เมื่อวาน เวลา 14:00 • สิ่งแวดล้อม

‘ปลาแม่น้ำโขง’ ตัวเล็กลง จากทำประมง-โลกร้อน วางไข่ได้น้อย สมดุลระบบนิเวศเสีย จากนักล่ากลายเป็นเหยื่อ

“แม่น้ำโขง” ลุ่มแม่น้ำโขงถือเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากเป็นอันดับสามของโลก และเป็นแหล่งอาศัยของ “ปลาบึก” ปลาน้ำจืดที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดเท่าหมี รวมถึง “กระเบนน้ำจืด” ตัวเท่าสระน้ำเป่าลม แต่ทุกอย่างกำลังจะกลายเป็นอดีตไป เนื่องจากการทำประมงเกินขีดจำกัดและการสร้างเขื่อนทำให้สัตว์น้ำจืดขนาดยักษ์เหล่านี้ลดขนาดลง
งานวิจัยใหม่ในวารสาร Biological Conservation พบว่า ปลาขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงมีขนาดลดลง 40% ในเวลาเพียง 7 ปี ส่วนปลาบึกแม่น้ำโขงที่เคยมีน้ำหนักเฉลี่ย 180 กก. แต่นักวิทยาศาสตร์พบว่าปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเพียง 80 กก. ลดลง 55% ในช่วงเวลา 25 ปี
นักวิจัยเชื่อกันว่าปลาขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงมีจำนวนลง เป็นผลมาจากการทำประมงเกินขีดจำกัด และจับปลาแบบไม่เลือกเป้าหมาย ปัญหานี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีกเมื่อมีการสร้างเขื่อนและรุกรานถิ่นที่อยู่อาศัย
ตามธรรมชาติแล้ว เมื่อสัตว์ขนาดใหญ่ถูกนักล่าจับ พวกมันมักจะวิวัฒนาการให้มีขนาดเล็กลง สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นในปลาน้ำเค็ม เช่น ปลาค็อดในทะเลบอลติก ปลาแซลมอนในอะแลสกา และฉลามที่ต่างก็หดตัวลง รวมถึงงาช้างก็เล็กลงด้วยเช่นกัน
ดร. เซ็บ โฮแกน รองศาสตราจารย์วิจัยจากมหาวิทยาลัยเนวาดา หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า การลดลงอย่างรวดเร็วของปลาขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจและน่าตกใจ ปรากฏการณ์นี้อาจทำลายสมดุลอันเปราะบางของระบบนิเวศ นักล่าอาจกลายเป็นเหยื่อ และบริการสำคัญของระบบนิเวศ เช่น การหมุนเวียนของสารอาหาร อาจถูกทำลาย
ปลาขนาดเล็กยังวางไข่น้อยกว่าปลาขนาดใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น ปลาบึกน้ำหนัก 300 กก. สามารถออกลูกได้มากกว่าปลาน้ำหนัก 50 กก. ถึง 20 เท่า ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์จึงกังวลว่าในแม่น้ำโขงจะมีลูกปลาน้อยลงเพื่อทดแทนประชากรปลาที่ลดลงอยู่แล้ว
นอกจากการทำประมงเกินขนาดแล้ว ปลาขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงยังต้องเผชิญกับปัญหาเขื่อนกั้นน้ำ ที่ขัดขวางการอพยพของพวกมันไปยังแหล่งวางไข่ ขณะที่วิกฤติสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิและปริมาณน้ำฝนตามฤดูกาล และการทำลายป่าที่ถูกน้ำท่วมตามฤดูกาลเพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญ
โฆษณา