Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
TIDA&BEING
•
ติดตาม
8 ชั่วโมงที่แล้ว • นิยาย เรื่องสั้น
ตอนที่ 10 บันทึกสุดท้ายของดาวา
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
“ฉันเคยรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำคุณบูชาโทษ
กับเส้นทางการตื่นรู้และทำภารกิจ
ฉันทำทุกอย่างด้วยใจบริสุทธิ์
ฉันทำทุกอย่างในพื้นที่ของฉัน ฉันไม่เคยเดินไป
ชี้นิ้วสั่งใครนอกพื้นที่ของฉัน ฉันไม่เคยรับเงินจากใครแม้แต่บาทเดียวเกี่ยวกับการตื่นรู้ ฉันก็แค่นั่งเขียนนิยาย
ในโลกของฉัน แล้วโลกของฉันก็กลายเป็น
โลกของคนอื่นด้วย ได้ยังไงนะ
ทุกวันนี้ฉันยัง นั่ง งง ว่าโลกของฉัน
มันทำให้พวกฝ่ายคลุมระบบทาสกลัวขนาดนั้นเลยหรอ
สงสัย ฉังคงจะมีอำนาจที่มากขนาดนั้นเลยมั้ง ฮ่าๆๆๆๆ
แค่เขียนนิยายในพื้นที่ของตัวเอง แค่นิยายเนี่ยนะ
ฉันเติบโตแบบศิลปิน ไปตามธรรมชาติของจิตวิญญาณ
ฉันไม่มีแผนการ กับดัก กลลวงอะไรใครทั้งนั้น
ทำไมคนที่ฉลาดส่วนมากจะต้องคิดว่าทุกคนเหมือนตัวเอง
ทุกคนไม่เหมือนกัน บางครั้งฉันก็รู้สึกเหนื่อยกับ
ความคิดที่คอยจับผิดคนอื่นอยู่ตลอดเวลา
ชีวิตนี้จะมีความสุขได้ไหม หวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา
กลัวว่าคนนั้นคนนี้จะมาทำร้าย จะมาทำนู่นนี่นั่น
อยู่ตลอดเวลา ฉันไม่สามารถอยู่กับคนที่ดีต่อหน้าฉัน
แต่แอบเอาพวกมาติดตามและด่าฉัน
มันดูเหมือนจะเป็นคนดี แต่ก็แค่เหมือน
ส่วนใครเป็นคนดีกับฉันจริงๆฉันก็ดีด้วย
(ถ้าไม่มีเหตุอื่นเข้ามาแทรก)
ใครไม่ดีกับฉันก็เป็นอากาศธาตุในชีวิตฉันไป
สำหรับฉันอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดอยู่แล้ว
แต่เราจะมีสติแก้ไขปัญหามันด้วยวิธีไหน
การพูดความจริง ถึงแม้จะทำให้ฉันตกต่ำลงทุกเรื่อง
แต่ ฉันไม่เคยเสียใจเลย เพราะ… ถ้าเรามัวแต่กลัว
และปล่อยให้วงจรทาสอยู่ต่อไป อยู่เงียบๆ
และทำตามกรอบสังคมเดิมๆ
สานต่อพิธีกรรมเดิมๆ ฉันจะเสียใจมากกว่า
ตัวละครตัวเอกส่วนมาก ก็มักจะตกต่ำในช่วงแรกๆ
แต่เมื่อลุกขึ้นมาได้ ก็มักจะสามารถเอาชนะระบบทาส
ได้เสมอในตอนจบ ตอนนี้ยังไม่จบสักหน่อย
ประโยคที่ความมืดรอเหยียบฉันก็คือ ทำตัวเอง
ฮ่าๆๆๆ อยากจะหัวเราะให้ฟันหลุดจริงๆ
ตัวเองทำคนอื่นได้ ทำร้ายใครก็ได้ที่ไม่เห็นด้วย
กับระบบเทพเจ้า แค่ฉันทำในพื้นที่ส่วนตัว
แค่ฉันพูดความจริงถึงเรื่องที่ว่า ระบบเทพเจ้า
การให้มนุษย์กราบไหว้บูชารูปปั้น เป็นพวกฝ่ายมืด
เป็นแนวทางของฝ่ายมืด ที่ไม่สอนให้พึ่งพลัง
พระผู้สร้างในตัวเอง ต้องมูกับเทพนั้น เทพนี้
ทำพิธีกรรมต่างๆ ขอพรได้แม้กระทั่งต้นไม้
ฉันทำผิดมากๆเลยแหละ ฮ่าๆๆๆๆๆ
ฉันเคยกลัวนะ แต่วันนี้ฉันก้าวข้ามผ่านความกลัวได้แล้ว
และวันนี้ฉันดีใจอย่างมากที่มนุษย์ในสังคมสามมิติ
ลุกขึ้นมาเชื่อมั่นในตัวเองและมองว่าเรื่องเทพเป็นเรื่อง…..
ฉันได้ทำหน้าที่ตรงนั้นไปแล้ว ในพื้นที่เงียบๆของฉัน
มีแค่ฉันที่รู้ว่าความจริงเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังจากนี้
ฉันก็จะหายไปเงียบๆ รอให้ความจริงปรากฏ
ฉันอินกับมันมากเกินไป และเจตนาที่แท้จริงของฉัน
ก็กูกแปลงไปในทางลบ ความเข้าใจผิดทั้งหมด
บางครั้งก็แค่รอความจริงโดยใช้ระยะเวลา
เป็นเครื่องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ
ฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น
ถ้าฉันไม่ถูกควบคุมด้วยไสยศาสตร์มนต์ดำ
แต่ก็นั่นแหละ บางครั้งความจริงอาจจะต้องรอเวลา
10 ปีก็ไม่สายถ้ามันคือความจริง”
ดาวาเขียนบันทึกไดอารี่ส่วนตัว
ก่อนจะหยิบอัลบั้มรูปสมัยเด็กๆที่มีความสุขที่สุด
รูปที่เธอทำกิจกรรมอย่างมีความสุข
เธอแปะรูปภาพลงในสมุดไดอารี่ก่อนเขียนว่า
“ตอนนี้ฉันได้ตัวเองคนเดิมสมัยเด็กกลับมาแล้ว
เด็กคนที่ไม่รู้สึกหวั่นไหวกับคำพูดของใคร
เด็กที่ไม่รู้สึกว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อของใคร
สมัยเด็กฉันไม่เคยเล่นบทเหยื่อเพราะฉันชนะทุกเรื่อง
เด็กคนที่ไม่สนกรอบสังคมจะว่ายังไง
เด็กคนที่พร้อมรับผิดชอบทุกอย่างที่ตัวเองทำ
ฉันไม่เคยออกมาเรียกร้องอะไรเลยจากใคร
ฉันเงียบมากๆ แต่เป็นตัวเองแค่เฉพาะกับคนที่สนิทใจด้วย
เด็กคนที่มีความสุขกับเรื่องเล็กๆน้อยๆได้
แค่ได้ตื่นมาร้องเพลง แต่งเพลง ฉันก็มีความสุขที่สุดแล้ว
เด็กคนที่ไม่อินกับการมีคนรักหรือคู่ครอง
ครอบครัวสำหรับฉันคือโลกแฟนตาซีของฉัน
และเพื่อนที่ดี คนรักที่ดีอยู่ในโลกแฟนตาซีของฉัน
ฉันไม่เปิดรับกายภาพสามมิติ ฉันอยู่ในกายภาพสามมิติ
ก็แค่ อยู่ไปงั้นๆ ไม่ได้อยากอยู่ ไม่ได้อยากทำงานหาเงิน
ฉันก็แค่อยู่ไปงั้นๆ ไม่รู้สึกผูกพันกับใคร
และไม่คิดจะสนิทกับใครทั้งนั้น ฉันอยู่ไปงั้นๆแหละ
ฉันสนิทแค่กับตัวเองคนเดียว
ฉันก็มีความสุขดีมากๆอยู่แล้วกับตัวเองคนเดียว
ฉันไม่ต้องการโลกกายภาพสามมิติ
ฉันต้องการแค่โลกแฟนตาซีของฉันเท่านั้น
เด็กคนที่ใช้สติดำเนินชีวิต ไม่ค่อยทะเลาะกับใคร
สมัยเด็กๆ น้อยคนมากที่จะทะเลาะกับฉัน
ใครที่ทะเลาะกับฉันได้ จะต้องอยู่ในช่วงที่ซวยสุดๆแล้ว
หรือไม่ก็ชะตาขาดแล้ว ต้องทำบุญก้าววัดด่วนๆ
หรือไม่ก็ เป็นพวกที่อีโก้สูง ฟังคนอื่นไม่เป็น
จะเถียงอย่างเดียวโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
ฉันชอบฟังรายละเอียดจากทุกคนและไม่ได้ฟัง
เพื่อนินทาหรือเอาไปพูดต่อกับใคร
คนส่วนมากชอบเล่าเรื่องร้ายๆให้ฉันฟัง
แม้จะไม่ได้สนิทกัน ฉันฟังด้วยความตั้งใจ
และไม่ได้เอาไปเล่าต่ออย่างสนุกปากเพื่อหาพวก
ถ้าฉันไม่ได้เดือนร้อนจริงๆ
ฉันไม่ร้องขอความช่วยเหลือจากใคร
ถ้าฉันร้องขอความช่วยเหลือจากใคร
นั่นคือฉันพยายามแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองหมดแล้ว
จนฉันไม่มีทางออก จึงค่อยร้องขอให้คนอื่นช่วย
คนที่จะมีปัญหากับฉันส่วนมากจะปิดใจกับอะไรใหม่ๆ
ชอบใช้อำนาจกดหัวคนอื่น
ใช้แต่อารมณ์และการเอาชนะ ไม่ใช้เหตุผลคุยกันตรงๆ
อย่างเช่น มีเงินมากกว่าก็จะใช้อำนาจ
ของการมีเงินมากกว่ามาตัดสินคนอื่นว่า
คนนั้นคนนี้โง่ไม่เก่งเท่าตัวเอง ทำความฝันไม่ได้หรอก
ไม่มีวันเป็นจริง ทำไม่ได้หรอก อะไรแบบนี้
ในเมื่อเค้าไม่รู้สึกผิดกับการดูถูกคนอื่น
ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดกับคำดูถูกด้วยล่ะ
ฉันไม่เคยมองใครเป็นศัตรู ฉันมองทุกคนเป็นเพื่อนมนุษย์
แต่ถ้าเมื่อไรก็ตามที่จะเปิดศึกกับฉัน
ฉันจะมองพวกเค้าเป็นอากาศธาตุ
ไม่มีผลอะไรต่อชีวิตของฉัน
อันที่จริง ฉันไม่สนใจเรื่องความแค้น เกลียดชังใคร
หรือแม้แต่ความรัก การมีคู่ การแต่งงาน
เรื่องพวกนี้ไร้สาระสำหรับฉันมากๆ
แต่ฉันเชื่อในรักแท้และความรักนิรันดร์
และความรักไร้เงื่อนไข ฉันไม่มีเพื่อนเยอะ และไม่คบเพื่อนเยอะ
เพราะสำหรับฉัน การมีเพื่อนเยอะคือการที่ฉัน
จะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะขึ้นและเสียเวลา
ไปกับคนอื่นๆโดยไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ฉันชอบอยู่ในโลกส่วนตัวของฉันมากกว่าที่อื่นๆ
โลกส่วนตัว โลกแฟนตาซีเป็นพื้นที่ปลอดภัยของฉัน
ทุกวันเวลาของฉันทุ่มเทไปกับกิจกรรม
ที่ฉันได้รับมอบหมาย ฉันไม่สนใจดราม่า
และไม่ค่อยอินกับโลกโซเชียล ฉันถึงสำเร็จได้ไงล่ะ
หรือใครจะทะเลาะกัน เกลียดกัน ฉันไม่สนใจ
ฉันไม่ใช่คนที่ถ้าเพื่อนเราเกลียดใคร
ฉันต้องเกลียดคนนั้นด้วย ถ้าคนนั้นไม่ได้มาทำร้ายเรา
ไม่ได้มีปัญหากับเราโดยตรง ทำไมเราจะต้อง
เกลียดตามคนอื่น ฉันไม่เกลียดตามคนอื่น
และฉันก็ไม่เคยโพสด่าคนอื่นในพื้นที่ของคนอื่น
แต่ถ้าพื้นที่ตัวเองน่ะใช่ เพราะมันคือพื้นที่ของฉัน
ฉันโฟกัสตัวเองคนเดียว ไม่สนใจใคร
แต่ เอ๊ะ จุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันเปลี่ยนไปอ่อนแอ
และเริ่มเล่นบทเหยื่อเกิดจากอะไรกันแน่นะ
ขอให้ฉันรู้ต้นตอสาเหตุด้วย เอาล่ะตอนนี้ฉันพร้อมแล้ว
ฉันชอบตัวเองตอนเด็กมากๆ“
ดาวาเขียนบรรยายใต้รูปภาพตัวเองในสมัยเด็ก
“อีกอย่าง มีหนึ่งรายการที่ฉันเคยไปถ่ายทำ
เป็นฉากประกอบ หลังจากนั้นฉันก็ไม่ไปอีกเลย
และทำให้ฉันรู้ว่า วงการบันเทิง มืดดำแค่ไหน
ทีมงานบอกให้ทิ้งแฟนคนปัจจุบัน
แล้วบอกว่าจะเจออะไรที่ดีในอนาคต
นั่นคือการแนะนำจากผู้ใหญ่แล้วอย่างหรอ
วงการบันเทิงที่ภายนอกดูสวยงาม
แค่ข้างนั้นเต็มไปด้วยผลประโยชน์
หาคนจริงใจได้น้อยมากๆ ฉันไม่ไปอีกเลย
มีคนพร้อมจะปั่นหัวให้หวั่นไหวอยู่ตลอดเวลา
แต่เชื่อเถอะหน่า ถ้าวันหนึ่ง ฉันกลายเป็นศิลปินชื่อดัง
เดี๋ยววงการบันเทิงจะเข้ามาฉันเอง
โดยที่ฉันสามารถเลือกที่จะทำงานกับใคร
ไม่ทำงานกับใครก็ได้ สิ่งนี้สำคัญมากๆ
มนุษย์คิดว่าตัวเองเลือกไม่ได้
แต่ฉันคิดว่าตัวเองเลือกได้เสมอ
และทุกคนๆก็เลือกได้เสมอ
การดังด้วยตัวเองนี่แหละ
จะไม่มีใครสามารถทวงบุญกับเราได้
ฉันจะเลิกสร้างคนอื่นและหันกลับมาสร้างตัวเองคนเดียว
ฉันรู้ว่าศิลปินเบอร์หนึ่งมีอะไรที่เบอร์อื่นไม่มี
ฉันรู้ตรงนั้น เพราะศิลปินที่ฉันชื่นชอบ
ก็เคยเป็นเบอร์หนึ่งในยุคอดีตที่ผ่านมา
ฉันเข้าใจว่าทำไมพวกเค้าถึงเป็นเบอร์หนึ่งได้ เพราะอะไร”
ดาวาบันทึกประสบการณ์ลงไดอารี่ส่วนตัว
“ชีวิตหนึ่งเราจะสามารถรักใครสักคนได้อย่างไร้เงื่อนไข
สำหรับฉัน ฉันไม่เคยเล่มเกมส์จิตวิทยาอะไร
กับความสัมพันธ์อะไรกับใคร ฉันไม่เคยทำแบบนั้นกับใคร
แค่ฉันนั่งฟังเกี่ยวกับจิตวิทยาในการเอาชนะคนรัก
อะไรต่างๆ ฉันก็รู้สึกว่า ถ้าคนที่มาจีบหรือชอบเรา
ไปเรียนคลาสความรักอะไรแบบนี้ ฉันก็คงคิดว่า
นี่ไม่ใช่ความรักที่มาจากบริสุทธิ์ มันไม่ใช่ความรัก
มันเป็นเพียงแค่การยึดติด ต้องการเอาชนะ
ไม่ใช่ความรัก ถ้าความรักจริงๆ มันต้องเกิดขึ้น
โดยธรรมชาติ ไม่ใช่การใช้เลเหลี่ยม กลยุทธ์
ฉันคิดแบบศิลปินไม่ใช่แบบนักธุรกิจ
ฉันแค่สร้างมันเป็นผลงานศิลปะในพื้นที่ส่วนตัวของฉัน
จนกระทั่ง พื้นที่ส่วนตัวของฉันไม่เป็นพื้นที่ส่วนตัวอีกแล้ว
จากพื้นที่ปลอดภัย กลายเป็นพื้นที่แห่งการตัดสินฉัน
และใช้ฉันเป็นเครื่องมือทำอะไรบางอย่าง
นี่คือความจริงในมุมมองฉัน พื้นที่ปลอดภัยของฉัน
ตอนนี้มันไม่ใช่อีกแล้ว หลังจากนี้
ฉันจะเก็บมันไว้คนเดียว เป็นความสุขของฉันคนเดียว
ในโลกส่วนตัวของฉัน ในพื้นที่ปลอดภัยของฉัน
ส่วนความคิดของคนอื่น ฉันห้ามไม่ได้หรอกนะ
ใครจะคิดตัดสินฉันยังไง นั่นก็แค่ความคิด
ความคาดเดาก็แค่นั้น แต่มันไม่ใช่ความจริง
แต่ความจริงจะพูดทุกอย่างแทนฉันเอง
ฉันยินดีกับพี่เทียนเสมอ ถ้าเจอคนที่ดีกว่า รักมากกว่า
มีความสุขมากว่า ที่ฉันหายไป เพราะฉันฝึกฝน
ที่จะรักได้อย่างไร้เงื่อนไข ไม่เข้าไปเป็นภาระในชีวิตใครและที่สำคัญ ฉันยังไม่สามารถขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงที่สุด
ตามเป้าหมายของฉันได้
คราบใดที่ฉันยังขึ้นไปตรงนั้นไม่ได้ ฉันจะไม่สนใจอย่างอื่น
ฉันสูญเสียหลายๆอย่างไปเยอะมากแล้ว
จากทำภารกิจการตื่นรู้ วันที่ฉันไม่เหลืออะไร
ก็ไม่เห็นมีใครรับผิดชอบฉันอะไรฉันเลย
ฉันผ่านทุกอย่างมาได้ด้วยตัวเองคนเดียว
เวลาฉันมีปัญหาฉันไม่เห็นเรียกร้องอะไรจากใครเลย
ฉันสามารถผ่านมาได้ด้วยตัวเองคนเดียวด้วยซ้ำ
มีแค่โลกแฟนตาซีที่ไม่ตัดสินฉัน และรับฟังทุกอย่าง
สุดท้ายฉันก็ได้เรียนรู้ว่า ชื่อเสียง เงินทอง
สำคัญกว่าความรัก ฉันจึงเลือกชื่อเสียงเงินทอง
ไม่เลือกความรัก ความรักจะมีเมื่อไรก็ได้
แต่ชื่อเสียงเงินทองไม่มีไม่ได้ เราไม่มีความรัก
เราอยู่ได้ แต่เราไม่มีชื่อเสียงเงินทอง
เราอยู่ไม่ได้ เพราะจะโดนสังคมตัดสินว่าขี้แพ้
ฉันเกิดมาเพื่อชนะ และฉันต้องชนะ
พวกที่ดูถูกฉันมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ว่าจะเป็น
คนรู้จักและไม่รู้จักฉันก็ตาม ฉันเกิดมาเพื่อชนะ
ฉันไม่ได้มองความรักแบบมนุษย์สามมิติ
ที่ยึดติดอะไรแบบนั้นหรอก ความรักของฉัน
มีอยู่ในโลกแฟนตาซีของฉันเสมอ
ฉันไม่เคยสูญเสียความรักไป
เพราะความรักอยู่ในจิตวิญญาณของฉัน
ฉันไม่จำเป็นต้องเลือกใครสักคน
เพื่อประชดใครสักคน หรือ เลือกใครบางคน
เพียงเพราะคนอื่นบอกว่า คนนี้ก็ดีนะ
ลองลดทุกอย่างลงมา ไม่ล่ะ!!!
ฉันไม่ลดอะไรทั้งนั้น เพราะฉันปีนขึ้นไปได้แน่นอน
คนที่บอกเราว่า เลือกๆไปเถอะเดี๋ยวไม่มีแฟน
เค้าคงไม่ได้เข้าใจว่า ความรักไม่ใช่ใครก็ได้
แต่ต้องเป็นคนที่เรารู้สึกรักจริงๆเท่านั้น
ไม่ใช่เลือกๆไปเถอะ แบบนั้น ฉันอยู่คนเดียวดีกว่า
ฉันก็ขอให้ทุกอย่างที่ฉันทำเป็นไปได้ด้วยดี
และประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของฉัน
จินตนาการที่ฉันเคยมอบให้คนอื่นด้วยใจบริสุทธิ์
แต่กลับถูกดูถูก ด้อยค่า ฉันขอส่งมันกลับมา
ให้ตัวเองคนเดียว สร้างตัวเองไปจนถึงจุดที่สูงที่สุด
คนที่รักฉันจริงจะรอดูความสำเร็จของฉัน
ส่วนคนที่ไม่ได้รักฉันจะรอเหยียบซ้ำเมื่อฉันทำไม่ได้
ที่จริงก็ดีนะ คนที่รักเราจริงมีไม่เยอะหรอก
แต่มีหนึ่งคนคือฉันเองที่รักฉันจริงๆ
หลังจากนี้ความรักที่ฉันได้มอบให้ใครด้วยใจบริสุทธิ์
และไม่ถูกเห็นค่าในจินตนาการของฉัน
ฉันขอให้มันกลับมาสู่ตัวฉันเอง ความรักที่บริสุทธิ์
มีอยู่จริง เพราะฉันมอบให้คนที่เรารู้สึกรักเสมอ
แต่วันนี้ฉันได้เรียนรู้แล้วว่า ฉันควรมอบความรัก
ความเชื่อใจแบบที่มีให้ทุกคนแบบนั้น
ฉันควรมอบให้ตัวเองแบบนั้นมากกว่าให้คนอื่นๆ
โลกของฉันยังสวยเหมือนเดิม แต่ฉันจะเก็บมันไว้
ในพื้นที่ส่วนตัว ไม่ให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวาย
หรือตัดสินฉันในพื้นที่ปลอดภัยของฉันได้อีก
ฉันไม่จำเป็นต้องเลิกโลกสวย
เพียงเพราะคนอื่นเจอเรื่องโหดร้าย
หรือฉันเจอเรื่องโหดร้ายอะไรก็ตาม
ฉันยังมองโลกสวยงามเหมือนเดิม
แต่โลกแฟนตาซีของฉัน
ฉันจะเก็บไว้ในพื้นที่ปลอดภัยของฉัน
รวมถึงความรักในพื้นที่ปลอดภัยของฉันด้วย
ฉันจะเก็บความรักของฉันไว้ในพื้นที่ปลอดภัย
ไม่ให้ใครมาทำลายง่ายๆ”
ดาวาบันทึกเรื่องความรักต่อ
กลับมาที่ปัจจุบัน
เพลงใหม่ของดาวาพุ่งขึ้นชาร์จอันดับหนึ่งอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่เพลงเก่ายังครอบชาร์จอยู่อันดับสองสามสี่ห้า
ณ คอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น
“แค่เพียงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีชมพู
อยู่ในจินตนาการสร้างฝันสร้างโลกข้างใน
ออกมาสู่โลกนอกกาย จับต้องได้ให้เห็นกับตา
ภาพในใจนำภาพนอกกายภาพให้เป็นดั่งใจ”
ดาวากำลังร้องเพลงอยู่บนเวทีคอนเสิร์ต
ไลฟ์สไตล์
หนังสือ
เรื่องเล่า
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Lyran Leopardian Light Warrior เสือดาวภารกิจนักรบแสงเงาลับ
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย