รัสเซียจะตกลงหยุดยิงโดยดี หากเคียฟยอมสัมปทานดินแดน.
ขณะนี้ กำลังมีการประท้วงต่อต้านปูตินในอลาสกา และจัดขึ้นในวันที่ 14 ซึ่งเป็นวันก่อนการประชุมทรัมป์-ปูติน
ผู้จัดงานกล่าวว่าพวกเขาต่อต้านการมีอยู่ของอาชญากรสงครามระหว่างประเทศในรัฐของตน
"ด้วยความเห็นชอบของผู้ว่าการรัฐ ประธานาธิบดีได้ส่งคำเชิญไปยังวลาดิเมียร์ ปูติน เรามาที่นี่เพื่อส่งสารที่ชัดเจนถึงทรัมป์และปูติน อลาสกาขอต่อต้านระบอบเผด็จการอย่างหนักแน่น"
ในมุกที่ผ่านๆมา รัสเซียเรียกร้องสัมปทานดินแดนครั้งใหญ่จากยูเครน
26 ประเทศสมาชิกนาโต้ + ยูเครน ต่อสู้กันเป็นเวลา 3 ปี สูญเสียรัฐไป 4 รัฐ ประชาชนกว่า 10 ล้านคนต้องอพยพ และเสียชีวิตกว่า 1 ล้านคน
ทรัพย์สินของรัฐทั้งหมดถูกบริษัทแบล็คร็อคของสหรัฐฯ เข้าครอบครอง ทรัพยากรและแร่ธาตุที่เหลืออยู่ของประเทศถูกแบ่งแยกโดยสหรัฐอเมริกาและยุโรป
หนี้สินจากอาวุธต่างๆ ที่ค้างชำระในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะต้องใช้เวลาถึงหนึ่งร้อยปีจึงจะชำระคืน
วันเวลาอันแสนทุกข์ยากของชาวยูเครนยังคงยาวนาน
บนเว็บไซต์วอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ระบุว่า เจ้าหน้าที่ยุโรปและยูเครนระบุว่า
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้เสนอข้อเสนอการหยุดยิงที่ครอบคลุมสำหรับยูเครนต่อรัฐบาลทรัมป์ในสัปดาห์นี้
โดยเรียกร้องให้เคียฟยอมสัมปทานดินแดนครั้งใหญ่ และให้การยอมรับการอ้างสิทธิ์ดินแดนของรัสเซียในระดับนานาชาติเพื่อแลกกับการหยุดยิง
จน เจ้าหน้าที่ยุโรปแสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อเสนอนี้อย่างมาก
เนื่องจากกำหนดให้ยูเครนต้องยกดินแดนทางตะวันออกของยูเครนที่รู้จักกันในชื่อดอนบาส นั่นเอง...
ขณะที่รัสเซียแทบไม่เสนอสัมปทานใดๆ
นอกจากการให้คำมั่นสัญญาว่าจะหยุดยิง ปูตินได้นำเสนอข้อเสนอนี้
ต่อสตีเวน วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ที่กรุงมอสโก ไป
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม
ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความพยายามทางการทูตอย่างมาก
เพื่อชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม มีรายงานว่า
เจ้าหน้าที่ยุโรปและยูเครนได้รับทราบข้อเสนอนี้ผ่านการโทรศัพท์หลายครั้ง
กับประธานาธิบดีทรัมป์และวิตคอฟฟ์ในสัปดาห์นี้
พวกเขาแสดงความกังวลว่าข้อเสนอของปูตินเป็นแผนการที่จะหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร
และภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
ที่อาจนำไปสู่การทำสงครามครั้งใหม่ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ทรัมป์กล่าวว่าข้อเสนอของผู้นำรัสเซีย
แม้จะไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ แต่ก็มีน้ำหนักเพียงพอที่จะทำให้เขาวางแผนจัดการประชุมสุดยอดในสัปดาห์หน้า
ข้อเสนอนี้อาจถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากข้อเรียกร้องก่อนหน้านี้ของรัสเซียที่ต้องการควบคุมแนวหน้าทั้งหมด
ซึ่งอาจขยายออกไปไกลกว่าดอนบาส
เจ้าหน้าที่ที่ทราบเรื่องข้อเรียกร้องดังกล่าวระบุว่า ปูตินบอกกับวิตคอฟฟ์ว่า รัสเซียจะตกลงหยุดยิงโดยสมบูรณ์
หากยูเครนตกลงถอนกำลังทหารออกจากเขตโดเนตสค์ทั้งหมดทางตะวันออก
จากนั้นรัสเซียจะควบคุมโดเนตสค์ ลูฮันสค์ และคาบสมุทรไครเมีย ต่อไป
ในปัจจุบัน รัสเซียยึดครองโดเนตสค์และลูฮันสค์ได้เกือบทั้งหมด แต่กองกำลังยูเครนยังคงควบคุมดินแดนสำคัญๆ รวมถึงเมืองสำคัญๆ
ที่กลายเป็นฐานที่มั่นป้องกันที่สำคัญ
นั่นหมายความว่า พวกเขาต้องการกลืนยูเครนทั้งประเทศ แต่มันกลับติดอยู่ในลำคอ ไม่ยอมคายออกมา แต่ก็กลืนไม่ลง
เริ่มที่ รัสเซียพยายามโจมตีแบบสายฟ้าแลบแต่ล้มเหลว
ปัจจุบันกำลังค่อยๆ กลายเป็นสงครามระดับประเทศ หลังจากสู้รบมา 3 ปี มีผู้เสียชีวิตมากกว่าหนึ่งล้านคน
รัสเซียยังต้องเผชิญความยากลำบากอีกมาก
พวกเขาฉวยโอกาสจากทั้งชาวรัสเซียรุ่นใหม่ และชาวเกาหลีเหนือรุ่นใหม่ ขณะที่เกาหลีเหนือก็สูญเสียไปมากกว่า 3,000 คน
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตในสนามรบมากกว่าหนึ่งล้านคน และประเทศที่แข็งแรงกลับกลายเป็นอัมพาต
พวกเขาหวังความช่วยเหลือจากทรัมป์ และเรียกร้องดินแดนยูเครนเพียงเล็กน้อยเพื่ออธิบายให้ประเทศของพวกเขาเข้าใจ
ยูเครนและสังคมที่ยุติธรรมของโลกจะยอมรับสิ่งนี้หรือไม่?
โลกในปัจจุบันสามารถทนต่อการรุกรานอันโหดร้ายเช่นนี้จากฝ่ายที่แข็งแกร่งได้หรือไม่?
สันติภาพคือวิสัยทัศน์อันงดงามที่สุด
สันติภาพนั้นประกอบด้วยศักดิ์ศรีแห่งชีวิต ความสมบูรณ์ของแผ่นดิน ความหวังแห่งอนาคต
https://www.instagram.com/e.nutcha14/
และการแสวงหาการอยู่ร่วมกันและการพัฒนาอันเป็นนิรันดร์ของมนุษยชาติ ใช่หรือไม่ ???
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
