจักรยาน 🚴
ในกรณีที่คุณมีเวลาไม่มากหรือไม่สะดวกเดิน สามารถใช้บริการแท็กซี่หรือจักรยานเช่าจากจุดต่าง ๆ ในเมือง โดยมีจุดจอดจักรยานใกล้กับบริเวณทางเข้า และถนนรอบป้อมก็สามารถขี่จักรยานเข้าไปได้อย่างปลอดภัย
การเดินทางไป Akershus Fortress ไม่เพียงแค่สะดวก แต่ยังเป็นเส้นทางที่มีความสวยงาม ให้คุณได้เห็นความมีชีวิตชีวาของเมืองออสโล และกลิ่นอายของอดีตที่ยังคงอบอวลอยู่รอบ ๆ ป้อมปราการโบราณแห่งนี้ด้วย หากไปในช่วงเช้าหรือเย็น จะได้บรรยากาศที่สงบ เหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายรูป และซึมซับประวัติศาสตร์อย่างเต็มที่
____
ค่าเข้า Akershus Fortress (ในกรุงออสโล) จะแบ่งเป็นสองระดับตามพื้นที่
🎟️ บริเวณป้อมปราการ (Fortress area)
เข้าชม ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินเล่นชมวิวและสำรวจบริเวณภายนอกได้โดยไม่มีค่าเข้าชม ป้าเดินบ่อยมาก มาดูวิวในช่วงดวงอาทิตย์ตก จะเห็นวิว Akerbryge สวยมาก
🏰 พิพิธภัณฑ์ และ Akershus Castle
(รวมถึง Norwegian Resistance Museum, Norwegian Armed Forces Museum และภายในปราสาท) หากต้องการเข้าชมภายในอาคารและพิพิธภัณฑ์ สามารถซื้อบัตรรวม (combined ticket) ซึ่งมีค่าบัตรดังนี้:
• ผู้ใหญ่: ประมาณ 100 โครน (~USD 10–12) 
• เด็ก (อายุ 6–18 ปี): ประมาณ 40 โครน (~USD 4–5) 
• นักเรียน / ผู้สูงอายุ: ประมาณ 100 โครน (บางครั้งลดราคา)  
• บัตรครอบครัว: ประมาณ 250 โครน (ราคาเมื่อนำหลายคนในกลุ่มเข้าในราคาเดียว)  
นอกจากนี้ ยังมีทัวร์ไกด์นำชมภายในปราสาท ซึ่งมีค่าเข้าร่วมเพิ่มเติม
• ผู้ใหญ่โดยทั่วไป: ~100 โครน
• เด็ก: ~40 โครน
• บัตรครอบครัว: ~250 โครน 
🔢 สรุปค่าใช้จ่ายที่ควรรู้
• เข้าชมบริเวณป้อมโดยรอบ: ฟรี
• บัตรรวมเข้าสู่พิพิธภัณฑ์/ปราสาทภายใน: ผู้ใหญ่ ~100 kr / เด็ก ~40 kr / นักเรียน/ผู้สูงอายุ ~100 kr / ครอบครัว ~250 kr
• ทัวร์นำชมภายในปราสาท: รวมในบัตรข้างต้นหรือต้องซื้อเพิ่มในบางกรณี
⸻
💡 เคล็ดลับจากประสบการณ์จริง
• บัตร Oslo Pass สามารถใช้เข้า Akershus Castle และพิพิธภัณฑ์ในบริเวณได้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม 
• หากคุณสนใจในประวัติศาสตร์ภายในอย่าง Royal Mausoleum, ห้องจัดเลี้ยง หรือโบสถ์ปราสาท การซื้อ combined ticket หรือจองทัวร์นำชมจะคุ้มค่ามากกว่าการเข้าชมเฉพาะภายนอก❤️❤️
📌 สรุปแบบกระชับ
• Fortress grounds (บริเวณรอบนอก) เปิดทุกวัน 06:00–21:00
• Akershus Castle & Museums เปิด: พ.ค.–ส.ค. ทุกวัน จันทร์–เสาร์ 10:00–16:00, อาทิตย์ 12:30–16:00
• ก.ย.–เม.ย. เฉพาะเสาร์–อาทิตย์ 12:00–17:00
• จองตั๋ว ได้ที่หน้างานเท่านั้น (ยังไม่มีระบบออนไลน์)
• ทัวร์นำชม มีให้เลือกในวันเสาร์–อาทิตย์ หลักๆ รอบภาษาอังกฤษและนอร์เวย์
จบ EP#4 กันไปอีกแล้ว แค่ได้เห็นคนอ่าน ก็รู้สึกขอบคุณในใจ หากท่านชื่นชอบ ฝากกดไลด์ กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ❤️❤️ที่นี้ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่ช่วยให้คนไกลบ้านได้ผ่อนคลาย ความสวยงามของมันและร่องรอยความหลงเหลือจากอดีต❤️❤️
โดย ป้าดาวนอร์เวย์
ขอขอบคุณข้อมูลต่างๆ จาก
#เที่ยวออสโล #ป้าดาวนอร์เวย์ #travel #Akerhusfesning
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
