4 ส.ค. เวลา 11:00 • ท่องเที่ยว
ออสโล

🎒 “เที่ยวออสโลแบบไม่ง้อแผนที่ – ปล่อยตัวไปกับธรรมชาติรอบเมือง” EP#5 The Royal Palace & Palace Park

พระมหาราชวังหลวงแห่งออสโล (The Royal Palace of Oslo) หรือที่ชาวนอร์เวย์เรียกว่า Det Kongelige Slott ตั้งอยู่โดดเด่นอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ปลายสุดของถนน Karl Johans gate ซึ่งเป็นถนนคนเดินใจกลางกรุงออสโล รายล้อมด้วยสวนสาธารณะอันเงียบสงบที่เรียกว่า Palace Park หรือ Slottsparken ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวมาหลายชั่วอายุคน ราวกับเป็นหัวใจที่เต้นช้า ๆ แต่มั่นคงของเมืองหลวงแห่งนี้
พระราชวังแห่งนี้มิได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของราชวงศ์นอร์เวย์เท่านั้น แต่ยังเป็นฉากหลังของประวัติศาสตร์ทางการเมือง ความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง และจิตวิญญาณของประชาชนที่ภักดีต่อสถาบันกษัตริย์มาอย่างยาวนาน
ย้อนกลับไปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อประเทศนอร์เวย์ยังอยู่ภายใต้สหภาพของสวีเดน พระเจ้า Karl Johan (ชาวฝรั่งเศสโดยกำเนิดที่ต่อมากลายเป็นพระมหากษัตริย์ของสวีเดนและนอร์เวย์) เศรษฐกิจของบ้านเมืองขณะนั้นค่อนข้างยากจน ได้วางศิลาฤกษ์ของพระราชวังนี้ในปี ค.ศ. 1825 เพื่อใช้เป็นที่ประทับของพระองค์ในนอร์เวย์
โดยสถาปนิกที่ออกแบบคือ Hans Linstow ซึ่งเลือกสไตล์นีโอคลาสสิกที่เรียบง่าย สง่างาม และผสานเข้ากับธรรมชาติรอบข้างได้อย่างลงตัว
บางมุมของพระมหาราชวัง
แต่การก่อสร้างไม่ได้ราบรื่นตามแผน ด้วยงบประมาณที่บานปลายและการถกเถียงทางการเมือง วังหลวงหลังนี้ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานกว่าสองทศวรรษ และเพิ่งแล้วเสร็จในรัชสมัยของพระโอรสคือ Oscar I ในปี ค.ศ. 1849 หลังพระเจ้า Karl Johan สิ้นพระชนม์ไปแล้วเกือบสองทศวรรษ จึงเป็นเหมือนบทสะท้อนของความพยายามอันไม่ย่อท้อ และความหวังที่จะสร้างสถาบันกษัตริย์ของนอร์เวย์ให้มั่นคงในดินแดนของตน
แม้พระราชวังหลวงจะไม่ได้อลังการฟู่ฟ่าดังเช่น พระราชวังในยุโรปหลายแห่ง แต่กลับอบอุ่น เรียบง่าย และแฝงด้วยความสง่างามแบบสแกนดิเนเวีย บนพื้นที่กว่า 17,000 ตารางเมตร ภายในมีห้องประมาณ 173 ห้อง หากเทียบกับพระราชวังของสวีเดน ซึ่งมีทั้งหมด 608 ห้องทีเดียว
ในพระราชวังนอร์เวย์ ห้องส่วนใหญ่ไม่ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม เพราะยังคงเป็นที่ประทับจริงของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งนอร์เวย์ (ปัจจุบันคือสมเด็จพระราชาธิบดีฮาราลด์ที่ 5) และสมเด็จพระราชินีโซนยา
ทุกฤดูร้อนระหว่างปลายเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนสิงหาคม พระราชวังจะเปิดบางส่วนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ ซึ่งถือเป็นโอกาสพิเศษในการสัมผัสบรรยากาศของราชสำนักอย่างใกล้ชิด ภายในจะได้เห็นห้องบัลลังก์อันงดงาม ห้องจัดเลี้ยง ห้องทรงงาน และบันไดหินอ่อนที่หรูหรา สวยงาม ดูแล้วมีความเรียบง่ายแบบนอร์ดิกยังคงอยู่ แม้ในรายละเอียดของเฟอร์นิเจอร์ ภาพวาด และผ้าม่านที่คัดสรรมาอย่างประณีต
ระหว่างการเยี่ยมชม นักท่องเที่ยวจะได้รับคำบรรยายเป็นภาษาต่าง ๆ รวมถึงภาษาอังกฤษ ทำให้สามารถเข้าใจถึงบทบาทของราชวงศ์และพระราชวังในบริบทของสังคมนอร์เวย์ยุคใหม่ได้อย่างลึกซึ้ง ท่ามกลางเสียงฝีเท้าของผู้มาเยือน เสียงใบไม้ต้องลมเบา ๆ จากสวน Slottsparken ทำให้พระราชวังไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว หากแต่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างแนบเนียน
สวนพระราชวังนั้นไม่ได้ปิดกั้นไว้เป็นเฉพาะของส่วนพระองค์ แต่กลับเปิดกว้างให้ผู้คนได้เดินเล่น นั่งพักผ่อน หรือแม้แต่นำสุนัขมาวิ่งเล่น เป็นสิ่งยืนยันถึงความสัมพันธ์แบบเปิดกว้างและเป็นกันเองของราชวงศ์กับประชาชน
ความเขียวขจีของต้นไม้ใหญ่ สนามหญ้าที่ทอดยาว และลำธารเล็ก ๆ ที่ไหลเอื่อย ให้ความรู้สึกราวกับว่าเราได้ก้าวเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง โลกที่สงบและลึกซึ้งแม้อยู่กลางเมืองหลวงที่พลุกพล่าน ไม่ใช่ว่าทุกพระราชวังในโลกที่จะเปิดโอกาสให้ทุกผู้คนสามารถมาเดินเล่นได้
ในช่วงหน้าร้อน ดอกไม้ในสวนจะสวยงามมาก ดอกไท้นานาชนิด สีสรรสดใสมาก ทิวลิปจะเริ่มในช่วงมีนาคม ตามมาด้วยดอกซากุระข้างพระราชวัง และดอกไม้อื่น ๆ อีกมากมายบรรยายไม่ถูกกันเลยทีเดียว
และในแต่ละวันเวลา 13.30 น. จะมีพิธีเปลี่ยนเวรยามทหารรักษาพระองค์ (Changing of the Guard) ซึ่งแม้จะเรียบง่าย แต่ก็เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งหน้าที่และวินัยที่ไม่เสื่อมคลาย เป็นอีกภาพหนึ่งที่สะท้อนถึงการทำงานเงียบ ๆ เบื้องหลังของสถาบันที่มีอายุยืนยาว เวลานี้พลาดไม่ได้ นักท่องเที่ยวชอบมากกับการเยี่ยมชมการเปลี่ยนเวรง
ยามของทหารรักษาพระองค์ มั่นคง แน่วแน่ แฝงไปด้วยความสวยงามในกฎระเบียบ
ภาพเปลี่ยนเวรทหารองครักษ์ และดอกไม้รอบๆ
หากคุณพบเจอกษัตริย์หรือพระราชินี คุณสามารถทักทาย พูดคุย ออกความคิดเห็นของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม คุณสามารถทำได้โดยไม่ผิดกฎระเบียบ ไม่ผิดกฎหมาย เป็นกันเอง 😍😍
การมาเยือนพระราชวังหลวงออสโล ไม่ใช่เพียงการมาชมสถานที่ แต่เป็นการรับฟังเสียงของประวัติศาสตร์ที่แผ่วเบา รู้สึกถึงความภูมิใจของคนทั้งชาติ และสัมผัสความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างราชวงศ์กับประชาชน ราวกับเราได้ก้าวเข้าสู่บทกวีแห่งนอร์เวย์ที่ยังคงบรรเลงอย่างช้า ๆ ด้วยท่วงทำนองแห่งความสงบและศักดิ์ศรี เวิ่นเวอร์มากค่ะป้า
คู่มือท่องเที่ยวเชิงลึก สำหรับการเข้าชม พระราชวังหลวง (Royal Palace of Oslo) และสวน Palace Park พร้อมกับบรรยากาศความรู้สึกที่อบอุ่นและเป็นกันเอง 🏰🌿
📌 1. เวลาเปิด-ปิด และฤดูเข้าชม
• พระราชวังเปิดให้เข้าชมเฉพาะในฤดูร้อนปี 2025 ระหว่าง 21 มิถุนายน – 17 สิงหาคม เวลา 10:00 – 17:00 โดยรับเข้ารอบสุดท้ายก่อน 17:00  
• รอบนำชมแต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 45 นาที โดยมี รอบทุก 20 นาที: เช่น 10:00, 10:20, 10:40… 
• มี รอบภาษาอังกฤษทุกวัน จำนวน 5 รอบ ได้แก่ เวลา 12:00, 12:20, 14:00, 14:20, และ 16:00 
🎟️ 2. ราคาและการจอง
• ผู้ใหญ่ (รวมผู้สูงอายุ): 230 NOK
• นักเรียน / เด็ก (6–17 ปี) / ผู้ใช้วีลแชร์ทุกวัย: 110 NOK
• เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี: เข้าฟรี
• กลุ่มพิเศษ (สูงสุด 40 คน): 6500 NOK รวมค่าธรรมเนียมซื้อบัตร 25 NOK ที่จำกัดอยู่ในค่าเข้าชมแล้ว  
• บัตรเข้าชมหาซื้อได้ทางออนไลน์ที่ Ticketmaster เท่านั้น (จํากัดจำนวนที่ประตู ถ้าจองไม่มาก่อนอาจหาซื้อไม่ได้) 
บัตรนี้ รวมการเข้าชม Queen Sonja Art Stable ด้วยนะคะ 
🗺️ 3. การเดินชมภายในพระราชวัง
ทัวร์จะพาเดินชมห้องหลัก ๆ เช่น:
• Council Chamber ห้องประชุมสภาที่พระมหากษัตริย์เป็นประธานทุกวันศุกร์
• Banqueting Hall ห้องจัดเลี้ยงอันโอฬาร รองรับแขกได้มากกว่า 200 คน
• ห้องทรงงาน ห้องบัลลังก์ และ “Bird Room” หรือห้องนก (Fugleværelset) ที่ประดับด้วยภาพนกสวยงาม และห้องอื่น ๆ อีกหลายห้องที่ยังใช้งานจริงอยู่  
บรรยากาศในห้องเหล่านี้เต็มไปด้วยบรรยากาศแบบนอร์ดิก — เรียบง่ายสง่างาม ผสมผสานประสิทธิภาพกับรูปลักษณ์สไตล์นีโอ‑คลาสสิกในยุคศตวรรษที่ 19 ได้อย่างลงตัว
🌳 4. Palace Park (สวนพระราชวัง)
• เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ประมาณ 22 เฮกตาร์ (22 ha) ล้อมรอบพระราชวัง ทุกฤดูเปิดให้ประชาชนเข้าใช้ได้ตลอดทั้งปี ส่วน Queen’s Park เปิดตั้งแต่ 18 พฤษภาคม – 1 ตุลาคม เท่านั้น  
• ต้นไม้เก่าแก่ สวนหญ้า ลำธาร และบ่อน้ำเล็ก ๆ ถูกออกแบบในสไตล์ Romantic landscape โดย Hans Ditlev Franciscus Linstow ผู้เดียวกับผู้ออกแบบพระราชวังเอง 
• ภายในสวนยังมี รูปปั้นสำคัญของกษัตริย์ ราชินี และบุคคลสำคัญระดับชาติ (เช่น Charles XIV John, Queen Maud, Queen Sonja, Camilla Collett, Nils Henrik Abel และสวนประติมากรรมโดยเด็ก ๆ ภายใต้โครงการ Princess Ingrid Alexandra Sculpture Park) 
นี่คือพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ท่ามกลางธรรมชาติกลางใจเมืองหลวง
🎖️ 5. พิธีเปลี่ยนเวรยาม (Changing of the Guard)
• จัดขึ้น วันละหนึ่งครั้ง เวลา 13:30 น. หน้าพระราชวัง และมักมี วงดุริยางค์ราชการ ร่วมขบวนสร้างบรรยากาศ  
• เป็นเวลา 40 นาทีของความภาคภูมิใจและความสง่างาม เสมือนบทเพลงประจำวันของชาวนอร์เวย์ เช่นเดียวกับความสม่ำเสมอของชีวิตในราชสำนัก
🚗การเดินทางจากสถานี Oslo S ถึงพระราชวังหลวง
เมื่อมาถึง Oslo Central Station (Oslo S)
• คุณสามารถ เดินเท้า ระยะประมาณ 1–1.6 กิโลเมตร ถึงพระราชวัง ใช้เวลาประมาณ 14–19 นาที 
• หรือเลือก รถไฟ (Vy) และลงที่สถานี Nationaltheatret จากนั้นเดินต่อเพียง 1–4 นาที (สูงสุด) ไปยังพระราชวัง ค่าโดยสาร 45 NOK
• หรือเลือกคือขึ้น รถเมล์สาย 70หรือ 54 หรือรถรางสายต่าง ๆ ไปสถานี Nationaltheatret เช่นสาย 13 ลงแล้วเดินต่อ 2 นาที ค่าโดยสารประมาณ 45 NOK  
• หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย 1, 2,3,4,5 เกือบทุกสาย ไปสถานี Nationaltheatret เช่นสาย 13 ลงแล้วเดินต่อ 2 นาที ค่าโดยสารประมาณ 45 NOK
สถานี Nationaltheatret ยังถือเป็นแหล่งรวมที่ใกล้พระราชวังที่สุด โดยใช้ได้กับรถไฟ รถไฟใต้ดิน (subway)
ข้อแนะนำ การเดินจาก Oslo S ไป ถือเป็นอะไรที่ดีที่สุด ผ่านถนน Karl Johans gate คือถนนคนเดินที่ใหญ่ที่สุด ดื่มด่ำกับบรรยากาศสองข้างทาง ที่เต็มไปด้วยร้านค้า เสื้อผ้า แหล่งชอปปิ้ง แบรนด์เนม ร้านอาหาร บนถนนแห่งนี้ คุณจะได้เห็น เมืองแห่งการมีชีวิต นักเดินทาง ไม่ยิ่งใหญ่มากเหมือนในยุโรปทั่วไป แต่แฝงไปด้วยความเรียบง่าย สวยงาม เดินตรงไปจนสุดถนน ความเด่นสง่าของพระมหาราชวัง จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ สวยงามและมีมนต์ขลังแห่งเมือง
สักครั้ง หากแวะมาที่นี้ ห้ามพลาด ยิ่งได้มีโอกาสเยี่ยมชมด้านในของพระมหาราชวัง ถือเป็นความพิเศษของการเดินทาง 😍😍😍 พระราชวังออสโลอาจไม่ใหญ่โตเหมือนที่อื่นในยุโรป แต่ความสง่างามแบบเรียบง่าย และความสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างราชวงศ์กับประชาชน…ทำให้ที่นี่มีมนต์ขลังในแบบของตัวเอง หวังว่าทุกคนจะรู้สึกถึงความงามเงียบ ๆ ของที่นี่เหมือนที่เรารู้สึก แล้วพบกันใหม่ใน EP หน้า 😊🇳🇴
โดย Right to roam Norway
ขอขอบคุณ
เยี่ยมชมเว็บไซต์ทางการของพระราชวังหลวงได้ที่: https://www.royalcourt.no
อ่านเรื่องราวของอุโมงค์ใต้ทะเล ได้ที่
โฆษณา