ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า ไหว้พระวัดดังที่ฉงชิ่ง
Chapter 84/4: Temple and Cable Car in Chongqing
มาถึงตอนสุดท้ายของทริปฉงชิ่งละค่ะ Blog นี้จะเป็นการพาเที่ยวในเมืองล้วนๆ ต่อจากตอนที่แล้วเลย และนอกจากเราจะไปไหว้พระ ขึ้นกระเช้าชมเมืองกันแล้ว ยังมีร้านอาหารน่ากินมาแนะนำด้วยนะ
มาเริ่มจากไปไหว้พระวัดดังคู่เมืองฉงชิ่งที่ชื่อ "วัดหลัวฮั่น" กันก่อนเลยค่ะ
วัดเล็กๆ ท่ามกลางตึกระฟ้า
วัดหลัวฮั่น (Luohan Temple) เป็นวัดพุทธเก่าแก่อายุกว่าพันปีที่อยู่ใจกลางเมืองฉงชิ่ง ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยราชวงศ์ซ่งประมาณปี ค.ศ. 1064–1067 และถือเป็นวัดที่มีความสำคัญทางศาสนามากแห่งหนึ่ง
วัดหลัวฮั่นเดิมทีรู้จักกันในชื่อ "วัดเจียหลิง" (Jialing Temple) ตั้งชื่อตามแม่น้ำเจียหลิงที่เป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำแยงซี
ต่อมาได้มีการค้นพบพระพุทธรูปแกะสลักหินและภาพแกะสลักนูนต่ำของพระอรหันต์จำนวนมากภายในวัด จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อวัดนี้เป็นวัดหลัวฮั่น ซึ่งหมายถึง "พระอรหันต์" เพื่อเป็นเกียรติแก่พระอรหันต์ 500 รูปที่เชื่อว่าสถิตย์อยู่ภายในถ้ำด้านหลังวัดนั่นเอง
เมื่อเดินเข้าไปในวัด สิ่งแรกที่เจอก็คือภาพแกะสลักพระอรหันต์เหล่านี้
เดี๋ยวเราจะเดินไปไหว้พระอรหันต์ภายในวิหารกันค่ะ
ด้านซ้ายของวัดก็เป็นห้างเลย
ภายในวิหารเราจะเจอกับพระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่ และภาพจิตรกรรมฝาผนังสไตล์อินเดียมากมาย
และรูปปั้นของพระอรหันต์ 500 องค์ซึ่งแต่ละองค์จะมีหน้าตาและบุคคลิกที่แตกต่างกันไป
วิธีการไหว้พระอรหันต์เค้าจะแยกทางเดินออกเป็นฝั่งชายและหญิง โดยผู้หญิงให้เดินไปทางขวาส่วนผู้ชายก็ไปทางซ้าย (ข้างในจะมีเจ้าหน้าที่คอยบอกเราด้วยค่ะ)
ไกด์ของคณะเราบอกว่าให้เดินไปตามทางเรื่อยๆ หากเรามองไปที่พระอรหันต์องค์ไหนแล้วรู้สึกศรัทธาหรือถูกชะตาองค์นั้นก็คือพระอรหันต์ของเราให้ไหว้ขอพรท่านได้เลย
ออกจากวิหารพระอรหันต์แล้วเราไปที่อีกฝั่งของวัดกัน
เราว่าวัดนี้เป็นอีกวัดที่สวยมากๆ ซึ่งศิลปะของที่นี่จะเป็นแบบจีนผสมทิเบตดูแล้วแปลกตากว่าวัดอื่นๆ ที่เคยเห็น
ที่นี่ก็มีไหว้แก้ปีชงเหมือนกับวัดจีนอื่นๆ ด้วย ซึ่งเค้าจะไหว้กันที่ศาลานี้ค่ะ
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีคาเฟ่เล็กๆ อยู่ด้านในด้วยนะ เลยมีมุมให้ถ่ายรูปเก๋ๆ แบบนี้ด้วย
เดินกลับมาตรงทางเข้าวัดอีกครั้งเพื่อจะไปขึ้นรถก็เห็นว่ายังมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปอีกเยอะเลย
ร้านค้าภายในวัด
เป็นวัดที่น่ามาไหว้พระมากเพราะทั้งสวยและสงบ
จากวัดเราไปแวะกินมื้อเที่ยงที่ร้านปิ้งย่างกันซักหน่อยที่ร้าน Huoyanli ที่ Raffles City กันค่ะ
ร้านนี้เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่มีทั้งปิ้งย่างและชาบูให้เลือกซึ่งถ้าเราจะเอาทั้งสองแบบก็ได้เลย ส่วนไลน์อาหารก็เยอะมาก
มีเนื้อสัตว์ครบทุกชนิด ไก่ หมู เนื้อ ทะเล และอาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่ง
เครื่องดื่มก็เพียบ ชา น้ำผลไม้ น้ำอัดลม อ้อ มีแอลด้วยนะ แต่อันนี้ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ
โซนของหวานก็เพียบ
บนโต๊ะเค้าก็จะมีเตาให้ทั้ง 2 แบบเลย จะปิ้งย่างก็ได้จะชาบูก็ได้เหมาะสำหรับคนที่อยากกินทั้ง 2 แบบจะได้ไม่ต้องเลือก 😆
กินอิ่มแล้วจะพาไปนั่งกระเช้าดูวิวสวยๆ ของฉงชิ่งกันต่อค่ะ
กระเช้าลอยฟ้า Chongqing Cableway เป็นกระเช้าลอยฟ้าที่ข้ามแม่น้ำแยงซี สร้างขึ้นในปี 1987 เพื่อใช้เป็นระบบขนส่งมวลชนสำหรับคนในเมือง แต่ปัจจุบันที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมไปแล้ว เพราะวิวจากบนกระเช้าสามารถเห็นทั้งตึกสูง แม่น้ำ และภูเขารอบเมืองเลย
เราต้องลงรถแล้วเดินไปที่สถานีขึ้นกระเช้า ซึ่งเค้าทำเป็นอุโมงค์สานแบบนี้ เก๋ดี
เดินออกมาอีกฝั่งจะเป็นแบบนี้
ในฉงชิ่งเราจะเห็นร้านขายชากาแฟแบบนี้เยอะมาก ซึ่งเค้าจะทำที่ให้นั่งดื่มอยู่หน้าร้านแบบนี้เลย ดูชิลมาก เห็นละอยากมีฟุตบาทใหญ่ๆ ที่ไม่ต้องคอยระวังมอเตอร์ไซค์มาวิ่งบนฟุตบาทแบบนี้มั่งจัง
เดินมาถึงทางขึ้นกระเช้าแล้ว
วันนี้เรามาถึงประมาณ 10 โมงกำลังดีคนยังไม่เยอะมาก รอไม่นานก็ได้ขึ้นกระเช้าค่ะ
เป็นกระเช้าลอยฟ้าที่มีระยะทาง 1,166 เมตรเลยใช้เวลาเดินทางแป๊บเดียวแค่ประมาณ 4–5 นาทีเท่านั้น แล้วเอาจริง...ตอนอยู่ในกระเช้าได้ที่ตรงกลาง มองแทบไม่เห็นวิวเห็นแต่หัวคน 555 วิวก่อนขึ้นกระเช้าน่าจะดีสุดละ
พอมาถึงอีกฝั่งก็จะเจอทางออกอันนี้ค่ะ
มีร้านอาหารอีกร้านที่ได้กินก่อนกลับ ร้านนี้อยู่ที่ตึกตรงข้ามโรงแรม Glenview ที่เราพักนี่เอง ชื่อร้าน Xiao Tian E Mei Ren Mei Hot Pot (ไม่รู้ถูกรึป่าวนะให้ ChatGPT แปล 😅) เป็นร้านหม้อไฟชื่อดังของฉงชิ่งเค้าเลย
ร้านนี้ก็เป็นบุฟเฟ่ต์เหมือนร้านแรกค่ะ เราว่ารสชาติอร่อยกว่าร้านแรกด้วยนะ แต่ไลน์อาหารอาจไม่ได้เยอะเท่า
เราเลือกน้ำซุปได้ 2 อย่าง ใครเจอร้านนี้แวะชิมได้ค่ะ อร่อยดี
สุดท้ายก่อนไปสนามบินเราแวะเดินเที่ยวที่ห้าง The Ring ฆ่าเวลาอีกซักหน่อย
เป็นห้างที่ใหญ่มากๆ ด้านในมีร้านค้าเยอะมาก แต่เท่าที่เห็นจะเป็นแบรนด์จีนที่ไม่รู้จักซะเยอะเลย
เค้าทำสวนในร่มด้วยสวยมากเลย
วันหยุดแบบนี้คนเต็มห้างเลย
นอกจากที่จะมีสวนในร่มแล้วเค้ายังมีสนามกีฬาให้เล่นภายในห้างด้วย
เชื่อมะ ตั้งแต่มาถึงจีนเรายังไม่ได้ลองชิมชาของที่นี่ซึ่งขึ้นชื่อว่าอร่อยเลย ก่อนกลับเลยขอแวะดื่มชาที่ร้าน Hey Tea ซักครั้ง ตอนเดินไปสั่งก็สงสัยว่าทำไมในร้านไม่มีคิวเลยแต่ดูพนักงานทุกคนยุ่งสุดๆ พอสั่งเสร็จมานั่งรอถึงได้สังเกตุว่าคนส่วนใหญ่เค้าจะสั่งทาง online มาก่อนแล้วพอใกล้ๆ เวลาถึงเดินมาที่ร้านแล้วรับเลย ไม่ต้องรอต่อคิวสั่ง เออแบบนี้ก็ดีเนอะ สะดวกกะลูกค้าดี
ออเดอร์มีทั้งจากลูกค้าในร้าน มีทั้งจากแอปสั่งอาหาร พนักงานนี่ทำงานกันมือเป็นระวิงเลย
ก็จบเรียบร้อยสำหรับซีรีส์เที่ยวฉงชิ่ง เป็นยังไงกันบ้างคะหวังว่าคงจะเป็นข้อมูลให้กับคนที่กำลังหาที่เที่ยวสวยๆ ที่ไม่ได้ไกลมากแถมราคาสบายกระเป๋า อยากแนะนำที่ฉงชิ่งเลยค่ะ ตอบโจทย์ได้ดีเลย อ้อ! เลือกช่วงที่จะไปดีๆ หน่อยนะ อย่าไปหน้าร้อนแบบเราเลยเพราะร้อนเหลือเกิน 🥵
ถึงไทยแล้ว
Blog หน้าจะพาไปเที่ยวทะเลมั่งดีกว่าได้เวลาไปนอนจุ่มน้ำดูวิวทะเลสวยๆ กันละ แต่จะเป็นที่ไหนขออุบไว้ก่อน
สำหรับ Blog นี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ 😊
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
