20 ส.ค. เวลา 06:39 • ข่าว

ออสเตรเลีย vs อิสราเอลความสัมพันธ์ดิ่งเหว

อิสราเอลสั่งถอนวีซ่า ไล่คณะทูตออสซี่กลับประเทศ
จากปมเรื่องวีซ่า กลายเป็นงานทะเลาะที่ใหญ่โตระดับประเทศไปแล้ว สำหรับออสเตรเลีย และอิสราเอล เมื่อ รัฐบาลออสเตรเลียปฏิเสธวีซ่า สส.ฝ่ายรัฐบาลอิสราเอลสายขวาจัด ที่เป็นพันธมิตรสำคัญของเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ไม่ให้เข้าประเทศ เพื่อไม่ให้เข้ามาเผยแพร่วาทกรรมความเกลียดชังปาเลสไตน์ในประเทศ
1
ทำให้รัฐบาลอิสราเอลตอบโต้กลับทันทีด้วยการเพิกถอนวีซ่าตัวแทนคณะทูตออสเตรเลียในอิสราเอล ไล่กลับประเทศพร้อมข้อกล่าวหาฝักใฝ่ลัทธิต่อต้านยิว ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอยู่จุดที่ตกต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์
กิเดียน ซาอาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (18 สิงหาคม 2025) ที่ผ่านมาว่า ทางการอิสราเอลตัดสินใจเพิกถอนวีซ่าตัวแทนทูตออสเตรเลียในเขตปาเลสไตน์ทันทีหลังทราบข่าวว่า รัฐบาลแคนเบอราได้ปฏิเสธวีซ่าเข้าประเทศให้กับนาย ชิมมา รอธแมน สมาชิกสภาผู้แทนจากพรรคชาตินิยม Mafdal–Religious Zionism หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล แม้ว่าเขาจะมีกำหนดการร่วมแสดงปาฐกถาหลายแห่งในออสเตรเลียเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ทางการอิสราเอลรู้สึกว่า เป็นการปฏิเสธวีซ่าอย่างไม่เป็นธรรมกับบุคคลสำคัญของรัฐบาล ประกอบกับการออกมาแสดงเจตนารมณ์รับรองรัฐปาเลสไตน์ของรัฐบาลออสเตรเลีย ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาติเมื่อเดือนกันยายน 2024 ที่ผ่านมา
แต่ในขณะเดียวกัน ออสเตรเลียกลับเพิกเฉยต่อกระแสต่อต้านชาวยิวที่กำลังแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางในออสเตรเลีย แทนที่จะแก้ปัญหาแต่กลับกีดกันการมาเยือนของบุคคลในรัฐบาลอิสราเอล โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องชุมชนชาวมุสลิมในประเทศ ถือเป็นเรื่องที่น่าละอายและไม่อาจยอมรับได้
ตามติดมาทันทีด้วยนายกรัฐมนตรีตัวตึงของอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ก็จัดหนัก ด่านาย แอนโทนี แอลบานีส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียไม่มีชิ้นดีว่า เป็นผู้นำที่อ่อนแอ เป็นคนทรยศ ทอดทิ้งชาวยิวในออสเตรเลีย ความอัปยศของนายแอลบานีส ที่จะถูกจดจำในประวัติศาสตร์ตลอดไป
1
ด้านออสเตรเลีย ผู้ที่ตัดสินใจปฏิเสธวีซ่า สส.อิสราเอล ตัวต้นปัญหาก็คือ นาย โทนี เบิร์ค รัฐมนตรีมหาดไทย ก็ออกมายืนยันการตัดสินใจของตัวเอง และสนับสนุนนายกรัฐมนตรีแอลบานีส ว่ารัฐบาลออสเตรเลียไม่ใช่คนอ่อนแอ สิ่งที่รัฐบาลออสเตรเลียทำคือปกป้องความผาสุกให้แก่ทุกๆชุมชนในออสเตรเลีย และไม่ยอมให้มีการเผยแพร่วาทกรรมเกลียดชังในประเทศ
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นาย โทนี เบิร์ค กล้าสั่งปฏิเสธวีซ่าให้กับคนในรัฐบาลอิสราเอล ก่อนหน้านี้ เขาก็เคยพิจารณาปฏิเสธวีซ่าอดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมหญิงสายเหยี่ยวของอิสราเอล อาเยเล็ต ชาเคท มาแล้วเมื่อช่วงปลายปี 2024 จากประเด็นที่เธอเคยแสดงความเห็นที่เป็นอคติอย่างรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์
โทนี เบิร์ค ชี้ในประเด็นข้อเท็จจริงว่า อดีตรัฐมนตรียุติธรรมหญิงคนนี้ เคยออกมาแสดงความเห็นในที่สาธารณะว่า ชาวปาเลสไตน์ต้องออกจากกาซ่าให้หมด และอิสราเอลมีโครงการที่จะเปลี่ยนกาซ่าให้เป็นสนามฟุตบอล และยังเปรียบเด็กๆชาวปาเลสไตน์ว่าเป็นพวกงูเงี้ยวเขี้ยวขอ
โดย รัฐมนตรีเบิร์คยกตัวอย่างให้ลองพิจารณาในมุมกลับว่า "ถ้ามีใครบางคนที่อยากมาออสเตรเลีย เพื่อที่จะมาพรรณนาว่า เขาจะเลือกเมืองใด เมืองหนึ่งในอิสราเอล แล้วจะถล่มให้ราบเป็นหน้ากลอง เพื่อเปลี่ยนเป็นสนามฟุตบอล หรือเปรียบเด็กๆชาวยิวว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลาน หรือสิ่งที่น่ารังเกียจหล่ะก็ ผมก็ไม่ให้เข้าประเทศหรอกครับ"
โทนี เบิร์ก ยังตอบโต้เนทันยาฮูผ่านสื่อในออสเตรเลียว่า "เขาก็โจมตีทุกประเทศที่ออกมา สนับสนุนปาเลสไตน์แหละครับ แต่สิ่งที่ผมอยากจะพูดคือ ความแข็งแกร่ง มันไม่ได้วัดกันที่จำนวนคนที่พวกเขาระเบิดทิ้งได้ หรือจำนวนเด็กๆ ที่พวกเขาปล่อยให้หิวโหยได้
2
แต่ความแข็งแกร่งมีวิธีวัดได้ดีกว่านั้น คือสิ่งที่นายกรัฐมนตรีแอลบานีสของเราได้ทำ คือทำในสิ่งที่ถูกต้อง และพูดอย่างชัดเจนในสิ่งที่ตั้งใจ แม้จะรู้ว่าทางอิสราเอลคงไม่ชอบ แต่เขากล้าที่จะพูดกับเบนจามิน เนทันยาฮู ตรงๆเช่นกัน"
2
และต่อมา เพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศหญิงของออสเตรเลียก็ออกแถลงการณ์ถึงการตอบโต้ด้วยการถอนวีซ่าตัวแทนทูตออสเตรเลียในเขตปาเลสไตน์ว่า รัฐบาลเนทันยาอูกำลังบ่อนทำลายสันติภาพในแนวทางแก้ปัญหาแบบสองรัฐ และไม่ยุติธรรมกับออสเตรเลีย หลังจากที่รัฐบาลออสเตรเลียได้ตัดสินใจรับรองรัฐปาเลสไตน์ไปแล้ว
1
รัฐบาลออสเตรเลียตั้งใจร่วมมือกับพันธมิตรในการหาแนวทางแก้ปัญหาสองรัฐ ที่รวมถึงการหยุดยิงในฉนวนกาซา และการปล่อยตัวประกัน
ออสเตรเลียยินดีต้อนรับผู้คนทุกเชื้อชาติ ศาสนา และจะปกป้องทุกชุมชนในประเทศจากความเกลียดชัง และดำเนินการอย่างเด็ดขาดในเรื่องลัทธิต่อต้านชาวยิวเช่นกัน
1
ไม่ว่าเนทันยาฮูจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่ส่วนตัวคิดว่า รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี แอนโทนี แอลบานีส มีจุดยืนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ออสเตรเลียเคยมีมาในรอบหลายๆปี เพียงแต่อาจจะอยู่ไม่นานเท่าอายุราชการของเนทันยาฮูเท่านั้นเอง
1
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
1
แหล่งข้อมูล
โฆษณา