🇹🇭 ไทยเจรจาสำเร็จ! ลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เหลือ 19% หนุนส่งออกไทยแข่งเวียดนาม-ฟิลิปปินส์ได้
Thailand Secures 19% US Tariff Deal in Landmark Trade Agreement
🧭 ชัยชนะทางการค้าในเวทีโลก: เมื่อ Team Thailand พลิกเกมภาษี
ในโลกการค้าที่เต็มไปด้วยการกีดกันและขึ้นภาษีแบบ “อเมริกาต้องมาก่อน” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ความสามารถในการเจรจาของไทยไม่ใช่แค่การ “รอด” แต่คือการ “รุกคืบ” สู่พื้นที่แห่งโอกาสด้วยการลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จาก 36% เหลือ 19% เทียบชั้นเวียดนามและฟิลิปปินส์แบบตาต่อตา
นี่ไม่ใช่แค่ข่าวดี แต่คือก้าวย่างสำคัญที่สะท้อนความสามารถในการวางกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจของไทยอย่างแท้จริง และยังเป็นเครื่องมือรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจส่งออก ซึ่งเป็นหัวใจหลักของประเทศ
🌏 สงครามภาษีรอบใหม่: ไทยหลบกระสุนได้ยังไง?
ในขณะที่ลาวและเมียนมาร์ต้องเผชิญภาษีสูงถึง 40% การที่ไทยสามารถเข้าไปร่วมในกลุ่ม “Annex I” ร่วมกับประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษ แสดงถึงระดับความสัมพันธ์ทางการเมือง การทูต และการค้าในระดับสูงอย่างแท้จริง
ดีลนี้จึงไม่ใช่แค่ตัวเลข 19% แต่คือการรักษาความสามารถในการแข่งขันระยะยาวของประเทศ และยังช่วยเปิดทางให้กับภาคเอกชนในการลงทุนขยายตลาดในสหรัฐฯ ด้วยความมั่นใจมากขึ้น
📈 ผลกระทบเชิงบวกต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์: ใครได้ประโยชน์มากที่สุด?
ดีลนี้อาจสร้าง “Ripple Effect” ต่อหุ้นในกลุ่มส่งออก โดยเฉพาะธุรกิจที่เคยเผชิญแรงกดดันจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ในระดับสูง มาดูหุ้นที่น่าจับตา:
✨ AAI (เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล) – ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารพร้อมรับประทานส่งออกไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ จึงมีศักยภาพที่ดีในการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ เมื่อภาษีนำเข้าลดลง
✨ 2S (2 เอส เมทัล) – บริษัทผลิตและจำหน่ายเหล็กรูปพรรณครบวงจร ทั้งท่อ เหล็กเพลต และไวร์เมช มีธุรกิจในประเทศไทยและลาว แม้ไม่มีข้อมูลว่าเป็นผู้ส่งออกไปอเมริกาโดยตรง แต่การลดภาษีย่อมช่วยให้ผู้ซื้อสหรัฐฯ พิจารณาใช้วัตถุดิบจากไทยมากขึ้น
✨ ADB (แอ็พพลาย ดีบี) – ผู้นำด้านพลาสติกคอมพาวด์ กาว และซีแลนต์ สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมและ DIY มีการส่งออกไปยังตลาดอเมริกาและสินค้าบางกลุ่มใช้ในเฟอร์นิเจอร์และยานยนต์ (ในไทยและต่างประเทศ) ทำให้การลดภาษีอาจสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้จริง
✨ ABM (เอเชีย ไบโอแมส) – ผู้นำด้านเชื้อเพลิงชีวมวลที่มีสัดส่วนส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การลดภาษีสหรัฐฯ อาจเปิดทางสู่ตลาดพลังงานสะอาดในอเมริกาในอนาคต
✨ ACG (ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง) – ผู้ให้บริการศูนย์จำหน่ายและซ่อมรถยนต์ Honda ในไทย ซึ่งยังคงมุ่งเน้นตลาดภายในประเทศ ขณะที่การเปลี่ยนแปลงภาษีนำเข้าสหรัฐฯ อาจสร้างบรรยากาศเชิงบวกต่อภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคในระยะถัดไป
🧠 คิดต่อยอด: นี่คือ “โอกาสทอง” หรือแค่ฟองสบู่ชั่วคราว?
หากมองในเชิงกลยุทธ์ การลดภาษีครั้งนี้เปิดทางให้ภาคเอกชนต้องเร่ง “ปรับตัวเชิงรุก” เช่น:
🔹 สร้างพันธมิตรทางการค้าในอเมริกา
🔹 ลงทุนในโลจิสติกส์และซัพพลายเชนที่เชื่อมกับสหรัฐฯ
🔹 รีแบรนด์สินค้าให้โดนใจตลาดอเมริกันมากขึ้น
เพราะอย่าลืมว่า "19%" เป็นเพียงโอกาส แต่ “ความสามารถในการแข่งขัน” ต่างหากที่จะทำให้โอกาสนั้นเป็นจริง
🎯 นโยบายรัฐที่ต้องติดตามต่อ: จะมีแรงกระตุ้นตามมาอีกไหม?
คำถามสำคัญคือ รัฐบาลไทยจะเดินหน้าอย่างไรต่อ?
📌 จะมีมาตรการสนับสนุนผู้ส่งออกกลุ่มเป้าหมายหรือไม่
📌 จะมีการเจรจาการค้าฉบับใหม่กับประเทศอื่นเพิ่มไหม
📌 จะมีการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อเร่งการผลิตสำหรับส่งออกหรือไม่
📣 แล้วคุณล่ะ คิดว่าไทยควรใช้ดีลนี้ต่อยอดอย่างไร?
💬 ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้เลยนะคะว่า ดีลนี้คือโอกาสระยะยาวจริงหรือเป็นเพียงกลยุทธ์ชั่วคราว แล้วเราควรทำอะไรต่อเพื่อไม่ให้โอกาสนี้หลุดมือไป?
🎯 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง
#BattleOfEconomies #ภาษีสหรัฐฯ #TeamThailand #ส่งออกไทย #หุ้นไทย #TradeNegotiation #USThailandTariff #GlobalTrade #StockAtlasInsight #SoftPowerเศรษฐกิจ #GlobMaps
📰 Reference: Nation Thailand
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
