Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
B
Benjamin Jaris
•
ติดตาม
17 ส.ค. เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์
เมื่อหมดแบรดลีย์รักษาอาการโรคหลอดเลือดสมองวชิรญาณภิกขุ
เมื่อครั้งดร.แดน บีช แบรดลีย์ (หรือที่รู้จักกันในชื่อหมอบรัดเลย์ หมอปลัดเล) นายแพทย์และมิชชันนารีชาวอเมริกัน เดินทางถึงบางกอกในปี ค.ศ.1837 อีก 9 เดือนต่อมา เขาได้เดินทางไปที่วัดบวรนิเวศ เพื่อเข้าเฝ้าวชิรญาณภิกขุ เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศในขณะนั้น เพื่อรักษาอาการพระประชวรของพระองค์
ดร.แดน บีช แบรดลีย์
อาการเริ่มแรกเกิดจากเส้นประสาทกล้ามพระมังสา (กล้ามเนื้อ) เป็นอัมพาต ทำให้พระพักตร์ (ใบหน้า) ด้านขวาหย่อน พระเนตร (ดวงตา)ด้านขวามีเส้นโลหิตคั่ง เปลือกพระเนตรหย่อน ริมฝีพระโอษฐ์ (ปาก) ตก และมีตุ่มปูดใต้พระกรรณ (หู) ข้างขวา
หมอชาวสยามวินิจฉัยว่าเป็น "โรคลม" ต้องรักษาด้วยการรับประทานยาที่มีฤทธิ์ร้อนแต่ดร.แบรดลีย์เห็นต่างว่า เป็นโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) ที่ร่างกายซีกขวา อันเกิดจากอาการอัมพาตครึ่งซีกซ้าย ซึ่งหมอชาวอเมริกันต้องใช้เวลาในการอธิบายเกี่ยวกับโรคและการรักษา จนพระองค์ยินยอมที่จะรักษาตามที่ ดร. เสนอ จนอาการทุเลาและหายเป็นปกติ แต่ยังมีอาการที่ชัดเจนบริเวณพระโอษฐ์ตลอดพระชนมพรรษา
พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่แสดงถึงริมฝีพระโอษฐ์ตก
ถือเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่มีมานานกว่า 30 ปีระหว่างวชิรญาณภิกขุ หรือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) กับ ดร.แบรดลีย์ ผู้ที่ต่อมากลายเป็นครูสอนภาษาอังกฤษและพระสหายสนิท
ที่มา
วิลเลียม แอล. บรัดเลย์. (2567). สยามแต่ปางก่อน 35 ปีในบางกอกของหมอบรัดเลย์ (ศรีเทพ กุสุมา ณ อยุธยา และศรีลักษณ์ สง่าเมือง, ผู้แปล: พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: มติชน. หน้า 159-162.
ภาพปก: ภาพยนตร์ "มรดกพระจอมเกล้า" (1954) จาก Film Archive Thailand
ประวัติศาสตร์
โรคหัวใจและหลอดเลือด
สหรัฐอเมริกา
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย