9 ส.ค. เวลา 08:02 • ข่าว

นักพี้มะกันมีลุ้น ทรัมป์เตรียมพิจารณากัญชาถูกกฎหมาย

ไหนๆก็จะเป็น The President of Peace - ประธานาธิบดีแห่งสันติภาพแล้ว ชาวบุปผาชนอเมริกันก็คาดหวังว่าทรัมป์จะเผื่อแผ่ความผาสุขให้พวกเขาบ้าง เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เอ่ยว่า เขากำลังคิดที่จะปฏิรูปกฎหมายกัญชาใหม่ในสหรัฐอเมริกา ให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ข่าวเรื่องการเปลี่ยนแปลงนโยบายกัญชาของทรัมป์ หลุดออกมาจากวงในกอล์ฟคลับของทรัมป์ในนิว เจอร์ซีย์ เพื่อการระดมทุน 1 ล้านเหรียญให้พรรครีพับลิกันเมื่อเดือนที่แล้ว
ซึ่งหนึ่งในแขก VIP ที่ได้รับเชิญ มี คิม ริเวอร์ส ที่เป็น CEO ของ Trulieve หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตกัญชาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐ และเป็นผู้บริจาคเงินรายใหญ่ให้พรรคโดยหวังล็อบบี้ทรัมป์ ในการแก้ไขกฎหมายกัญชาในสหรัฐ โดยให้เหตุผลว่าเพื่องานวิจัย และ การแพทย์
และจากในวงประชุมผู้บริจาค ดูเหมือนว่าทรัมป์จะส่งสัญญาณเห็นพ้องในการแก้ไขกฎหมายกัญชาเสียด้วย โดยรับปากว่าเขากำลังพิจารณาอยู่ แต่ปัญหาคือ มันไม่ใช่งานง่าย และเห็นได้ชัดว่าตัวทร้มป์เองก็ยังลังเลที่จะตัดสินใจ
ปัจจุบัน กัญชาถูกจัดอยู่ในกลุ่มสารเสพติดประเภทที่ 1 ที่เข้าข่ายยาเสพติดอันตรายระดับเดียวกับเฮโรอีน และไม่อนุญาตให้ใช้อย่างเด็ดขาดแม้ในทางการแพทย์
หากทรัมป์ยอมแก้กฎหมายตรงนี้ โดยย้ายกัญชาไปอยู่ในกลุ่มสารเสพติดกลุ่มที่ 3 ที่มีอันตรายระดับปานกลางถึงต่ำ ที่สามารถใช้ในการฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจได้ ก็จะเหมือนกันปลดล็อกกัญชาให้สามารถใช้ได้อย่างกว้างขวางขึ้น ไม่เฉพาะด้านงานวิจัย หรือ การแพทย์เท่านั้น
และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเรื่องการแก้ไขกฎหมายกัญชา เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่นโยบายที่ทั้งฝ่ายเดโมแครต และ รีพับลิกันเห็นพ้อง และถูกชูเป็นนโยบายหาเสียงมาตั้งแต่สมัย กมลา แฮริส VS โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อช่วงปลายปี 2024 ที่ผ่านมา
ทรัมป์เคยเล่นใหญ่ถึงขนาดประกาศไว้ในตอนหาเสียงว่า หากเขาได้กลับเข้าทำเนียบขาวได้เมื่อไหร่ เขาจะทำให้เกิดยุคใหม่ของกัญชา ที่ผู้ใหญ่อเมริกันสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์กัญชาปลอดภัยได้ง่ายกว่าเดิมมาก และจะเปิดโอกาสให้รัฐต่างๆพิจารณากฎหมายกัญชาเสรี ที่มีสามารถซื้อขายได้อย่างถูกกฎหมาย โดยไม่ต้องถูกถามว่าจะซื้อไปทำอะไร
เหตุผลที่ทั้ง 2 พรรคการเมืองใหญ่ของสหรัฐ ที่มี นโยบายขัดแย้งกันแทบทุกเรื่องแต่กลับมาเห็นตรงกันในเรื่องการปฏิรูปกฎหมายกัญชานั้น เงินทุนล็อบบี้ก้อนโตจากบริษัทผู้ผลิตกัญชาก็ส่วนหนึ่ง
แต่อีกเหตุผลหลักก็คือ พรรคการเมืองคาดหวังจะได้คะแนนเสียงสนับสนุนจากกลุ่มวัยรุ่นอเมริกัน, Young Voters, กลุ่มคนพื้นเมือง, กลุ่มคนผิวสี และ กลุ่มสายเสรีนิยม เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง สำหรับการเลือกตั้งใหญ่ที่มีตำแหน่งผู้นำสหรัฐเป็นเดิมพัน ทุกคะแนนเสียงที่เพิ่มขึ้นมีความหมายทั้งนั้น
แต่เมื่อทรัมป์ได้กลับเข้าทำเนียบมาหลายเดือนแล้ว ก็ยังไม่มีท่าที หรือแม้แต่จะพูดถึงเรื่องกัญชาแม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะเป็นเพราะมีนโยบายอื่นที่สำคัญมากกว่า หรือ มันเป็นแค่เพียงการพูดขายเอามันส์เพื่อเทคนิคในการหาเสียงก็แล้วแต่ สำหรับคนอย่างทรัมป์แล้ว ถ้าเขาอยากได้อะไร แค่ตวัดปากกาเซ็นคำสั่งประธานาธิบดี 10 นาทีก็รู้เรื่องแล้ว หากยังค้างคามานานจนป่านนี้ ก็แสดงว่าเขาไม่อยากทำ แต่ความพยายามล็อบบี้ของกลุ่มนายทุนผู้สนับสนุนพรรคก็มีอยู่จริง และพวกเขาไม่ยอมให้ทรัมป์ทำเป็นแกล้งลืมแน่ๆ
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคนในรีพับลิกันที่ยังเห็นแย้งนโยบายแก้กฎหมายกัญชาอย่างแข็งขันเช่นกัน เนื่องจากเกรงผลกระทบทางศีลธรรมและสังคม นอกจากนี้ ยังอาจกลายเป็นกระแสตีกลับ จากเดิมที่คาดหวังคะแนนเสียงจากชาวนักพี้ และ เสรีชน อาจกลายเป็นเสียคะแนนจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่เป็นฐานเสียงหลักก็ได้
นับเป็นจุดทดสอบสังคมเสรีนิยมคุณภาพชัดๆ ว่าจะจัดการกับการมีอยู่ของกัญชาในสังคมอย่างไร หากมาถึงจุดที่ใครก็ตามที่อายุถึงก็ซื้อได้
ก็ในเมื่อมนุษย์ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในเลือกใช้ชีวิตของตนเอง แต่ก็ต้องรับผิดชอบผลของการเลือกนั้นด้วย ตราบใดที่ไม่ขัดกับกฎหมาย ว่าแต่คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจไม่ใช่เรา ชาวอเมริกันชนจะเตรียมใจรับผลจากการตัดสินใจเลือกของผู้นำตัวเองได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา