12 ส.ค. เวลา 13:52 • ข่าวรอบโลก

ญี่ปุ่นส่งออกฟริเกตสุดล้ำ​ ⚓🚢

ปูทางออสเตรเลียสู่กองเรือยุคใหม่​ 🇯🇵 🇦🇺
ออสเตรเลียเพิ่งประกาศดีลใหญ่ 2.1 แสนล้านบาท
เพื่อซื้อเรือฟริเกตชั้น Mogami จากญี่ปุ่นจำนวน​
11 ลำ​ ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจทำให้กองทัพเรือออสเตรเลียก้าวสู่การเป็นกำลังทางทะเลชั้นนำในแปซิฟิก ขณะเดียวกันก็เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ญี่ปุ่นก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายสำคัญของโลก
⚓🚢 เรือฟริเกตชั้น Mogami​
ที่สร้างโดย Mitsubishi Heavy Industries
เรือรบผิวน้ำล้ำสมัยที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยี
พรางเรดาร์ขั้นสูง พร้อมอาวุธครบมือในระดับที่ออสเตรเลียไม่เคยมีมาก่อน จุดเด่นที่สุดคือแท่นยิงแนวดิ่ง Mk 41 จำนวน 32 ช่อง รองรับได้ทั้งขีปนาวุธต่อต้านเรือและขีปนาวุธสกัดกั้นทางอากาศ รวมแล้วบรรจุได้ถึง 128 นัด มากกว่ากำลังยิงที่ออสเตรเลียมีอยู่เดิมถึง 4 เท่า อีกทั้งยังสามารถติดตั้งขีปนาวุธร่อน Tomahawk​ พิสัย 1,500 กม. หรือจรวดต่อต้านเรือดำน้ำ VL-ASROC สำหรับโจมตี​ เป้าหมายใต้น้ำระยะไกล
นอกจากพลังยิงมหาศาล Mogami ยังมาพร้อมปืนใหญ่เรือ 127 มม.​ ขีปนาวุธต่อต้านเรือ Type 17 ระยะเกิน 200 กม.​ และตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำประสิทธิภาพสูง เสริมด้วยเรดาร์ AESA
รุ่น OPY-2 โซนาร์ลากท้าย​ และระบบควบคุมการรบ OYQ-1 ที่ช่วยให้เรือ “เห็นก่อนและยิงก่อน”
ด้านสมรรถนะ ตัวเรือขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์กังหันก๊าซ Rolls-Royce MT30 จับคู่ดีเซล ให้ความเร็วสูงสุดราว 30 นอต และทำระยะทางได้กว่า 11,000 กม. โดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิง ระบบซอฟต์แวร์ล้ำสมัยช่วยคัดกรองเสียงรบกวนในทะเลเพื่อแยกเป้าหมายเรือดำน้ำได้แม่นยำกว่าหลายประเทศในภูมิภาค
แม้มีระวางขับน้ำราว 5,500 ตัน แต่ Mogami
ใช้ลูกเรือเพียงประมาณ 90 นาย น้อยกว่าฟริเกต
ชั้น ANZAC เดิมของออสเตรเลียเกือบครึ่ง
ตอบโจทย์ปัญหาขาดแคลนกำลังพลทั้งสองชาติ นอกจากนี้ยังมีลานบินและโรงเก็บสำหรับเฮลิคอปเตอร์ SH-60K หรือโดรนขนาดใหญ่ ทำให้ Mogami เป็นแพลตฟอร์มรบที่ยืดหยุ่นและพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ในทะเลสมัยใหม่
🔘 การที่ญี่ปุ่นขายเรือรบระดับแนวหน้าให้พันธมิตรอย่างออสเตรเลีย ไม่เพียงเป็นการเสริมอำนาจทางทะเล แต่ยังส่งสัญญาณถึงการขยายบทบาทของญี่ปุ่นในตลาดอาวุธโลก หลังจากเคยห้ามส่งออกยุทโธปกรณ์มานานหลายทศวรรษ ปัจจุบันญี่ปุ่นไม่เพียงขายเรือ​ ที่ต่อสำเร็จ​ แต่ยังถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างให้ด้วย โดยเรือ 3 ลำแรกจะสร้างในญี่ปุ่น ส่วนอีก 8 ลำจะสร้างในออสเตรเลียเอง นี่จึงเป็นทั้งการเสริมกำลังรบและการยกระดับอุตสาหกรรมต่อเรือของพันธมิตร
สำหรับสหรัฐฯ ดีลนี้สะท้อนปัญหาที่ไม่อาจมองข้าม กองทัพเรืออเมริกันไม่มีฟริเกตใช้งานมานานตั้งแต่ปลดประจำการชั้น Oliver Hazard Perry ในปี 2015 ขณะที่โครงการฟริเกต Constellation
ที่เริ่มสร้างในปี 2020
กลับล่าช้าและยังไม่พร้อมปฏิบัติการ เท่ากับว่าพันธมิตรอย่างญี่ปุ่นและออสเตรเลียกำลังเดินหน้าเร็วกว่าด้านเทคโนโลยีและประสิทธิภาพการสร้างเรือรบ อาจทำให้สหรัฐฯ ต้องพิจารณาเรียนรู้หรือแม้กระทั่งพึ่งพาการออกแบบจากพันธมิตรในอนาคต
👇👇👇
(เมื่อเรือรบที่ดีที่สุดในโลกไม่ใช่เรืออเมริกา 🚢⚓)​
🔘 Mitsubishi Heavy Industries เองก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานในด้านการต่อเรือรบ เคยสร้างเรือประจัญบานที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Yamato และ Musashi ให้จักรวรรดิญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้สุดท้ายเรือจะถูกอากาศยานสหรัฐฯ จมลง แต่ชื่อเสียงด้านความแม่นยำและคุณภาพงานต่อเรือยังคงอยู่ และวันนี้ Mitsubishi กลับมาสู่ตลาดโลกอีกครั้งในฐานะผู้ผลิตเรือรบล้ำสมัยที่ผสมผสานเทคโนโลยีญี่ปุ่นเข้ากับมาตรฐานพันธมิตรตะวันตก
เมื่อมองในภาพใหญ่ การขาย Mogami ให้กับออสเตรเลียไม่ใช่เพียงการซื้อขายยุทโธปกรณ์ธรรมดา แต่เป็นการวางหมากเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาคที่มีการแข่งขันทางทะเลรุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสหรัฐฯ
ต่างเร่งเสริมกำลัง เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในแปซิฟิก และ Mogami อาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้สมดุลอำนาจในน่านน้ำแห่งนี้เปลี่ยนไป
อย่างเงียบ ๆ แต่ชัดเจน
Source​▪️▪️◾
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
กองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์​ ⚓🇷🇺
ของรัสเซียเงามืดที่โลกไม่อาจมองข้าม
เบื้องหลังพลังอำนาจทางทะเล⚓
เรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ล่าสุดของจีน
มุ่งหน้าสู่ทะเลเป็นครั้งแรก​ 🚢⚓🌊🌊🌊 🇨🇳
จีนพุ่งชนเรือรบของตัวเองขณะไล่ตาม
เรือฟิลิปปินส์​ 🚢 🇨🇳 🇵🇭
โฆษณา