15 ส.ค. เวลา 06:03 • ท่องเที่ยว
ออสโล

🎒 “เที่ยวออสโลแบบไม่ง้อแผนที่ – ปล่อยตัวไปกับธรรมชาติรอบเมือง” EP#8 Aker Bryggeและ Tjuvholmen

Aker Brygge และ Tjuvholmen คือพื้นที่ที่มีเสน่ห์และเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงออสโล ทั้งสองแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฟยอร์ดออสโล (Oslofjord) เป็นจุดที่สามารถสัมผัสวิวทะเลและท่าเรือได้อย่างเต็มตา เต็มอิ่มไปกับศิลปะ สถาปัตยกรรม พิพิธภัณ์ ร้านอาหาร ช๊อปปิ้งมอลล์ และวิถีชีวิตร่วมสมัย ทั้งยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของเมืองหลวงเล็กๆ แห่งนี้จากเมืองอุตสาหกรรมสู่มหานครที่เปิดรับความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบในทุกมิติของชีวิต
ย้ายมาที่นี้ครั้งแรก ก็ใช้ชีวิตเป็นไวกิ้งค์ อยู่บนเรือมาเกือบสองปี หน้าหนาวสุดจะบรรยาย เพราะเรือจอดบนน้ำแข็งในช่วงหน้าหนาว หน้าร้อนสวยมาก ตื่นตาตื่นใจมากเพราะจะมีสาวๆ มานอนอาบน้ำแดด นุ่งชุดน้อยนิด ช่วงแรกๆ ก็จะไม่ค่อยชิน นานๆก็นุ่งเสียเอง😃🤣555 ไม่กล้า
ในอดีต พื้นที่ที่ปัจจุบันเป็น Aker Brygge เคยเป็นอู่ต่อเรือและศูนย์กลางอุตสาหกรรมหนัก โดยเฉพาะกิจการต่อเรือของบริษัท Aker Mekaniske Verksted ซึ่งเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1850 เป็นเวลาเกือบศตวรรษ โรงงานแห่งนี้มีความสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของนอร์เวย์ และสร้างรายได้มหาศาลให้แก่ประเทศในยุคที่เรือกลายเป็นปัจจัยสำคัญทางเศรษฐกิจและการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม เมื่อกาลเวลาผ่านไป ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและความต้องการของสังคมได้ผลักดันให้อู่ต่อเรือแห่งนี้ปิดตัวลงในช่วงปลายทศวรรษ 1980 และพื้นที่ริมฟยอร์ดที่เคยเต็มไปด้วยเครื่องจักรและควันจากโรงงานก็ถูกปลดปล่อยให้กลับมาเป็นของประชาชน
การฟื้นฟูพื้นที่นี้ เป็นหนึ่งในโครงการฟื้นฟูเมืองที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุโรปตอนเหนือ โดยมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงวิถีชีวิตของผู้คน การปรับปรุงนี้ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างอาคารใหม่ แต่เป็นการอนุรักษ์โครงสร้างเดิมไว้บางส่วน เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจถึงอดีตและการเปลี่ยนผ่านของเมือง
พื้นที่ที่เคยเป็นโรงงานถูกแปลงโฉมให้กลายเป็นพื้นที่พาณิชย์ ห้างร้าน คาเฟ่ และที่อยู่อาศัยริมทะเลที่ทันสมัย อาคารอิฐแดงดั้งเดิมบางส่วนยังคงถูกรักษาไว้เพื่อให้กลิ่นอายของยุคอุตสาหกรรม ยังคงอยู่ท่ามกลางความหรูหราในปัจจุบัน
ภาพบรรยากาศ
Tjuvholmen ซึ่งอยู่ติดกับ Aker Brygge เป็นพื้นที่ที่มีประวัติยาวนานเช่นกัน คำว่า “Tjuvholmen” แปลตรงตัวได้ว่า “เกาะของขโมย” เพราะในอดีต พื้นที่นี้เคยถูกใช้เป็นสถานที่ประหารโจรและอาชญากรในศตวรรษที่ 18 จนกลายเป็นเกาะที่ผู้คนไม่ค่อยกล้าย่างกรายเข้าไป หลังจากได้รับการพัฒนาใหม่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 โครงการฟื้นฟูพื้นที่ที่เคยถูกลืมแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความล้ำสมัย การออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลก และการผสมผสานของศิลปะร่วมสมัยเข้ากับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ Tjuvholmen คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย Astrup Fearnley Museet ซึ่งได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกระดับโลก Renzo Piano อาคารรูปทรงทันสมัยที่ดูเหมือนคลื่นทะเลนี้ตั้งอยู่บนปลายแหลมของเกาะ และกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมือง นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว Tjuvholmen ยังเป็นที่ตั้งของแกลเลอรีอิสระ ร้านอาหารหรู ที่พักอาศัยราคาแพง และทางเดินริมทะเลที่มีประติมากรรมสาธารณะให้ชมฟรี
หนึ่งในเสน่ห์ของพื้นที่ Aker Brygge และ Tjuvholmen คือการเดินเล่นริมทะเลที่เต็มไปด้วยบรรยากาศมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นผู้คนที่ออกมานั่งรับแดดในฤดูร้อน ศิลปินเปิดหมวกที่บรรเลงดนตรีสด ร้านค้าหรูที่ตกแต่งอย่างมีศิลป์ ไปจนถึงเรือยอชต์ที่จอดเรียงรายริมท่าเรือ บางช่วงของปีจะมีตลาดนัดริมฟยอร์ด หรืองานเทศกาลที่เต็มไปด้วยกิจกรรมวัฒนธรรม โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่พระอาทิตย์แทบไม่ตกดิน ผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาที่นี่เพื่อสัมผัสความสงบงามของธรรมชาติและความทันสมัยของเมืองใหญ่ได้ในจุดเดียว
Tjuvholmen และ museum
การออกแบบพื้นที่ทั้งสองแห่งเน้นเรื่อง “ชีวิตริมทะเล” หรือที่เรียกว่า liv ved fjorden ซึ่งเป็นแนวคิดที่มองว่าชุมชนควรได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แม้อยู่ในเมืองใหญ่ ทุกตารางนิ้วของพื้นที่ได้รับการออกแบบอย่างใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นม้านั่งริมทาง ทางเดินไม้เหนือผืนน้ำ หรือสวนหย่อมขนาดย่อมที่ให้คนเมืองได้มานั่งพักผ่อน หลายจุดสามารถลงเล่นน้ำได้ในฤดูร้อน ซึ่งเป็นสิ่งที่นอร์เวย์ภาคภูมิใจ
เมืองหลวงที่สะอาดพอให้ว่ายน้ำในใจกลางเมือง
ในภาพรวม Aker Brygge และ Tjuvholmen ไม่ใช่เพียงแหล่งท่องเที่ยว แต่เป็นตัวอย่างของเมืองที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน การสร้างสมดุลระหว่างอดีตกับอนาคต และการออกแบบชีวิตเมืองให้มีคุณภาพในทุกแง่มุม ใครที่ได้มีโอกาสมาเยือน จะเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมที่นี่ถึงกลายเป็นหัวใจของออสโล และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการทำความรู้จักกับวิถีชีวิตแบบนอร์เวย์ยุคใหม่ที่เคารพทั้งรากเหง้าและธรรมชาติในเวลาเดียวกัน
บรรยากาศ
การเดินทาง
🚶🏽‍♀️เดินเท้า
ถ้าคุณอยู่ในย่าน Karl Johans gate (ถนนสายหลักของเมือง), Nationaltheatret หรือแม้แต่ Oslo S (สถานีรถไฟกลาง) คุณสามารถเดินมายัง Aker Brygge และ Tjuvholmen ได้ภายในเวลาไม่เกิน 15–25 นาที ระหว่างทางจะได้ชมบรรยากาศของเมืองหลวง ผ่าน City Hall, Nobel peace center, The National museum
🚃รถราง (Trikk)
สายรถรางที่สะดวกที่สุดคือ Tram สาย 12 ลงที่สถานี Aker Brygge ซึ่งอยู่ใกล้พื้นที่มากที่สุด จากนั้นสามารถเดินต่อไปยัง Tjuvholmen ได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
รถรางของออสโลตรงเวลาและวิ่งถี่ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางสะดวกและรวดเร็ว
🚊รถไฟใต้ดิน (T-bane)
ถึงแม้ว่าไม่มีสถานี T-bane อยู่ตรง Aker Brygge โดยตรง แต่คุณสามารถนั่งจาก Oslo S ด้วยสาย 1,2,3,4,5 ทุกสายที่ ไปทาง Majorstua มาลง Nationaltheatret Station ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Aker Brygge จากนั้นเดินต่อประมาณ 10 นาที
🛥️ เรือเฟอร์รี่
หนึ่งในวิธีที่น่าประทับใจที่สุดในการเดินทางไป Aker Brygge คือการนั่ง เรือเฟอร์รี่ ซึ่งวิ่งเชื่อมต่อระหว่างออสโลกับเกาะต่างๆ ใน Oslofjord เช่น:
Hovedøya/Gressholmen/ Lindøya และเกาะอื่นๆ
เรือเฟอร์รี่เหล่านี้จอดที่ท่า Aker Brygge Terminal เป็นหลัก หรือเราสามารถใช้การเดินทางทางเรือ เพื่อสัมผัสวิวทะเลและบรรยากาศของออสโลในมุมที่สวยงามมาก เป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายคนเลือกในฤดูร้อน
จบไปแล้วนะคะใน EP นี้ หลังจากสถานที่ในออสโลแล้ว จะพาท่านไปสัมผัส ร้านอาหารต่าง ๆ ในออสโล หากท่านชอบฝากกดแชร์หรือติดตามเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
โดย Right to Roam Norway
ขอขอบคุณข้อมูลดีดี
โฆษณา