Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ข้อคิดปริศนาธรรม
•
ติดตาม
14 ส.ค. เวลา 23:19 • การศึกษา
ความสุขของผู้ครองเรือน (คิหิสุข)
ในทางพระพุทธศาสนาไม่ได้ปฏิเสธความสุขทางโลก ได้มีการชี้แนะแนวทางไว้อย่างเป็นระบบและละเอียดถี่ถ้วนมากครับ สอนให้แสวงหาและรักษาความสุขนั้นไว้บนรากฐานของศีลธรรมและปัญญา เพื่อให้เป็นความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน โดยสามารถแจกแจงแหล่งที่มาของความสุขสำหรับคฤหัสถ์ได้เป็น 4 ระดับใหญ่ๆ ดังนี้
[ระดับที่ 1: ]
ความสุขขั้นพื้นฐานจากการมีทรัพย์(ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ 4)
ความสุขที่มองเห็นได้ในปัจจุบัน เป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิต เปรียบเสมือน "หัวใจเศรษฐี" ที่ทำให้ตั้งตัวได้ ประกอบด้วยหลัก 4 ประการ คือ
1. อุฏฐานสัมปทา(ถึงพร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียร)
* คืออะไร: มีความขยันในการประกอบอาชีพที่สุจริต ไม่เกียจคร้าน มีความรู้ความเชี่ยวชาญในงานของตน รู้จักวางแผน จัดการ และพัฒนางานให้ก้าวหน้าอยู่เสมอ
* เกิดขึ้นได้อย่างไร:
* ขยันหาความรู้: ศึกษาหาความรู้ในสายอาชีพของตนให้แตกฉาน
* ขยันทำงาน: ลงมือทำอย่างจริงจัง ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
* ขยันสร้างสรรค์: คิดหาวิธีพัฒนางานให้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. อารักขสัมปทา(ถึงพร้อมด้วยการรักษาทรัพย์)
* คืออะไร: เมื่อหาทรัพย์มาได้ด้วยความสุจริตแล้ว ก็ต้องรู้จักเก็บรักษาทรัพย์นั้นไว้ ไม่ให้เสื่อมสลายไปด้วยเหตุต่างๆ
* เกิดขึ้นได้อย่างไร:
* ป้องกันภัย: เก็บรักษาทรัพย์ให้ปลอดภัยจากโจร, ไฟไหม้, น้ำท่วม
* ป้องกันความเสื่อม: ไม่นำทรัพย์ไปลงทุนในสิ่งที่มีความเสี่ยงสูงเกินไป หรือใช้จ่ายในทางที่ไม่เป็นประโยชน์ (อบายมุข)
* ป้องกันจากทายาทที่ไม่ดี: ดูแลไม่ให้บุตรหลานที่ประพฤติตัวไม่ดีมาผลาญทรัพย์สิน
3. กัลยาณมิตตตา(การมีเพื่อนที่ดีเป็นมิตร)
* คืออะไร: การคบหา สมาคมกับคนดี มีศีลธรรม มีปัญญา ซึ่งจะช่วยชักนำเราไปในทางที่ถูกที่ควร
* เกิดขึ้นได้อย่างไร:
* เลือกคบคน: คบเพื่อนที่ไม่ชักนำไปในทางเสื่อม เช่น การพนัน, ยาเสพติด, ความเกียจคร้าน
* เรียนรู้จากมิตร: คบคนที่เก่งกว่าเรา ดีกว่าเรา เพื่อเรียนรู้คุณธรรมและความสามารถจากเขา
* เป็นมิตรที่ดีตอบ: เราเองก็ต้องทำตัวเป็นกัลยาณมิตรให้ผู้อื่นเช่นกัน
4. สมชีวิตา(การใช้ชีวิตอย่างพอเหมาะพอดี)
* คืออะไร: การรู้จักใช้จ่ายทรัพย์อย่างสมดุล ไม่ฟุ่มเฟือยเกินฐานะ และไม่ตระหนี่ถี่เหนียวจนเกินไป รู้จักวางแผนการเงิน
* เกิดขึ้นได้อย่างไร:
* ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย: เพื่อให้รู้สถานะทางการเงินของตนเอง
* ใช้ชีวิตตามฐานะ: ไม่ก่อหนี้สินเกินตัวเพื่อหน้าตาทางสังคม
* จัดสรรรายได้: แบ่งเงินเป็นส่วนๆ เช่น ส่วนสำหรับใช้จ่าย, ส่วนสำหรับเก็บออม, ส่วนสำหรับลงทุน, และส่วนสำหรับทำบุญ
[ระดับที่ 2: ]
ความสุขจากการใช้ทรัพย์อย่างถูกต้อง(สุข 4 ประการจากอนณสูตร)
เมื่อมีทรัพย์แล้ว พระพุทธเจ้ายังสอนถึงความสุขที่เกิดจากการมีและการใช้ทรัพย์ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งขึ้นไปอีก 4 ประการ
1. อัตถิสุข (สุขเกิดจากการมีทรัพย์)
* คือความสุขใจ, ความอุ่นใจ, ความภูมิใจที่ตนเองมีทรัพย์สินที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงและความสุจริต ทำให้รู้สึกมั่นคงปลอดภัย
2. โภคสุข (สุขเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์)
* คือความสุขที่ได้ใช้ทรัพย์นั้นเพื่อบำรุงเลี้ยงตนเอง ครอบครัว พ่อแม่ บุตร ภรรยา ให้มีความสุขตามสมควร และยังเผื่อแผ่ไปถึงการทำบุญให้ทาน ช่วยเหลือสังคม
3. อนณสุข (สุขเกิดจากความไม่เป็นหนี้)
* คือความสุขที่เป็นอิสระ โล่งใจ ปลอดโปร่ง ไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาทวงหนี้ เป็นความสุขที่หลายคนในปัจจุบันปรารถนาอย่างยิ่ง ถือเป็นความสุขที่ประณีตกว่าสองข้อแรก
4. อนวัชชสุข(สุขเกิดจากความประพฤติที่ไม่มีโทษ)
* เป็นสุขที่ยอดเยี่ยมที่สุดในบรรดาสุขของคฤหัสถ์ คือความสุขที่เกิดจากการดำเนินชีวิตโดยประกอบอาชีพที่สุจริต ไม่เบียดเบียนใคร มีกาย วาจา ใจ ที่สะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีใครมาตำหนิติเตียนได้ ไม่ต้องหวาดระแวงว่าความผิดจะถูกเปิดโปง เป็นความสุขที่เกิดจากความดีงามและความสะอาดทางใจอย่างแท้จริง
[ระดับที่ 3: ]
ความสุขในครอบครัวและสังคม
ความสุขของคฤหัสถ์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องเงินทอง แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างด้วย
1. สุขจากการทำหน้าที่ให้สมบูรณ์(หลักทิศ 6)
* พ่อแม่-ลูก: พ่อแม่เลี้ยงดูให้การศึกษา ลูกกตัญญูเลี้ยงดูตอบแทน
* สามี-ภรรยา: ต่างฝ่ายต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน ช่วยกันทำหน้าที่
* ครู-ศิษย์: ครูสอนด้วยใจ ศิษย์เคารพเชื่อฟัง
* มิตรสหาย: จริงใจต่อกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
* เจ้านาย-ลูกน้อง: เจ้านายดูแลสวัสดิภาพ ลูกน้องตั้งใจทำงาน
* คฤหัสถ์-สมณะ: คฤหัสถ์ให้การอุปถัมภ์ สมณะให้ธรรมะเป็นข้อคิด
เมื่อทุกคนทำหน้าที่ของตนอย่างสมบูรณ์ ความสงบสุขและความอบอุ่นก็จะเกิดขึ้นในครอบครัวและสังคม
2. สุขจากการมีหลักยึดเหนี่ยวใจคน (สังคหวัตถุ 4)
* ทาน: การให้ปัน ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
* ปิยวาจา: การพูดจาไพเราะ สุภาพ อ่อนหวาน ให้กำลังใจกัน
* อัตถจริยา: การประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
* สมานัตตตา: การวางตัวเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ถือตัว ให้ความเสมอภาค
หลักธรรม 4 ข้อนี้เป็นเครื่องมือสร้างเสน่ห์และความรักใคร่สามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่คณะ
[ระดับที่ 4: ]
ความสุขทางใจและปัญญา(รากฐานความสุขที่ยั่งยืน)
ระดับความสุขที่ลึกซึ้งและเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุด เพราะความสุขจากวัตถุและผู้คนภายนอกนั้นไม่แน่นอน แต่ความสุขจากภายในนั้นยั่งยืน
1. สุขจากการมีศีล(ศีล 5)
* การรักษาศีล 5 เป็นอย่างน้อย ทำให้ชีวิตมีความปลอดภัย ไม่ต้องหวาดระแวง ไม่สร้างศัตรู จิตใจสงบเยือกเย็นเพราะไม่มีความรู้สึกผิดหรือความเดือดร้อนใจมาคอยรบกวน
2. สุขจากความสันโดษ(Contentment)
* คือการ "ยินดีในสิ่งที่มี" และ "พอใจในสิ่งที่ตนได้มาโดยชอบธรรม" ไม่ใช่ความเกียจคร้าน แต่เป็นการรู้จักพอ ทำให้ไม่ต้องดิ้นรนเปรียบเทียบกับผู้อื่นจนเป็นทุกข์
3. สุขจากการให้ (ทาน)
* ความสุขที่เกิดจากการสละออก แบ่งปัน ช่วยให้ลดความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ ทำให้ใจเบาสบายและอิ่มเอม
4. สุขจากการฝึกฝนจิตใจ(ภาวนา)
* คือการพัฒนาจิตใจให้สงบ (สมถะ) และเกิดปัญญา (วิปัสสนา) รู้เท่าทันอารมณ์ของตนเอง เมื่อมีสติและปัญญาก็จะสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ ในชีวิตได้อย่างถูกต้อง ทำให้ใจไม่เป็นทุกข์ไปกับสิ่งกระทบต่างๆ ได้ง่าย
บทสรุป:
สุขของคฤหัสถ์ตามหลักพุทธศาสนานั้น เป็นการบูรณาการความสุขทุกมิติอย่างสมดุล เริ่มตั้งแต่การสร้างความมั่นคงทางวัตถุ ด้วยความขยันและสุจริต (ทิฏฐธัมมิกัตถะ), การรู้จักใช้และมีความสุขกับทรัพย์อย่างฉลาด (สุข 4 จากอนณสูตร), การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง (ทิศ 6, สังคหวัตถุ 4) และที่สำคัญที่สุดคือ การพัฒนาคุณภาพจิตใจให้เป็นสุขที่ยั่งยืนจากภายใน (ศีล, สันโดษ, ภาวนา) ซึ่งเป็นรากฐานที่ทำให้ความสุขในระดับอื่นๆ มั่นคงและสมบูรณ์อย่างแท้จริงครับ.
แนวคิด
พัฒนาตัวเอง
พุทธศาสนา
1 บันทึก
2
1
1
1
2
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย