4 ส.ค. เวลา 10:39 • ประวัติศาสตร์

ความฝันในหอแดง 14 ยาเม็ดหอมเย็น

ภรรยาโจวยุ่ยส่งหลิวเหล่าเลาเดินทางกลับแล้ว ก็เข้ามาพบหวางฮูหยิน 王夫人 เพื่อรายงานความให้ทราบ ทว่าหวางฮูหยินไม่อยู่ที่ห้อง รู้จากพวกสาวใช้ว่านางไปหาแม่น้าเซวีย 薛姨妈 ภรรยาโจวยุ่ยจึงตามมาโดยลัดเลาะออกทางประตูมุมตะวันออกข้ามลานตะวันออกตรงมายังลานหอมสาลี่ 梨香院 พอมาถึงหน้าประตูลาน เห็นจินช่วนเอ๋อ 金钏儿 สาวใช้ประจำตัวหวางฮูหยินกำลังเล่นกับเด็กสาวที่เพิ่งเริ่มไว้ผมยาว 留头 อยู่ตรงขั้นบันได พอนางเห็นภรรยาโจวยุ่ยมา ก็รู้ว่ามีเรื่องมารายงาน จึงบุ้ยปากเข้าไปด้านใน
ภรรยาโจวยุ่ยค่อยค่อยเลิกม่านขึ้นแล้วเดินเข้าไป เห็นหวางฮูหยินกับแม่น้าเซวียกำลังนั่งสนทนากันเรื่องคนในครอบครัว จึงยังไม่กล้ารบกวน เดินต่อเข้าไปยังอีกห้องด้านใน เห็นเซวียเป่าไช 薛宝钗 ในชุดอยู่กับบ้านเกล้าผมเป็นมวยขึ้นด้านบน กำลังนั่งลอกลายปักอยู่กับอิงเอ๋อ 莺儿 สาวใช้ของนาง พอเห็นมีคนเข้ามาจึงวางพู่กันหันมายิ้มว่า
“พี่โจวเชิญนั่ง”
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “คุณหนูสบายดี”
แล้วนั่งลงตรงขอบเตียงผิง กล่าวต่อว่า
“สองสามวันนี้ไม่เห็นข้ามไปฝั่งโน้น ไม่รู้ว่าพี่เป่าวี่รังแกท่านหรือเปล่า”
เป่าไชหัวเราะว่า “มีที่ไหนกัน ข้าเพียงโรคเก่ากำเริบจึงต้องนอนพักอยู่สองวัน”
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “นั่นสินะ คุณหนูเป็นโรคอะไร ควรรีบเชิญหมอมารักษา อายุยังน้อย มีโรคเก่าต้องคอยรักษา ไม่ใช่เรื่องน่าสนุก”
เป่าไชหัวเราะว่า “อย่าพูดถึงโรคนี้อีกเลย หาไม่รู้กี่หมอ กินยาไม่รู้กี่เทียบ เสียเงินไม่รู้เท่าไร ก็ไม่เห็นได้ผล โชคดีที่มีสงฆ์รูปหนึ่งรู้รักษาโรคนิรนามนี้โดยเฉพาะ จึงเชิญมาตรวจ ท่านว่าเป็นพิษร้อนติดตัวข้ามาแต่เกิด โชคดีที่ข้าแข็งแรงพอมาแต่เกิดจึงทำอะไรข้าไม่ได้ ยาสามัญก็ไม่อาจรักษา ท่านจึงสอนตำรับยาเซียนโพ้นทะเล 海上仙方 พร้อมทั้งมอบมดยอบ 末药 ห่อหนึ่งไว้ใช้เป็นกระสายยา กลิ่นหอมประหลาดนัก โรคกำเริบแต่ละครั้ง กินยาเพียงเม็ดเดียวก็พอ แปลกแต่ได้ผลจริง”
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “ไม่รู้ว่าตำรับยาอะไร คุณหนูบอกได้ไหม เผื่อใครเป็นโรคเดียวกันนี้ ข้าจะได้จำไปบอกเขา ถือเป็นบุญกุศล”
เป่าไชหัวเราะว่า “อย่าถามถึงตำรับยานี้จะดีกว่า หยุมหยิมจะตายไป ตัวยาใช่ว่าจะหายาก ที่ยากคือต้องพอดี มีเกสรดอกโบตั๋นขาวที่บานฤดูวสันต์สิบสองตำลึง เกสรดอกบัวขาวที่บานฤดูร้อนสิบสองตำลึง เกสรดอกพุดตานขาวที่บานฤดูสารทสิบสองตำลึง เกสรดอกเหมยขาวที่บานฤดูหนาวสิบสองตำลึง นำเกสรดอกไม้ทั้งสี่ไปตากแดดในวันวสันตวิษุวัต 春分 (ชุนเฟิน) ปีถัดไป แล้วนำมาผสมกับมดยอบ บดให้เข้ากัน จากนั้นใช้น้ำฝนที่ตกจากฟ้าในวันหยาดพิรุณ 雨水(หวีสุ่ย)สิบสองเฉียน……”
ภรรยาโจวยุ่ยหัวเราะขัดจังหวะว่า “ไอ้หยา ที่ว่ามามิปาเข้าไปสามปีแล้วหรือ แล้วหากในวันที่ว่า ฝนไม่ตก จะหาน้ำฝนที่ไหน”
เป่าไชหัวเราะว่า “นั่นสิ ฝนจะตกพอดีอะไรเช่นนี้ หากไม่ก็รอต่อไป ยังมีอีก น้ำค้างตกในวันน้ำค้างขาว 白露(ไป๋ลู่)สิบสองเฉียน น้ำค้างแข็งตกในวันน้ำค้างแข็งลง 霜降(ซวงเจี้ยง)สิบสองเฉียน เกล็ดหิมะตกในวันหิมะน้อย 小雪(เสียวเสวี่ย)สิบสองเฉียน นำน้ำทั้งสี่ชนิดมาผสมใช้ปั้นยาขนาดผลลำไย ใส่ไว้ในโถกระเบื้องเก่า ฝังไว้ใต้รากไม้ดอก พอป่วยก็นำมากินครั้งละหนึ่งเม็ด ดื่มลงคอด้วยน้ำต้มสมุนไพรหวงป้อ 黄柏 หนึ่งเฉียนสองเฟิน”
ภรรยาโจวยุ่ยฟังจบก็หัวเราะว่า “อมิตาภพุทธ พอดีตายกัน รอสิบปียังได้ไม่ครบกระมัง”
เป่าไชว่า “ยังดีที่ว่า หลังจากสงฆ์ท่านไปสองปี ก็ได้ของครบหมด ผสมยานั้นไม่ยาก ตอนนี้ข้าก็ติดมาจากบ้าน ฝังไว้ใต้ต้นสาลี่”
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “ยานี้มีชื่อหรือไม่”
เป่าไชว่า “มี สงฆ์ท่านเรียกว่า ยาเม็ดหอมเย็น 冷香丸(เหลิ่งเซียงหวาน)”
ภรรยาโจวยุ่ยผงกหัวแล้วถามว่า “โรคนี้ตอนที่เป็น มีอาการอย่างไร”
เป่าไชว่า “ไม่รู้สึกอะไร เพียงแต่หอบและไอ กินยาเม็ดเดียวก็หาย”
ภรรยาโจวยุ่ยจะซักต่อ พลันได้ยินเสียงหวางฮูหยินถามว่า “ใครอยู่ข้างใน”
ภรรยาโจวยุ่ยรีบออกมาขานตอบ แล้วรายงานเรื่องของหลิวเหล่าเลาให้ทราบ รออยู่สักครู่ ไม่เห็นหวางฮูหยินกล่าวอะไรจึงคิดจะกลับออกมา แม่น้าเซวียพลันยิ้มว่า
“รอเดี๋ยว ข้ามีของจะฝากเจ้าไป”
แล้วตะโกนเรียกว่า “เซียงหลิง 香菱”
เสียงรวบม่านดัง เด็กสาวที่เพิ่งเริ่มไว้ผมยาวเล่นอยู่กับจินช่วนเอ๋อก่อนหน้านี้เดินเข้ามาถามว่า “ไท่ไท่เรียกข้ามีเหตุใด”
แม่น้าเซวียว่า “เอาดอกไม้ในกล่องมาที”
เซียงหลิงรับคำแล้วหยิบกล่องแพรปักใบเล็กมาจากอีกด้านของห้อง
แม่น้าเซวียว่า “นี่คือดอกไม้ผ้ากลีบซ้อนแบบใหม่จากในวังสิบสองกิ่ง เมื่อวานข้านึกขึ้นมาได้ว่า ทิ้งไว้เฉยๆ คงน่าเสียดายจะเก่าไปเสียก่อน น่าจะให้พวกสาวๆ เอาไปใช้กัน เมื่อวานว่าจะส่งไปก็ลืม เจ้ามาวันนี้ก็ดี เอาไปแจกให้ข้าที ให้สามสาวที่บ้านเจ้าทั้งสามคน คนละสองกิ่ง ที่เหลือหกกิ่ง ให้แม่นางหลินสองกิ่ง อีกสี่กิ่งให้เฟิ่งเกอ”
หวางฮูหยินว่า “เหลือให้ยายหนูเป่า(เป่าไช)ด้วยสิ มัวคิดถึงแต่คนอื่น”
แม่น้าเซวียว่า “ท่านยังไม่รู้ ยายหนูเป่านี่แปลกคน แต่ไหนแต่ไรไม่ชอบพวกดอกไม้หรือแป้งฝุ่น”
ภรรยาโจวยุ่ยถือกล่องเดินออกจากห้องมา เห็นจินช่วนเอ๋อยังคงนั่งอาบแดดอยู่ตรงที่เดิม ภรรยาโจวยุ่ยถามว่า
“สาวใช้เซียงหลิงนี่คนเดียวกับที่พูดถึงกันบ่อยๆ เพิ่งซื้อตัวก่อนมาเมืองหลวงจนมีเรื่องฆ่ากันตายใช่ไหม”
จินช่วนเอ๋อว่า “เขานั่นแหละ”
เพิ่งพูดถึง เซียงหลิงก็เดินยิ้มแป้นมา ภรรยาโจวยุ่ยดึงมือมาจ้องหน้าพินิจดูอยู่เป็นครู่ แล้วหันมายิ้มกับจินช่วนเอ๋อว่า
“ท่าทางแบบนี้ มีส่วนคล้ายกับคุณนายหยงน้อยจวนตะวันออก (ฉินเข่อชิง) ของพวกเราอยู่บ้าง”
จินช่วนเอ๋อว่า “ข้าก็ว่าอย่างนั้น”
ภรรยาโจวยุ่ยหันมาถามเซียงหลิงว่า
“เจ้าเข้ามาในเรือนตั้งแต่อายุเท่าไร”
แล้วถามต่อว่า “พ่อแม่เจ้าอยู่ที่ไหน ปีนี้อายุสิบเท่าใด เดิมเป็นคนที่ไหน”
เซียงหลิงสั่นหัวบอก “ข้าจำไม่ได้แล้ว”
ภรรยาโจวยุ่ยกับจินช่วนเอ๋อได้ฟังแล้วกลับต้องทอดถอนใจ
ภรรยาโจวยุ่ยนำดอกไม้มาถึงหลังเรือนใหญ่ของหวางฮูหยิน แม่เฒ่าเจี่ยเปรยว่าลูกหลานมาอยู่รวมกันแออัดเกินไป จึงเหลือเพียงเป่าวี่ กับไต้วี่อยู่ที่เรือนของนางไว้แก้เหงา ส่วนหยิงชุน ทั่นชุน ซีชุนสามสาวย้ายมาอยู่กับหวางฮูหยินที่ห้องมุขหลังเรือนนี้ซึ่งมีสามห้องพอดี มีหลี่หวาน 李纨 เป็นผู้ปกครองดูแล
ภรรยาโจวยุ่ยต้องผ่านมาทางนี้ก่อนจึงแวะมาเป็นที่แรก สาวใช้หลายคนนั่งอยู่ พอได้ยินเสียงเรียก ซือฉี 司棋 สาวใช้ของหยิงชุน และสื้อซู 侍书 สาวใช้ของทั่นชุนแหวกม่านเดินออกมาพอดี ในมือถือถาดใส่ถ้วยชา ภรรยาโจวยุ่ยจึงรู้ว่าสองสาวอยู่ด้วยกัน พอเดินเข้าไปในห้อง เห็นหยิงชุน ทั่นชุนกำลังเล่นหมากล้อมอยู่ข้างหน้าต่าง ภรรยาโจวยุ่ยนำดอกไม้ผ้ามอบให้แล้วแจ้งเรื่องให้ทราบ ทั้งสองหยุดเล่นหมากล้อม กล่าวขอบคุณแล้วให้สาวใช้รับของเอาไว้
ภรรยาโจวยุ่ยรับคำขอบคุณแล้วว่า
“คุณหนูสี่ไม่อยู่ที่ห้องนี่ คงไปหาเหล่าไท่ไท่กระมัง”
พวกสาวใช้ว่า “อยู่ในห้องของนางไม่ใช่หรือ”
ภรรยาโจวยุ่ยจึงมายังห้อง เห็นซีชุนกำลังคุยเล่นอยู่กับจื้อเหนิงเอ๋อ 智能儿 แม่ชีน้อยอารามสุ่ยเยว่ 水月庵 พอเห็นภรรยาโจวยุ่ยเข้ามาก็ถามว่ามีธุระอะไร ภรรยาโจวยุ่ยเปิดกล่องแล้วแจงเหตุผล ซีชุนหัวเราะว่า
“ข้าเพิ่งบอกจื้อเหนิงเอ๋อว่า พรุ่งนี้จะโกนหัวบวชชี ท่านก็ส่งดอกไม้มาพอดี โกนหัวแล้ว จะปักดอกไม้ที่ไหนดี”
พูดจบก็พากันหัวเราะ แล้วนางก็บอกให้สาวใช้รับเอาไว้
ภรรยาโจวยุ่ยถามจื้อเหนิงเอ๋อว่า “ท่านมาถึงเมื่อไร แล้วอาจารย์ของท่าน โล้นโสมม 秃歪剌(ทูไวล่า)ไปเสียที่ไหน”
(ทูไวล่า 秃歪剌 : ทู 秃 คือโล้น ไวล่า 歪剌 เป็นคำด่าด้อยค่ามักใช้กับสตรีว่า ต่ำช้าสามานย์ ลามก โสโครก ย่อมาจากคำว่า 歪辣骨 (ไวล่ากู่) อันมีที่มาจากคำว่า 瓦刺姑 (หว่าล่ากู สตรีหว่าล่า) หว่าล่า 瓦刺 คือชนเผ่ามองโกลที่ถูกไล่ต้อนจนตกอับต้องขายสตรีแก่ชนเผ่ารอบข้างรวมทั้งพวกต้าหมิง คำเรียกสตรีหว่าล่า จึงมีความหมายด้อยค่าเหยียดหยาม แม้ต่อมาชนเผ่าหว่าล่าจะเข้มแข็งขึ้นจนเป็นคู่ปรับราชสำนักหมิง เคยจับฮ่องเต้ต้าหมิงไปเป็นตัวประกันนับปี ความหมายของคำด้อยค่ายังคงอยู่แต่เปลี่ยนอักษรเขียนและเสียงอ่านไป)
จื้อเหนิงเอ๋อว่า “พวกเรามาตั้งแต่เช้าแล้ว ท่านอาจารย์พบไท่ไท่แล้วก็เลยไปยังจวนนายท่าน บอกให้ข้ารออยู่ที่นี่”
ภรรยาโจวยุ่ยถามต่อว่า “เงินค่าธูปเทียนทุกวันที่สิบห้าของเดือนได้รับแล้วหรือยัง”
จื้อเหนิงเอ๋อว่า “ข้าไม่รู้”
ซีชุนถามภรรยาโจวยุ่ยว่า “เงินค่าธูปเทียนให้แต่ละอารามทุกวันนี้ ใครเป็นผู้ดูแล”
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “หวีซิ่น 余信 เป็นคนดูแล”
ซีชุนว่า “นั่นสินะ พอท่านอาจารย์ของเขามา ภรรยาหวีซิ่นจึงรีบมาหา กระซิบกระซาบกับท่านอาจารย์ครึ่งค่อนวัน ก็คงเรื่องนี้”
ภรรยาโจวยุ่ยสนทนากับจื้อเหนิงเอ๋อสักพัก แล้วก็เดินต่อมาทางเรือนพี่เฟิ่ง มาตามซอยแคบผ่านหน้าต่างหลังเรือนหลี่หวาน เลียบกำแพงไม้เลื้อยออกมาทางประตูข้างด้านตะวันตกเข้ามายังลานบ้านของพี่เฟิ่ง เห็นเฟิงเอ๋อ 丰儿 สาวใช้ของพี่เฟิ่งนั่งอยู่ตรงธรณีประตูหน้าห้อง พอเห็นภรรยาโจวยุ่ย ก็โบกมือไปทางห้องตะวันออก ภรรยาโจวยุ่ยเข้าใจความหมาย ค่อยๆ ย่องไปทางห้องตะวันออก มองเข้าไปเห็นแม่นมกำลังตบปลอบลูกสาวพี่เฟิ่งเข้านอนอยู่
ภรรยาโจวยุ่ยเอ่ยถามเบาๆ ว่า “คุณนายรองกำลังนอนกลางวันอยู่หรือเปล่า แต่ก็ควรปลุกได้แล้ว”
แม่นมหัวเราะ เบะปากแล้วสั่นหัว
ระหว่างถาม ก็ได้ยินเสียงเจี่ยเหลียนหัวเราะดังมาเบาๆ ตามมาด้วยเสียงเปิดประตู ผิงเอ๋อยกอ่างทองเหลืองใบใหญ่ออกมาบอกให้คนตักน้ำ แล้วเดินเข้าห้องมา เห็นภรรยาโจวยุ่ยจึงถามว่า
“ผู้เฒ่ามาทำไมอีก”
ภรรยาโจวยุ่ยรีบลุกขึ้นหยิบกล่องใส่ดอกไม้ส่งให้นางว่า “มาส่งดอกไม้”
ผิงเอ๋อเปิดกล่อง หยิบดอกไม้ไปสี่กิ่ง แล้วออกจากห้องไป เพียงชั่วครู่ก็เดินกลับมาใหม่พร้อมดอกไม้สองกิ่งเรียกไฉ่หมิง 彩明 มาสั่งว่า
“นำไปมอบให้คุณนายใหญ่หยง (ฉินเข่อชิง) ที่จวนฟากโน้น”
จากนั้นก็หันมาบอกภรรยาโจวยุ่ยว่า ฝากกลับไปบอกขอบคุณด้วย
ภรรยาโจวยุ่ยจึงเดินกลับมาทางเรือนแม่เฒ่าเจี่ย พอผ่านโถงระเบียง ก็พลันเห็นบุตรสาวของตนแต่งตัวเต็มที่กลับมาจากบ้านแม่สามี ภรรยาโจวยุ่ยรีบถามว่า
“เจ้าทำไมมาถึงนี่”
บุตรสาวตอบว่า “แม่ ท่านสบายดีหรือ ข้ารออยู่ที่บ้านตั้งครึ่งค่อนวัน ไม่เห็นกลับสักที จึงไปคารวะเหล่าไท่ไท่เสร็จแล้ว นี่กำลังจะไปคารวะไท่ไท่ ธุระของแม่ยังไม่เสร็จหรือ แล้วในมือถืออะไรอยู่”
ภรรยาโจวยุ่ยยิ้มแล้วว่า “เออ… วันนี้หลิวเหล่าเลามาหา ตัวข้าเองก็งานยุ่งอยู่ ยังต้องไปช่วยเขาอีกครึ่งวัน ไท่ไท่ท่านน้าเซวียเห็นเข้าจึงให้ข้าช่วยส่งดอกไม้อีก นี่ก็ยังส่งไม่เสร็จเลย เจ้ามานี่ คงมีเรื่องอะไรสิ”
บุตรสาวยิ้มแล้วว่า “แม่ท่านเดาถูกแล้ว บอกตามตรง ลูกเขยท่านวันก่อนดื่มมากไปหน่อยเลยมีปากเสียงกับคนอื่นเข้า ไม่รู้เขาไปเอามาจากไหนกล่าวหาว่า ลูกเขยท่านมีที่มาไม่ชัดเจน จึงไปร้องเรียนทางการขอให้เนรเทศกลับบ้านเดิม ข้าจึงมาปรึกษาท่านแม่ว่าจะหาทางช่วยอย่างไรได้”
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “ข้าว่าแล้วเชียว นี่ไม่ใช่รื่องใหญ่อะไร เจ้ากลับไปรอที่บ้าน ให้ข้าไปส่งดอกไม้นี่ให้คุณหนูหลินก่อน อย่างไรเสีย ตอนนี้ทั้งไท่ไท่และคุณนายรองก็ไม่ว่างพบเจ้าอยู่ดี”
บุตรสาวจึงลากลับก่อน โดยย้ำว่า
“แม่ อย่างไรก็รีบหน่อย”
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “เอาเถอะ พวกเจ้ายังเด็ก ไม่เคยเจอเรื่องอย่างนี้จึงตกใจ”
กล่าวจบก็รีบมายังห้องของไต้วี่
ทว่า ไต้วี่ไม่อยู่ที่ห้องของตัว แต่ไปนั่งเล่นแก้กลเก้าห่วงอยู่ที่ห้องเป่าวี่ ภรรยาโจวยุ่ยตามไปที่ห้อง ยิ้มว่า
“คุณหนูหลิน ท่านน้าให้ข้านำดอกไม้มาให้”
เป่าวี่ว่า “ดอกไม้อะไร เอามาให้ข้าดูหน่อย”
แล้วยื่นมือมารับกล่องไปเปิดดู เห็นเป็นดอกไม้กลีบผ้าซ้อนสองกิ่งฝีมือในวัง
ไต้วี่มองดูดอกไม้ในมือเป่าวี่แล้วถามว่า
“ดอกไม้นี่ให้ข้าคนเดียว หรือคุณหนูคนอื่นๆ ก็ได้กัน”
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “ได้กันทุกคน สองกิ่งนี้ของคุณหนู”
ไต้วี่ยิ้มหยันว่า “ข้าก็ว่าอย่างนั้น คนอื่นเลือกกันไปหมดแล้วจึงเหลือมาถึงข้า”
ภรรยาโจวยุ่ยได้ฟัง ก็ไม่ตอบว่ากระไร
เป่าวี่ถามว่า “พี่โจว ท่านข้ามไปฝั่งนั้นทำไม”
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “ไท่ไท่ท่านข้ามไปอยู่นั่น ข้ามีเรื่องไปรายงาน จึงพบท่านน้าวานข้านำดอกไม้มาแจก”
เป่าวี่ว่า “พี่เป่า (เป่าไช) อยู่บ้านสบายดีไหม หลายวันนี้ไม่เห็นข้ามมา”
ภรรยาโจวยุ่ยว่า “นางไม่สบายเล็กน้อย”
เป่าวี่หันมาหาพวกสาวใช้ว่า “ใครช่วยไปดูแทนข้าที ฝากคารวะท่านน้า และถามข่าวท่านพี่แทนข้ากับคุณหนูหลิน ถามดูว่าท่านพี่ป่วยเป็นอะไร กินยาอะไร ความจริง ข้าก็ควรไปเยี่ยมเอง บอกไปว่าข้าเลิกเรียนกลับมา มีไข้เล็กน้อย วันหลังจะไปเยี่ยมเอง”
เชี่ยนเสวี่ย 茜雪 อาสาข้ามไปดู ส่วนภรรยาโจวยุ่ยขอตัวกลับ
ลูกเขยของภรรยาโจวยุ่ยก็คือเพื่อนสนิทของเจี่ยหวี่ชุน 贾雨村 ชื่อว่า เหลิ่งจื่อซิง 冷子兴 ไม่กี่วันก่อนค้าโบราณวัตถุแล้วไปมีคดีความจึงมาขอความช่วยเหลือ ภรรยาโจวยุ่ยอาศัยว่าเจ้านายมีอำนาจบารมี จึงไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้นัก ตกเย็นมาขอร้องพี่เฟิ่ง เรื่องก็เรียบร้อยแล้ว
ตอนก่อนหน้า : บุญคุณเหนือญาติมิตร
ตอนถัดไป : เจียวต้าผู้รู้มาก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา