16 ส.ค. เวลา 07:06 • ไลฟ์สไตล์

ตอนที่ 2 — ฝันที่เริ่มร้าว เมื่อความเป็นจริงไม่ใช่ดั่งที่ฝัน

วันที่นุ้ยก้าวลงจากเครื่องบินในต่างแดน อากาศหนาวเย็นพัดเข้ามาจนเธอหายใจเป็นไอ มือสั่นทั้งจากความหนาวและความตื่นเต้น สามีของเธอมายืนรอพร้อมช่อดอกไม้และรอยยิ้มกว้าง ราวกับทุกอย่างกำลังจะเริ่มต้นอย่างสวยงาม
ช่วงเดือนแรก ทุกอย่างเหมือนในภาพฝัน เขาพาเธอเที่ยวรอบเมือง ซื้อเสื้อกันหนาวให้ใหม่ เธอมีความสุขกับทุกๆ อย่างที่เขาเสนอให้ พาไปกินอาหารนอกบ้าน และบอกเสมอว่าเธอไม่ต้องทำงาน แค่ดูแลบ้านก็พอ นุ้ยคิดว่าชีวิตใหม่ที่เธอรอมานานได้เริ่มขึ้นแล้ว
แต่เมื่อฤดูหนาวเข้ามาเต็มตัว และแสงแดดหายไปนานขึ้น เวลาผ่านไปทีละน้อย คล้าย ๆ กับรอยยิ้มของเขาก็ค่อย ๆ จางลง จากคำพูดอ่อนโยน กลายเป็นเสียงตำหนิเล็ก ๆ เวลานุ้ยทำอาหารไม่ถูกปาก หรือออกเสียงภาษาไม่ชัด เขาเริ่มไม่ชอบที่เธอโทรหาครอบครัวบ่อยเกินไป ส่งเงินกลับบ้านและบอกว่า “เธอต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เอาแต่คิดถึงบ้าน ชีวิตเธออยู่ที่นี้”
นุ้ยไม่มีเพื่อน ไม่มีคนให้ปรึกษา เงินทุกบาทอยู่ในมือเขา ภาษาก็ยังไม่เก่ง เวลาจะซื้อของใช้ส่วนตัวต้องขอ และบางครั้งก็ถูกถามว่าซื้อไปทำไม ทำไมต้องแต่งหน้า ทำไมต้องโทรนาน ๆ อะไรหลาย ๆ อย่างเริ่มเปลี่ยนแปลง เธอยังปรับตัวไม่เข้าที่กับสังคมใหม่เลย จนบางครั้งเธอเลือกที่จะไม่ขออะไรเลย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดุว่า เพื่อเลือกที่จะไม่ทะเลาะ
ความเหงาเริ่มกัดกินใจ เธอนั่งมองหิมะตกนอกหน้าต่างด้วยความรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในกรงกระจกสวย ๆ ที่มีเพียงเสียงลมหายใจตัวเองเป็นเพื่อน บางคืนเขากลับบ้านด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง พูดจาเสียงดัง และครั้งแรกที่เขาผลักเธอจนล้ม นุ้ยยังคิดเข้าข้างว่า “เขาคงแค่โมโหชั่ววูบ”
แต่ครั้งต่อ ๆ มา มือที่เคยโอบกอดกลับยกขึ้นเร็วกว่าเสียงขอโทษ น้ำตาของนุ้ยไหลเงียบ ๆ ในห้องนอนที่ปิดไฟมืด เธอเริ่มไม่มั่นใจในตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าอะไร ทุกอย่างที่เธอทำไม่เคยถูกมองว่าดี เหมือนคนไม่เข้าพวก ความกลัว ความกังวลเริ่มเข้ากีดกินจิตใจของเธอ เธอคิดว่าไม่มีสิทธิ์จะฝันอีกต่อไป เธอไม่รู้จะทำอย่างดี
ฝันที่เธอเคยคิดว่าข้ามทะเลมาหา กลับเริ่มมีรอยร้าวเล็ก ๆ ที่ขยายกว้างขึ้นทุกวัน น้ำตาที่ไหลพรั่งพรูในทุกๆ วัน จนเธอไม่แน่ใจว่ามันจะยังคงอยู่เป็น “ฝัน” ได้อีกนานแค่ไหน…
โปรดติดตาม ตอนต่อไป
โฆษณา