Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดินสอ ธรรม
•
ติดตาม
6 ก.ย. เวลา 20:41 • ปรัชญา
วิถีแห่งความหลุดพ้นจากความเป็นปุถุชน สู่สภาวะดับทุกข์สิ้นเชิงนั้น มี 3 หนทาง
หลวงพ่อชา สุภัทโท สอนเรื่อง"ความอยาก" เป็นบารมีของคน แต่ ไม่ใช่ทุกคน เฉพาะคนอยากด้วยปัญญา เท่านั้น ที่สามารถทำให้สำเร็จความประสงค์
หลวงพ่อชา สุภัทโท สอนเรื่องความอยากเป็นบารมีของคน แต่ ไม่ใช่ทุกคน เฉพาะคนอยากด้วยปัญญา เท่านั้น ที่สามารถทำให้สำเร็จความประสงค์
เหตุคือความอยาก ทำให้เกิดข้อปฏิบัติ
เป็นบารมีของผู้มีปัญญา
ปัญญาคือ"อิทธิบาทสี่" ทำให้ได้มา
พุทธศาสนา สอน "อิทธิบาทสี่"
หมายความว่า "คุณเครื่องให้สำเร็จความประสงค์"
อิทธิบาทสี่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ ซิมังสา
ฉันทะ ความพอใจ
วิริยะ ความหมั่น
จิตตะ ความเอาใจฝักใฝ่
วิมังสา ความหมั่นตริตรองหาเหตุผล
อิทธิบาทสี่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ ซิมังสา ฉันทะ ความพอใจ วิริยะ ความหมั่น จิตตะ ความเอาใจฝักใฝ่ วิมังสา ความหมั่นตริตรองหาเหตุผล
การทำใจให้บริสุทธิ์คือประตูสู่สภาวะจิตที่สูงขึ้น
การทำใจให้บริสุทธิ์
หมายถึงการปลดปล่อยความตึงเครียด ข้อขัดแย้ง สิ่งที่รบกวนสมาธิ ความเสียใจและความวิตกกังวลออกไปจากใจ เพื่อปลดปล่อยจิตใจให้เป็นอิสระจากเรื่องที่มารบกวนสมาธิ
ไม่ใช่การกดสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในใจไว้
แต่การปลดปล่อยจิต
เกิดขึ้นจากการรับรู้สิ่งที่เข้ามารบกวนสมาธิที่ผุดขึ้นมาแต่ละครั้งด้วยสติ
โดยใช้ความเอาใจใส่ แต่รู้การติดยึด แล้ว ปล่อยวาง จนกว่าสิ่งเหล่านั้นจะลดลงหรือไม่มีอิทธิพลต่อเราอีก
ต่อไป หลังจากทำเช่นนี้ซ้ำๆ หลายพันครั้ง เราจะเริ่มรู้สึกว่าความคิดและจิตใจบริสุทธิ์ ทั้งได้รับการปลดปล่อยจากการยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่มารบกวนสมาธิเหล่านี้ โดยแทบจะไม่วอกแวกไปจากสิ่งที่ใช้เป็นแบบอารมณ์ในการทำสมาธิเลย
เมื่อมีสมาธิมากขึ้น จิตใจจะเต็มไปด้วยสิ่งที่จดจ่ออยู่
เมื่อผ่านพ้นกระบวนการทำให้ใจบริสุทธิ์และตั้งมั่นอยู่ในสมาธิได้แล้ว ร่างกาย จิตใจ ตลอดจนที่ว่างทั้งมวลจะปรากฏแสงเต็มไปหมด
พุทธจิตวิทยา สรุปถึงแสงภายในไว้ 25 ประเภท นับตั้งแต่หมู่เมฆอันสว่างไสว และฝูงหิ่งห้อย ไปจนถึงแสงจ้าเหมือนแสงจากพระอาทิตย์เที่ยงวัน
เมื่อแสงภายในเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือปิติ ความสุข ขยายขอบเขตการรับรู้ และความสามารถที่จะเข้าสู่สภาวะอันสงบนิ่งอย่างลึกซึ้ง เรียกว่า ญาณ
วิถีแห่งความหลุดพ้นจากความเป็นปุถุชน สู่สภาวะดับทุกข์สิ้นเชิงนั้น มี 3 หนทาง
1. การบรรลุความหลุดพ้นแบบสายฟ้าแลบ เรียกว่า วชิรวิถี เป็นนิกายวชิรยาน พัฒนาเป็นนิกายเซนในจีนและญี่ปุ่น
2. ปัญญาวิมุตติ เช่น หลวงพ่อชา สุภัทโท เพราะ
การเดินทางสายปัญญาวิมุต อาศัยปัญญาเป็นตัวนำ ปัญญาจะแก่กล้าโดยก้าวข้ามพ้นจากการเห็นความสำคัญของอิทธิ ฤทธิ์ และปาฏิหาริย์ ไม่สนใจที่จะทำ
3. การบรรลุความหลุดพ้นโดยการฝึกอบรมจิตเป็นหลัก เรียกว่า เจโตวิมุติ กำลังอำนาจของจิตที่ได้รับการฝึกอบรมจนแกร่งกล้าขึ้น ทำให้ นามกายแปรเปลี่ยนเป็นทิพยกาย อินทรีย์และพละแก่กล้าขึ้น รวมทั้งมีรากฐานมาจากกัมมัฏฐานวิธีที่เกื้อกูลต่อการเกิด การกระทำ และการใช้อิทธิ ฤทธิ์ และปาฏิหาริย์
กำลังอำนาจของจิตหรือจิตตานุภาพ
คืออำนาจแห่งดวงจิตของเราที่จะใช้บังคับตัวเอง บังคับคนอื่น บังคับเคราะห์กรรม
มีอยู่ในทุกคน แต่จะหลับอยู่ ต้องปลุกให้ตื่นขึ้นมา แล้วฝึกหัดเพิ่มพูนให้มีมากที่สุด เพื่อเป็นเครื่องมือในการใช้ชีวิตประจำวัน
จิตตานุภาพ
การมีลักษณะเข้มแข็ง ความเชื่อในตัวเอง ความมานะพยายามอย่างไม่ลดละ เพื่อกระทำการที่ได้ตริตรองรอบคอบ และตกลงใจแน่แล้ว ให้สำเร็จไป
ความสามารถที่จะบังคับตัวเอง ความไม่ประหม่าหวาดเสียวต่อหน้าบุคคลไม่ว่าประเภทใด
อำนาจที่จะบังคับความคิด ความยินยอม และความวินิจฉัยของคนอื่น
กำลังหัวใจและความมั่นคงสำหรับต่อสู้ความยากลำบากตั้งพันอย่าง
เจโตวิมุตติ
เจโตวิมุตตินั้นมีผลที่เป็นธรรมชาติของการฝึกฝน คือ เจโตวิมุตติอิทธิ ฤทธิ์ และปาฏิหาริย์ เหตุเพราะตั้งอยู่บนฐานอำนาจของจิต จึงสอดคล้องกับเรื่องการสร้าง การรักษา และการบริหารพลังจิต
หลวงตามหาบัว เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เช่นเดียวกับหลวงพ่อชา แต่มีมุมมองปัญญาต่างกัน
หลวงตามหาบัว มีมุมมองปัญญา ว่า
"แม้สังขารร่างกายจะมีความทุกข์ความลำบากแค่ไหน ก็สักแต่ว่าสังขารร่างกายเป็นทุกข์เท่านั้น ไม่สามารถที่จะทับถมจิตใจให้บอบช้ำให้ขุ่นมัวได้เลย เพราะธรรมชาตินั้นไม่ใช่สมมุติ ขันธ์ทั้งหมดนี้เป็นสมมุติล้วน ๆ ธรรมชาตินั้นเป็นวิมุตติ หลุดพ้นจากสิ่งกดขี่ทั้งหลายซึ่งเป็นตัวสมมุติแล้ว แล้วจะเกิดความเดือดร้อนได้อย่างไร เป็นก็เป็น ตายก็ตาย เรื่องของขันธ์สลายลงไปตามสภาพมันที่ประชุมกันเท่านั้น..."
ไตรโลกธาตุ... ชัดเจนประจักษ์ใจ
หลวงตามหาบัว ท่านเมตตาเล่าถึงความรู้ความเห็นที่เกิดขึ้นบนยอดเขาวัดดอยธรรมเจดีย์
ไตรโลกธาตุ... ชัดเจนประจักษ์ใจ หลวงตามหาบัว ท่านเมตตาเล่าถึงความรู้ความเห็นที่เกิดขึ้นบนยอดเขาวัดดอยธรรมเจดีย์
ยืนยัน... เทวดา อินทร์ พรหม เปรตผี สัตว์นรก... มีจริง
สิ่งเหล่านั้นมันมีอยู่แล้ว เป็นแต่เพียงว่า ตาเรามันหลับด้วยกิเลสปิดบังเท่านั้น พอเปิดตา คือกิเลสออกจากใจแล้วสว่างจ้าขึ้นมา ก็ยอมรับ กราบพระพุทธเจ้าอย่างราบตั้งแต่บัดนั้นมาจนกระทั่งบัดนี้...
จิตวิญญาณ... มีจริง
กิเลสหลอกว่า "ตายแล้วสูญ"
เป็นกลมายา เพราะถ้าตายแล้วสูญไม่มีเงื่อนไขสืบต่อ อยากทำอะไรก็ทำ ความอยากทำคือทางเดินของกิเลสอยู่แล้ว ก็ทำตามความอยาก ตายลงไปแล้วไม่สูญละซิ ก็เสวยกรรมอยู่งั้น เพราะมันไม่สูญหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงตามอำนาจของกรรม...
ต่อสถานการณ์ การเมืองสับสน ในปัจจุบัน
...อยากทำอะไรก็ทำ ความอยากทำคือทางเดินของกิเลสอยู่แล้ว
เป็นเพราะไม่เชื่อฟัง
คำเตือนของหลวงตา พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
คำเตือนของหลวงตา พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
การระวังตัวเองนั้นถูกต้องแล้ว
ส่วนมากมักระวังแต่ผู้อื่น สิ่งอื่น
ไม่ย้อนมาระวังตัวเองซึ่งเป็นตัวการสำคัญบ้างเลย จึงมักผิดพลาดอยู่บ่อยๆ
ธรรมะท่านสอนให้ดูตัวเอง แล้วแก้ไขไปเรื่อยๆ จนสมบูรณ์ได้ จึงขออนุโมทนาด้วยนะ
บัว
พุทธศาสนา
บันทึก
1
4
1
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย