1 ส.ค. เวลา 03:59 • ความคิดเห็น

หลักการสัมภาษณ์ที่หัวหน้าบอกเรา

วันนี้จะมาแชร์หลักการที่หัวหน้าแชร์ให้เราเกี่ยวกับการสมัภาษณ์ เริ่มจากเขาถามเรื่องจำได้มั้ยว่าตอนที่เราสัมก่อนมาทำที่นี้(ไม่ใช่หัวหน้าคนนี้สัมภาษณ์)เขาเริ่มถามเราว่าอะไร ตอนนั้นบอกเลยว่าจำไม่ได้ 555 แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เขาแชร์ให้ฟังว่าถ้าเป็นตำแหน่งที่เราให้ความสำคัญ เช่น ผู้ช่วย/หัวหน้าแผนก/ผู้จัดการ เราควรจะให้เวลาและเก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆให้ได้มากในตอนสัมภาษณ์ แต่ถ้าเป็นตำแหน่งที่เราอาจจะไม่ได้ทำงานด้วยมาก อาจจะไม่จำเป็นมากกว่าเท่าไร
เริ่มจากเรื่องทั่วไปในการสัมภาษณ์คือแนะนำตัว ถามชื่อ ประวัติคร่าวๆ สถานการณ์ปัจจุบัน เช่นทำงานอยู่หรือว่างงาน หลังจากนั้นก็ถามว่า "ช่วยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับตัวเราตั้งแต่มัธยมได้มั้ย" เป็นวิธีที่ดีที่จะได้รู้จักคนคนหนึ่ง หรืออาจจะเริ่มถามตั้งแต่มหาลัยก็ได้ นอกจากนี้ก็สามารถถามเกี่วกับความเป็นมาของที่บ้านเพราะส่วนใหญ่ backgroundครอบครัวการเติบโตส่งผลต่อบุคลิกภาพ/มินัย/มุมมองของคนคนนั้นประมาณหนึ่ง
ถ้าเกรงว่าจะเป็นเรื่องที่ผู้ถูกสัมภาษณ์ไม่อยากตอบหรือไม่(แต่ละคนมีเรื่องsensitiveที่ไม่เหมือนกัน) สามารถเริ่มต้นประโยคคำถามเชิงนี้
-อยากรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ย
-ฉันสงสัยเกี่ยวกับหัวข้อนี้ที่คุณเล่า สะดวกอธิบายเพิ่มเติมมั้ย
-รบกวนลงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกัะบเหตการณ์นี้ เพื่อให้เราเข้าใจคุณมากขึ้นกว่านี้ได้มั้ย และอีกมากมาย
ข้อสังเกต ให้ดูเส้นเวลาในการเล่าเรื่องของผู้สมัคร เช่น ทำอะไรมากี่ปีก่อนทำอะไร ถ้าบวกลบแล้วเหลือช่องเวลาว่าง อาจหมายความได้ว่ามีเรื่องราวอื่นๆที่ยังไม่ได้เล่าให้ฟัง ดูการไล่เลียงลำดับเหตการณ์ต่างๆและความสมเหตสมผลของเรื่องราว เช่น เล่าว่าตัดใจสินทำอะไรจากเหตผลหรือสถานการณ์ใด เป็นต้น
นอกจากคำถามที่กล่าวไปยังสามารถถามถึงประสบการณ์การทำงานในที่ทำงานก่อนหน้า เช่น เคยเจอเรื่องความยากลำบากอะไรแล้วแก้ปัญหายังไง เคยเจอเคสยากๆหรือลูกค้าที่ทำงานด้วยลำบากมั้ย ความภูมิใจ/เรื่องที่ประทับใจในการทำงาน ชอบอะไรในงานเก่า คาดหวังอะไรให้งานใหม่ ดูระยะเวลาในการทำงานแต่ละทีนานมั้ย ออกด้วยสาเหตุใด
สุดท้ายนี้ขอทิ้้งท้ายคำที่หัวหน้าพูดกับเราว่า ก่อนที่เราจะรับใครเข้าทำงาน เรามีสิทธิ์เลือก แต่ถ้ารับเข้ามาเป็นทีมเดียวกันแล้วเราก็ควรจะช่วยเหลือซัพพอร์ตกันและกัน มีปัญหาอะไรในการทำงานก็ช่วยกันแก้ ปรับตัวเข้าหากัน เคารพการตัดสินใจของเขา/เธอหลังจากนั้น เช่น อาจจะอยากเปลี่ยนงาน แต่งงานมีครอบครัว มีลูก ย้ายบ้านหรืออะไรก็ตามที่อาจจะทำให้กระทบกับเรื่องงานได้ เราควรจะช่วยเหลือเขาเต็มที่เท่าที่เราจะช่วยได้ ประทับใจมาก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา