Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Last karuda
•
ติดตาม
21 ส.ค. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา
ยูเครนไม่สามารถยึดไครเมีย และไม่สามารถเข้าร่วมนาโต้
ทรัมป์ออกแถลงการณ์อีกฉบับ ว่ายูเครนไม่สามารถยึดไครเมียคืนได้และไม่สามารถเข้าร่วมนาโตได้
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนหน้าการเยือนสหรัฐอเมริกาของประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครนและผู้นำยุโรป
ประธานาธิบดีทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ที่หนักแน่น โดยกล่าวว่ายูเครนไม่สามารถยึดไครเมีย และจะต้องไม่เข้าร่วมนาโต
"หากประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครนต้องการ เขาสามารถยุติสงครามกับรัสเซียได้เกือบจะในทันที
หรือเขาสามารถเลือกที่จะสู้ต่อไป
จำได้ไหมว่าทุกอย่างเริ่มต้นอย่างไร ไครเมียที่ถูกยกให้ในสมัยโอบามา จะไม่มีวันถูกยึดคืน (12 ปีที่แล้ว โดยปราศจากการยิงปืน!) และยูเครนจะไม่มีวันเข้าร่วมนาโต บางสิ่งไม่เคยเปลี่ยนแปลง!!!"
ในตอนแรก ก่อนการพบปะกับปูตินในวันที่ 15 ทรัมป์ขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมหากรัสเซียไม่ยุติสงครามอย่างรวดเร็ว
แต่หลังจากการประชุม จุดยืนของทรัมป์ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
1
โดยย้ำถึงข้อเรียกร้องก่อนหน้านี้ของเขาที่ต้องการให้ยูเครนยอมสละดินแดน
เย็นวันเดียวกันนั้น ในการให้สัมภาษณ์ ทรัมป์กล่าวว่ายูเครนต้องตระหนักว่ารัสเซียเป็นประเทศที่มีอำนาจมากกว่า
และอำนาจนี้หมายความว่าเซเลนสกีต้องยอมประนีประนอม
ในวันที่ 17 เขารีทวีตข้อความแนะนำว่ายูเครนต้องยอมยกดินแดนบางส่วนให้รัสเซีย มิฉะนั้นยิ่งสงครามยืดเยื้อ
พวกเขาก็ยิ่งสูญเสียดินแดนมากขึ้นเท่านั้น!!"
กล่าวคือ ในเย็นวันที่ 15 ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่ายูเครนต้องตระหนักว่ารัสเซียเป็นประเทศที่มีอำนาจมากกว่า
และความแข็งแกร่งนี้หมายความว่าเซเลนสกีต้องยอมประนีประนอม
ต่อ ึในวันที่ 17 เขารีทวีตข้อความแนะนำว่ายูเครนต้องยอมยกดินแดนให้รัสเซีย
โดยระบุว่า "ยูเครนต้องยอมยกดินแดนบางส่วนให้รัสเซีย มิฉะนั้นยิ่งสงครามยืดเยื้อนานเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งสูญเสียดินแดนมากขึ้นเท่านั้น!!"
ร้อนถึง ผู้นำจากทั้ง สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ฟินแลนด์ สหภาพยุโรป และนาโต้
ที่ได้เดินทางไปวอชิงตันพร้อมกับเซเลนสกีในวันที่ 18 เพื่อเจรจากับทรัมป์
โดยมุ่งเน้นไปที่การหยุดยิงและข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
ทรัมป์ก็กล่าวว่า "พรุ่งนี้จะเป็นวันสำคัญที่ทำเนียบขาว ไม่เคยมีผู้นำยุโรปจำนวนมากมาที่นี่พร้อมๆ กันขนาดนี้มาก่อน ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับพวกเขา!!!"
สื่ออังกฤษรายงานว่าการตัดสินใจของผู้นำประเทศจำนวนมากที่จะเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อร่วมประชุมวิกฤตสงคราม
ในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์สมัยใหม่
และตอกย้ำถึงความรุนแรงของสถานการณ์
แหล่งข่าวทางการทูตระบุว่า เจ้าหน้าที่ยุโรปกังวลว่าทรัมป์อาจกดดันเซเลนสกีให้ยอมรับข้อตกลงที่เอื้อประโยชน์ต่อรัสเซีย
และเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ปะทะคารมซ้ำรอยเหมือนที่เคยเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศที่ทำเนียบขาวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ฮาาาาา
ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ รูบิโอ ปฏิเสธว่าผู้นำยุโรปเดินทางไปกับเซเลนสกี
เพื่อป้องกันไม่ให้เขาถูก "กลั่นแกล้ง"
1
เขาย้ำว่าสหรัฐฯ ให้ความร่วมมือกับยุโรปมาโดยตลอด และการเจรจาร่วมกันนี้ริเริ่มโดยสหรัฐฯ
ทรัมป์ยังวิพากษ์วิจารณ์สื่อบางสำนักที่อ้างว่าปูตินมีอำนาจเหนือกว่าในการประชุม โดยปฏิเสธที่จะยอมรับการผ่อนปรนใดๆ ต่อรัสเซีย
เขาทวีตข้อความเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมว่า "วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟีจากคอนเนตทิคัตทำงานได้อย่างดีที่สุด
ในเสนอข้อตกลงสองข้อที่ให้กับปูติน
ซึ่งในช่วงแรก คือ ทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าสันติภาพควรอยู่บนพื้นฐานของการแลกเปลี่ยนที่ดิน โดยใช้ที่ดินของยูเครนแลกกับที่ดินอีกผืนหนึ่งของยูเครน
ต่อมา ปูตินโน้มน้าวให้ทรัมป์หยุดเรียกร้องการหยุดยิงก่อน แล้วจึงเจรจาเงื่อนไขสันติภาพ แต่ให้ดำเนินการทั้งหมด หยุดยิง และยุติการสู้รบในทันทีหลังจากตกลงเงื่อนไขแล้ว
สำหรับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่เพิ่มขึ้นและมาตรการคว่ำบาตรรองสำหรับการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย มาตรการเหล่านี้หายไป
เขาพูดว่า 'เหมือนกับว่าปูตินได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ' แต่ความจริงคือ 'ไม่มีใครได้ประโยชน์ในขณะนี้'
และขณะที่ เมอร์ฟี ซึ่งเป็นนักการเมืองที่ไม่ค่อยมีความสำคัญ กลับคิดว่าการเยือนสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีรัสเซียในครั้งนี้เป็นผลงานของเขา
เพราะเขาไม่รู้เลยว่าการเดินทางของปูตินไม่ใช่เรื่องง่าย....
ปี 2539 ยูเครนส่งมอบอาวุธนิวเคลียร์ให้รัสเซีย "เพื่อแลกกับการรับประกันว่าจะไม่ถูกคุกคามหรือถูกรุกราน"
ส่วน เซเลนสกี ก็กล่าวหลังเดินทางเมื่อมาถึงสหรัฐอเมริกาว่า เราไม่สามารถถูกบังคับให้ยอมสละดินแดนได้อีกต่อไป
ในเย็นวันที่ 17 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครนเดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเขาขอเข้าพบกับประธานาธิบดีทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาในวันที่ 18 สิงหาคม เมื่อเดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกา เซเลนสกีได้กล่าวถึงประเด็นรัสเซีย-ยูเครน
เซเลนสกีเขียนบนโซเชียลมีเดียว่า "ผมเดินทางมาถึงวอชิงตันแล้ว และพรุ่งนี้(18 สิงหาคม)ผมจะได้พบกับประธานาธิบดีทรัมป์
พรุ่งนี้เราจะได้พบกับผู้นำยุโรปด้วย
ผมขอขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐฯ สำหรับคำเชิญ เราทุกคนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะยุติสงครามนี้ได้อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้
สันติภาพต้องยั่งยืน ไม่เหมือนเมื่อไม่กี่ปีก่อน
1
ที่ยูเครนถูกบังคับให้ยอมสละไครเมีย บางส่วนของภูมิภาคตะวันออกของเรา และบางส่วนของดอนบาส
และปูตินใช้มันเป็นจุดเริ่มต้นในการโจมตีรอบใหม่
ไม่เหมือนปี 1994 ที่ยูเครนได้รับสิ่งที่เรียกว่า "หลักประกันความมั่นคง" แต่กลับไม่ประสบผลสำเร็จ"
เซเลนสกียังเขียนต่อด้วยว่า "แน่นอนว่าไครเมียไม่ควรถูกละทิ้งในตอนนั้น เช่นเดียวกับที่ยูเครนไม่ยอมละทิ้งไครเมียหลังปี 2565"
"รัสเซียต้องยุติสงครามที่ตนเองก่อขึ้นนี้ ผมหวังว่าพลังร่วมของเรากับสหรัฐอเมริกาและมิตรประเทศในยุโรปจะสามารถผลักดันให้รัสเซียก้าวไปสู่สันติภาพที่แท้จริงได้ ขอบคุณ!"
และเมื่อคืนที่ผ่านมา บอริส จอห์นสันเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศปกป้องยูเครนจากการถูกแบ่งแยกหลังจากการประชุมที่ "น่าขยะแขยง" ในอลาสกา
จอห์นสัน กล่าวถึงการประชุมสุดยอดครั้งนี้ว่าเป็น "เหตุการณ์ที่น่ารังเกียจที่สุดในประวัติศาสตร์การทูตระหว่างประเทศ" เขากล่าว
"ลองนึกภาพดูสิว่ารู้สึกอย่างไรที่ได้เป็นวีรบุรุษที่ถูกขังอยู่ในบังเกอร์ใกล้โปครอฟสค์ ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของประเทศ แล้วได้ยินประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา กัปตันผู้ยิ่งใหญ่ของโลกเสรี เรียก เขา(ปูติน)ว่า 'เจ้านาย'"
1
บอริส กล่าวว่าออกมาว่า....."มันน่ารังเกียจ"
สหรัฐอเมริกา
ข่าวรอบโลก
รัสเซียยุโรป
บันทึก
11
5
1
11
5
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย