9 ส.ค. เวลา 09:55 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

เมื่อ​ DNA เปิดโปงความตายลึกลับของ

กองทัพนโปเลียนในรัสเซีย​ กำลังพลกว่า
ครึ่งล้าน​เหลือไม่ถึงหมื่น​ 🪖💂💂
ในบรรดาโศกนาฏกรรมทางทหารที่โลกเคยรู้จัก ไม่มีภาพไหนจะน่าจดจำเท่ากับภาพของกองทัพ
นโปเลียนที่เคยเกรียงไกร เดินทางฝ่าหิมะกลับจากรัสเซียด้วยสภาพร่างกายที่ทรุดโทรม ดวงตาไร้แวว และจำนวนพลลดลงจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
ย้อนกลับไปเมื่อฤดูร้อนปี 1812 จักรพรรดินโปเลียน โบนาปาร์ต ผู้ยิ่งใหญ่แห่งฝรั่งเศส ได้รวบรวมกองทัพขนาดมหึมาราว 💢600,000 นาย💢 ประกอบด้วยทหารจากทั่วทั้งจักรวรรดิฝรั่งเศส พร้อมด้วยม้าหลายหมื่นตัวและเสบียงที่หวังว่า
จะพอเพียงในการเดินทัพสู่หัวใจของรัสเซีย
เป้าหมายคือ "มอสโก" เมืองหลวงของจักรวรรดิรัสเซียในขณะนั้น
ทว่าแผนการกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
แทนที่กองทัพของพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1
จะต่อสู้ปะทะตรง ๆ กองทัพรัสเซียกลับใช้ยุทธศาสตร์ "เผาเมือง ถอยร่น" ได้ทำลายสะพาน กวาดล้างเสบียงอาหาร และแม้แต่เมืองมอสโกเองก็ถูกเผาวอดวายเมื่อกองทัพนโปเลียนยาตราเข้า
ถึงกลางเดือนกันยายน
นโปเลียนครองเมืองว่างเปล่า ท่ามกลางฤดูใบไม้ร่วงที่ค่อย ๆ กลายเป็นฤดูหนาว แต่มอสโกไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำ ไม่มีไม้ฟืนเพียงพอ และไม่มีกำลังใจ ทหารจำนวนมากเริ่มล้มตายจากความหนาวเย็น
และการอดอาหาร
เมื่อถึงเดือนตุลาคม นโปเลียนจึงตัดสินใจถอยกลับ ฝ่าหิมะและพายุของฤดูหนาวรัสเซียอันเลื่องชื่อ
การล่าถอยที่ควรใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์กลับกินเวลาหลายเดือน เพราะถูกรบกวนจากกองโจรรัสเซีย
การซุ่มโจมตี และภูมิประเทศที่เลวร้ายที่สุดสำหรับการเดินทัพ
เรื่องราา​ว📚📖เล่าไว้โดยละเอียด​
👇👇👇 👇
แต่ที่▪️▪️◾◼️สำคัญที่สุดคือโรคภัยไข้เจ็บ
ที่เกาะกินชีวิตทหารทีละคนโดยไร้ปรานี​ 🪖
นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ นักประวัติศาสตร์ล้วนทราบดีว่ากองทัพของนโปเลียนต้องตายจาก "ความหนาว ความหิว และโรค" แต่ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า "โรค"
ที่ว่าคืออะไร… จนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 21 หยิบเอาเทคโนโลยี​ DNA
เข้ามาไขปริศนา
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทีมวิจัยนานาชาติได้ขุดพบสุสานทหารฝรั่งเศสจากสงครามปี 1812 ที่เมือง
วิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดสุดท้ายของการล่าถอย ท่ามกลางซากโครงกระดูกหลายร้อย ทีมฯ​ ได้นำฟันของทหารบางนายไปวิเคราะห์สารพันธุกรรมภายใน เนื้อเยื่อฟัน สามารถรักษา
เชื้อโรคในร่างกายไว้ได้แม้จะผ่านไปกว่า 200 ปี
และสิ่งที่ค้นพบนั้นทำให้โลกต้องอึ้ง
ภายในฟันของทหารที่ตายระหว่างถอยทัพ
นักวิจัยตรวจพบดีเอ็นเอของ
เชื้อไทฟัส (Rickettsia prowazekii). และ
เชื้อไข้รากสาดใหญ่ (Bartonella quintana)
ทั้งสองชนิดล้วนแพร่ผ่าน "เหา" ที่ระบาดในสภาพแวดล้อมที่สกปรกและมีผู้คนอยู่รวมกันอย่าง
หนาแน่น เช่นในกองทัพที่เหนื่อยล้าและหมดแรง
🪖 ไข้รากสาดใหญ่หรือที่ชาวยุโรปเรียกว่า
"Trench Fever" เป็นโรคที่เคยคร่าชีวิตทหารมาแล้วในสงครามหลายครั้ง ส่วนไทฟัสเองก็เป็นหนึ่งในโรคระบาดใหญ่ของยุโรปในศตวรรษก่อนหน้า ทั้งสองชนิดทำให้เกิดไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อยรุนแรง และหากไม่ได้รับการรักษา ก็อาจเสียชีวิตภายในไม่กี่วัน
แม้จะไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าโรคเหล่านี้คร่าชีวิตทหาร
กี่คน แต่จากหลักฐานทางพันธุกรรมนี้ก็ชี้ชัดว่าโรคระบาดมีบทบาทมากกว่าที่เราคาดไว้ และอาจเป็นตัวเร่งให้การล่าถอยกลายเป็นฝันร้ายที่แท้จริง
จากกองทัพที่เริ่มต้นด้วยกำลังพลกว่า 600,000
นาย เมื่อเดินทางถึงชายแดนโปแลนด์ในเดือนธันวาคม 1812 คงเหลือเพียงไม่กี่หมื่น บางแหล่งบันทึกไว้ว่าไม่ถึง 10,000 นายที่ยังสามารถสู้รบได้
และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่ถึงหกเดือน
🪖 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ไม่เพียงเปลี่ยนแปลง
ชะตากรรมของสงคราม แต่ยังเปลี่ยนชะตา
ของนโปเลียน ไม่อาจฟื้นพลังทัพกลับมาได้อีก
ดังเดิม จักรวรรดิเริ่มเสื่อมถอย และในที่สุดก็พ่ายแพ้ในอีกไม่กี่ปีต่อมา
แต่กว่าที่จะรู้ว่าเชื้อโรคอะไร
ที่ซุ่มอยู่ในเงามืดของหิมะไซบีเรีย
ต้องอาศัยเวลาอีกสองศตวรรษ
และเทคโนโลยีจากอนาคต
จึงจะมองเห็นความจริงนี้ได้
ในท้ายที่สุด▪️▪️◾ กองทัพของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้พ่ายแพ้ต่อปืนใหญ่ ดาบ หรือกลยุทธ์ของศัตรู หากแต่ล้มคว่ำเพราะสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วอย่าง “เหา” ที่แพร่เชื้อไทฟัสและไข้รากสาดใหญ่คอยกัดกินกำลังพลจากภายใน โดยที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้ และไม่ใช่เพียงเหาเท่านั้น​
🦟 ยุง เองก็เคยมีบทบาทเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์โลกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่
การระบาดของไข้เหลืองในอเมริกาใต้
ไปจนถึงไข้มาลาเรียในทวีปแอฟริกา ที่ทำให้จักรวรรดิยุโรปต้องหยุดยั้งการล่าอาณานิคมไว้เพียงแค่ชายฝั่ง
(ยุง​ มีส่วนในการกำหนดแนวทาง
ประวัติศาสตร์ของมนุษย์​ 🦟 )​
ความพ่ายแพ้ของนโปเลียนในรัสเซีย
จึงไม่ใช่แค่ความผิดพลาดทางการทหาร
แต่เป็นสิ่งย้ำเตือนว่าในสงครามของมนุษย์ บางครั้งศัตรูที่อันตรายที่สุดกลับไม่ได้ถืออาวุธใดเลย นี่คือหนึ่งในบทเรียนอันขมขื่นที่สุดของประวัติศาสตร์
ที่บอกเราว่า มนุษย์อาจควบคุมสนามรบได้
แต่ไม่เคยควบคุมธรรมชาติได้เลย​
Source​▪️▪️▪️◾
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
โฆษณา