Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อดีตไม่ดีดนิ้ว
•
ติดตาม
20 ส.ค. เวลา 07:56 • ประวัติศาสตร์
อดีตไม่ดีดนิ้ว – ของใช้ในชีวิตประจำวัน : กระดาษทิชชู่
ใครจะไปคิดว่า สิ่งธรรมดาอย่าง “กระดาษทิชชู่” ที่อยู่ทุกมุมบ้าน จะมีประวัติยาวนานหลายพันปี
ก่อนที่เราจะดึงม้วนสีขาว ๆ มาใช้ง่าย ๆ แบบทุกวันนี้ มนุษย์ต้องผ่านเส้นทางการแก้ปัญหาแบบไม่สวยหรูเท่าไรนัก
เพราะในอดีต…การทำความสะอาดร่างกายหลังเข้าห้องน้ำ ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนปัจจุบันเลย
ย้อนกลับไปในสมัยโบราณ มนุษย์เคยใช้ ใบไม้ ก้อนหินเรียบ ขนนก หรือแม้แต่เศษผ้า
ใช่ค่ะ…ของเหล่านี้ถูกหยิบมาแทนสิ่งที่เรารู้จักกันในชื่อ “ทิชชู่”
ถ้าใครอยู่แถวโรมันยุคโบราณ จะเห็นว่าเขาใช้ ฟองน้ำชุบน้ำเกลือ วางรวมกันไว้ในห้องน้ำสาธารณะ
และแน่นอน…ทุกคนใช้ร่วมกัน 🫣
ประเทศจีนถือเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นสำคัญ
ตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 มีบันทึกว่า จีนผลิตกระดาษชนิดหนึ่งขึ้นมา “เพื่อการชำระร่างกาย” โดยเฉพาะ
แม้จะยังไม่ใช่ทิชชู่ม้วนแบบที่เรารู้จัก แต่ก็เป็นก้าวแรกของการคิดค้นกระดาษเพื่อสุขอนามัย
ที่มา :
badgut.org
- The History of Toilet Paper
เมื่อการผลิตกระดาษเริ่มแพร่หลาย สังคมตะวันตกก็ค่อย ๆ พัฒนาไอเดียต่อในศตวรรษที่ 19 สหรัฐอเมริกามีบริษัทหนึ่งชื่อ Scott Paper Company เป็นผู้บุกเบิกการทำ “กระดาษชำระม้วน” ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรก
ช่วงแรกคนยังเขินอายที่จะซื้อตรง ๆ เพราะมันเกี่ยวข้องกับ “เรื่องส่วนตัว” บริษัทเลยเลือกขายให้กับโรงแรมและร้านขายยาก่อน เพื่อสร้างความคุ้นเคย
ทิชชู่แบบม้วนที่เรารู้จักจริง ๆ เริ่มเป็นที่นิยมหลังปี ค.ศ. 1920
เพราะโรงงานต่าง ๆ เริ่มผลิตได้ในปริมาณมาก ราคาถูกลง และที่สำคัญ…สังคมเริ่มยอมรับว่า การดูแลสุขอนามัยไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่คือเรื่องจำเป็น
เมื่อเวลาผ่านไป “ทิชชู่” ก็ขยายบทบาทจากของใช้ส่วนตัว สู่การเป็นของใช้สารพัดประโยชน์
เรามีทั้ง ทิชชู่เช็ดหน้า, ทิชชู่เปียก, กระดาษครัว
จนเรียกได้ว่า…ถ้าเดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต จะเห็นชั้นวางกระดาษทิชชู่ยาวเกือบทั้งแถว
ทุกวันนี้ ตลาดกระดาษทิชชู่มีมูลค่าหลายแสนล้านบาทต่อปี
โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้วที่การใช้ต่อหัวสูงมาก
บางประเทศมีค่าเฉลี่ยการใช้มากกว่า 100 ม้วนต่อคนต่อปี เลยทีเดียว
เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 การแข่งขันของผู้ผลิตกระดาษทิชชู่ก็ร้อนแรงขึ้น
หลายบริษัทพยายามสร้าง “เอกลักษณ์” ของแบรนด์ตัวเอง
บางรายเน้นความนุ่มลื่น, บางรายเน้นความเหนียวทนทาน, บางรายเน้นราคาถูกเข้าถึงง่าย
และสิ่งที่น่าสนใจคือ กระดาษทิชชู่ยังสะท้อน พฤติกรรมสังคม ของผู้คนในแต่ละวัฒนธรรม เช่น ในสหรัฐอเมริกา การใช้ทิชชู่เช็ดหน้ากลายเป็นเรื่องปกติ แต่ในบางประเทศแถบเอเชีย คนยังนิยมใช้ผ้าเช็ดหน้าอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่ทิชชู่จะค่อย ๆ เข้ามาแทนที่ เพราะความสะดวกและการใช้แล้วทิ้ง
ทิชชู่ไม่ได้หยุดอยู่ที่เรื่องสุขอนามัยส่วนตัวเท่านั้น
มันถูกดัดแปลงไปสู่ การตลาด เช่น การทำแพ็กเกจลายน่ารัก, ขนาดพกพา, หรือแม้กระทั่งการร่วมมือกับตัวการ์ตูนดัง
ทิชชู่บางรุ่นกลายเป็น สินค้าพรีเมียม ที่ขายแพงกว่าปกติหลายเท่า แต่คนก็ยอมจ่าย เพราะ “ภาพลักษณ์”
แล้วในด้านสิ่งแวดล้อมล่ะ?
เมื่อการใช้กระดาษทิชชู่ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าก็ถูกตั้งคำถาม ผู้ผลิตหลายเจ้าเลยหันมาใช้ เยื่อรีไซเคิล หรือ วัตถุดิบทางเลือก เช่น ฟางข้าว, ไม้ไผ่, อ้อย เพื่อผลิตทิชชู่ที่ยั่งยืนกว่า
ปัจจุบัน เราจึงเริ่มเห็นทิชชู่ที่ติดฉลาก Eco-Friendly วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ต และบางบริษัทก็ไปไกลกว่านั้น ด้วยการผลิต ทิชชู่ละลายน้ำได้เร็ว เพื่อลดปัญหาท่ออุดตันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
⚡ จุดเปลี่ยนอีกอย่างคือ “ทิชชู่เปียก” จากเดิมที่ถูกทำขึ้นเพื่อเด็กเล็ก ปัจจุบันกลับกลายเป็นสินค้าขายดีที่ผู้ใหญ่ก็ใช้ เพราะความสะดวกสบายเวลาเดินทาง หรือการทำความสะอาดด่วน ๆ
แม้จะมีข้อถกเถียงว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าทิชชู่แห้ง แต่ตลาดก็ยังเติบโตต่อเนื่อง
และไม่ใช่แค่เรื่องสุขอนามัย…ทิชชู่ยังถูกใช้เป็น สัญลักษณ์ทางสังคม ในบางครั้ง เช่น การบริจาคทิชชู่ให้โรงเรียน, วัด, หรือผู้ประสบภัย กลายเป็นการแสดงน้ำใจที่จับต้องได้ง่ายที่สุด
📍 Fact: ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรม “แจกทิชชู่ฟรี” ตามท้องถนน โดยใส่โฆษณาเล็ก ๆ แนบไปในซอง — เป็นการตลาดที่ทั้งโปรโมตแบรนด์และมีประโยชน์กับผู้รับ
เมื่อมองย้อนกลับไป เราจะเห็นว่าเส้นทางของทิชชู่ไม่ได้เรียบง่ายเลย จากใบไม้ → กระดาษหยาบ → ม้วนกระดาษเชิงพาณิชย์ → สินค้าสารพัดชนิดในปัจจุบัน มันคือการเดินทางที่ยาวนานกว่าที่หลายคนคิด
เมื่อเรามาถึงยุคปัจจุบัน กระดาษทิชชู่กลายเป็นสินค้าที่ทุกบ้านต้องมี ไม่ว่าจะเป็นทิชชู่ม้วนในห้องน้ำ, กระดาษเช็ดหน้าในห้องนั่งเล่น, หรือทิชชู่เปียกในกระเป๋า มันคือ “ของใช้ประจำวัน” ที่คนไม่ทันสังเกต แต่ขาดไม่ได้เลย
ตลาดโลกของทิชชู่ในวันนี้มีการแข่งขันสูง
บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Kimberly-Clark (Kleenex), Procter & Gamble (Charmin) หรือ Asia Pulp & Paper ต่างทุ่มทุนพัฒนานวัตกรรม ทั้งด้านคุณภาพ ความนุ่ม การดูดซับ รวมถึงภาพลักษณ์รักษ์โลก เพราะผู้บริโภคยุคใหม่เริ่มให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
📍 Fact: ปัจจุบันมีการวิจัย “ทิชชู่จากหญ้า” และ “ทิชชู่จากไผ่” ที่เติบโตเร็วแทนการใช้เยื่อไม้ — เพื่อลดการตัดต้นไม้ใหญ่
แล้วในอนาคตล่ะ?
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า “กระดาษทิชชู่” อาจถูกท้าทายจากนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น ระบบชำระล้างอัตโนมัติ (Smart Toilet) ที่พัฒนาในญี่ปุ่น หรือผลิตภัณฑ์สิ่งทอแบบใช้ซ้ำที่ถูกออกแบบให้สะอาดง่ายและปลอดภัยกว่าเดิม
ถ้าวันหนึ่ง “ทิชชู่” หายไปจากชีวิตจริง ๆ … เราจะกลับไปใช้ของแบบดั้งเดิมไหม? หรือเราจะมีเทคโนโลยีใหม่ที่เหนือกว่านั้น?
บางที ทิชชู่ก็คือภาพสะท้อนของ “ความสะดวก” ที่มนุษย์พยายามสร้างขึ้นจากใบไม้สู่ม้วนกระดาษ → จากม้วนกระดาษสู่ทิชชู่อัจฉริยะที่สลายตัวเองได้เส้นทางนี้ยังไม่จบ และอาจจะพาเราไปเจอกับสิ่งใหม่ในวันข้างหน้า
⚡ จุดที่น่าสนใจคือ ทิชชู่ไม่ใช่แค่ “ของใช้” แต่มันคือสัญลักษณ์ว่า มนุษย์พร้อมจะเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อความสะดวกเสมอ และทุกการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ นั้น ก็อาจสร้างผลกระทบใหญ่หลวงต่อสังคมในแบบที่เราไม่ทันคิด
⸻
🎭 จากอดีตที่ใช้ใบไม้ ขนนก หรือฟองน้ำร่วมกัน → จนถึงวันนี้ที่เรามีทิชชู่หลากหลายรูปแบบ แล้วถ้าอนาคตมี “ทิชชู่ที่สลายตัวเองทันทีหลังใช้” หรือแม้แต่ “ระบบที่ไม่ต้องใช้ทิชชู่เลย” คุณจะเลือกแบบไหน?
ธุรกิจ
ประวัติศาสตร์
สุขภาพ
บันทึก
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ของใช้ในชีวิตประจำวัน
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย