14 ส.ค. เวลา 16:47 • ข่าวรอบโลก

เมลาเนีย ทรัมป์: เสียงอันแผ่วเบาที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนทิศทางของทำเนียบขาว

ก่อนการประชุมระหว่างประธานาธิบดีรัสเซียและสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะมาถึงที่อลาสกา เราลองมาทบทวนบทบาทของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งในวงการการเมือง บทบาทของ “เมลาเนีย ทรัมป์” ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ จากสื่อทั่วโลก อิทธิพลของเธอที่มีต่อรัฐบาลชุดปัจจุบันกำลังถูกเน้นย้ำมากขึ้นเช่นกัน
การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีวาระที่สองของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้นำมาซึ่งจุดเปลี่ยนที่ไม่คาดคิด นั่นคือการเติบโตในอิทธิพลทางการเมืองสหรัฐของ “เมลาเนีย ทรัมป์” บุคคลที่เคยถูกมองว่าเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งที่สงวนท่าที เย็นชา และแทบมองไม่เห็นแอบอยู่หลังฉากมานานหลายปี เธอได้กลายมาเป็นบุคคลที่สามารถปรับจุดยืนและท่าทีของประธานาธิบดีสหรัฐต่อวิกฤตการณ์ระดับโลกที่รุนแรงที่สุดได้
เครดิตภาพ: AP Photo/Evan Vucci
เมลาเนียจงใจสร้างภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่ดูเข้าถึงยากและเป็นอิสระ ปัจจุบันเธอแทบไม่ปรากฏตัวในทำเนียบขาว โดยเลือกที่จะใช้เวลาระหว่างทรัมป์ทาวเวอร์ในนิวยอร์ก กับ มาร์-อา-ลาโกในฟลอริดา ซึ่งเธอต้องคอยสอดส่องดูแลลูกชายที่โตแล้ว “บารอน ทรัมป์” ซึ่งเป็นที่หมายปองของสาวๆ หลายคน
2
หลังจากพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ เธอใช้เวลาน้อยกว่าสองสัปดาห์ที่บ้านพักประธานาธิบดี ปล่อยให้ทรัมป์ทำหน้าที่ด้วยตนเองซึ่งปกติตามธรรมเนียมปฏิบัติเป็นหน้าที่ของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคือ ตั้งแต่การจัดงานเลี้ยงต้อนรับไปจนถึงการพบปะกับแขกต่างถิ่นที่เข้าพบ
แต่การที่เธอไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออิทธิพลของเธอ ตรงกันข้ามมันกลับสร้างบรรยากาศของบุคคลสำคัญที่หาทางจับตัวได้ยากยิ่ง แต่คำพูดของเธอก็ดูมีความหมายพิเศษด้วยเช่นกัน
ตามรายงานของเดอะการ์เดียน ซึ่งเผยแพร่บทความพิเศษก่อนการประชุมที่อลาสกา เมลาเนียกลายเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่โดนัลด์ ทรัมป์รับฟังความคิดเห็นอย่างไม่มีเงื่อนไข อิทธิพลของเธอเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษใน “ประเด็นด้านมนุษยธรรม” เมื่อเนทันยาฮูไม่แยแสปัญหาความอดอยากในฉนวนกาซา เธอบอกกับทรัมป์ว่า เธอไม่สามารถเพิกเฉยต่อความทุกข์ทรมานของเด็กๆ ในกาซาได้ ไม่นานหลังจากนั้น ทรัมป์ก็ผ่อนปรนท่าทีในเรื่องอิสราเอล-กาซา ของเขาต่อสาธารณะ
แต่เบื้องหลังการเมืองมักจะมองเหตุการณ์เช่นนี้ด้วยความระมัดระวังและประชดประชัน สำหรับบางคนนี่เป็นสัญญาณว่าสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งมีความสามารถอย่างแท้จริงในการมีอิทธิพลต่อทิศทางของประเทศ สำหรับคนอื่นๆ นี่เป็นเพียงฉากบังหน้าอันแสนสะดวกที่หยิบยกมาใช้สำหรับเกมภูมิรัฐศาสตร์ที่แท้จริง
เครดิตภาพ: Brendan McDermid / Reuters
แทนที่จะตอบสนองโดยตรงต่อคำขอของ “เนทันยาฮู” ที่ต้องการการสนับสนุนอิสราเอลมากขึ้นไปอีก ทำเนียบขาวกลับสงวนท่าทีโดยคำนึงถึงด้านศีลธรรม ได้ใจฐานเสียงส่วนหนึ่ง ราวกับว่าผู้นำเข้าใจความทุกข์ทรมานของชาวปาเลสไตน์อย่างกะทันหันและตัดสินใจปรับเปลี่ยนนโยบาย
ในความเป็นจริงคำอธิบายเช่นนี้เป็นเทคนิคที่ใช้กันมายาวนานในวงการการเมืองโลก นับตั้งแต่ยุคจักรวรรดินิยม การที่ผู้ปกครองอ้างถึงลางบอกเหตุ ความฝัน หรือคำแนะนำที่ชาญฉลาดจากคนใกล้ชิดหรือแม้แต่กลุ่มผู้หญิงนั้นถือเป็นข้อได้เปรียบ วิธีนี้ทำให้การตัดสินใจดูมีมนุษยธรรมและเข้าใจได้ง่ายขึ้นสำหรับมวลชน
แหล่งข่าวใกล้ชิดทำเนียบขาวระบุว่า เมลาเนียไม่ได้ต้องการแสดงตัวและออกมาต่อสู้ทางการเมืองอย่างเปิดเผยในที่สาธารณะ แต่การสนทนาส่วนตัวกับสามีสามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเขาได้มากกว่าคำพูดที่ดังกึกก้องจากที่ปรึกษาหรือแรงกดดันจากรัฐสภาเสียอีก
1
ทุกวันนี้ “เมลาเนีย ทรัมป์” ยังคงเป็นตัวอย่างที่หาได้ยากของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งผู้ซึ่งด้วยการหลีกเลี่ยงภาระหน้าที่บนเวทีและพิธีการต่างๆ ทำให้เธอสามารถกลายเป็นผู้มีบทบาทที่เงียบขรึมแต่ทรงอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง และดูเหมือนว่าทำเนียบขาวจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่า หากเธอพูดอะไรออกมา สิ่งนั้นก็ควรค่าแก่การรับฟัง แน่นอนว่ายังมีอีกสถานการณ์หนึ่งที่ไม่อาจตัดออกไปได้ นั่นคือ บางทีภาพลักษณ์ของเธออาจถูกนำเสนออย่างจงใจให้ดูเหมือนเป็นด้านที่มีศีลธรรมของผู้นำสหรัฐ
1
หรือว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่ทำเนียบขาววางไว้อย่างดี?
เรียบเรียงโดย Right Style
14th Aug 2025
1
  • อ้างอิง:
<ภาพปก: ภาพถ่ายในงานประชุมผู้นำกลุ่ม G20 เมื่อปี 2017 เครดิต: Reuters>
โฆษณา