21 ส.ค. เวลา 01:02 • สุขภาพ

ทำความเข้าใจ "โรคชอบแกะเกา" ในผู้สูงอายุ: เมื่อการคันไม่ใช่แค่เรื่องผิวหนัง

คุณเคยสังเกตไหมว่าผู้สูงอายุบางท่านในครอบครัวมีอาการคันที่ผิวหนังจนอดใจไม่ไหวต้องแกะต้องเกาจนเกิดเป็นแผลทั่วร่างกาย อาการนี้สร้างความกังวลใจให้ผู้ดูแลอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้ผิวหนังอักเสบแล้ว ยังอาจนำไปสู่การติดเชื้อที่อันตรายได้ ที่สำคัญคือ พฤติกรรมนี้ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อนและต้องได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี
ต้นตอของอาการคัน: มาจากไหนกันแน่?
อาการคันของผู้สูงอายุ จนทำให้ต้องคะแกะเกาจนเป็นแผลทั่วร่างกาย เช่น ผิวหนังขน ขา หลัง ศีรษะ ขนหนีบ และ รูหู มีสาเหตุหลักๆ ที่ซับซ้อนกว่าที่เราคิด ซึ่งมาจากทั้งปัญหาทางกายภาพและจิตใจ ดังนี้
พฤติกรรมของผู้สูงอายุที่ชอบแกะและเกาจนเป็นแผลทั่วร่างกาย และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้นั้น เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยและมีสาเหตุที่ซับซ้อน ซึ่งไม่ได้มาจากสาเหตุเดียว และมักจะมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลร่วมกัน สาเหตุหลักๆ สามารถแบ่งออกได้ดังนี้ครับ
1. ปัญหาทางกายภาพและโรคผิวหนัง
1.1 ผิวแห้ง (Xerosis): นี่คือสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดในผู้สูงอายุ เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ผิวจะผลิตน้ำมันและความชุ่มชื้นตามธรรมชาติได้น้อยลง ทำให้ผิวแห้งและคันได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวหรือในสภาพอากาศที่แห้ง เมื่อผิวแห้งมากก็จะยิ่งคันและนำไปสู่การเกา
1.2 โรคผิวหนังต่างๆ: ผู้สูงอายุอาจเป็นโรคผิวหนังอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการคันได้ เช่น
*** โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema หรือ Dermatitis): เช่น โรคผิวหนังอักเสบจากผิวแห้ง (Asteatotic Eczema) หรือโรคผิวหนังอักเสบที่เกิดจากการแพ้ (Contact Dermatitis)
*** หิด (Scabies): การติดเชื้อจากไรหิดที่ทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
*** สะเก็ดเงิน (Psoriasis): โรคผิวหนังเรื้อรังที่ทำให้เกิดผื่นและอาการคัน
1.3 โรคระบบภายในร่างกาย: อาการคันทั่วตัวอาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่ปัญหาที่ผิวหนังโดยตรง เช่น
*** โรคไตวายเรื้อรัง (Chronic Renal Failure): อาการคันเป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคไตที่ต้องฟอกไต
*** โรคตับ (Liver Disease): โดยเฉพาะภาวะดีซ่าน (Cholestasis) ซึ่งทำให้มีสารบางอย่างสะสมในผิวหนังและกระตุ้นให้เกิดอาการคันที่บริเวณมือและเท้า
*** โรคเบาหวาน (Diabetes): ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอาจส่งผลกระทบต่อผิวหนังและเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการคัน
*** มะเร็งบางชนิด: เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)
*** ผลข้างเคียงจากยา: ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ, ยาลดไขมันในเลือด, ยาต้านเกล็ดเลือดไม่ให้จับตัวกันเป็นลิ่มเลือด หรือยาแก้ปวดในกลุ่มโอปิออยด์ (opioids) อาจทำให้เกิดอาการคันได้
2. ปัญหาทางระบบประสาท
2.1 ภาวะคันจากเส้นประสาท (Neuropathic Pruritus): เป็นอาการคันที่เกิดจากความเสียหายของเส้นประสาท ไม่ใช่จากปัญหาผิวหนังโดยตรง ผู้ป่วยอาจรู้สึกคันอย่างรุนแรงในบริเวณที่ไม่มีผื่นหรือแผลใดๆ เช่นในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) หรือผู้ที่มีเส้นประสาทถูกกดทับ
2.2 โรคสมองและภาวะสมองเสื่อม: ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมอื่นๆ อาจมีพฤติกรรมซ้ำๆ เช่น การแกะเกาผิวหนัง เนื่องจากการรับรู้ทางประสาทสัมผัสที่เปลี่ยนไป รวมถึงความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมลดลง (จึงทำให้การแกะแผลเป็นเรื่องสนุกของผู้ป่วย)
3. ปัญหาทางจิตเวช
3.1 โรคแกะผิวหนัง (Excoriation Disorder หรือ Dermatillomania): เป็นโรคทางจิตเวชประเภทหนึ่งในกลุ่มโรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive-Compulsive Related Disorders) ผู้ป่วยจะรู้สึกอยากแกะหรือเกาผิวหนังอย่างรุนแรงเพื่อบรรเทาความเครียด ความวิตกกังวล หรือความรู้สึกไม่สบายใจ พฤติกรรมนี้จะทำซ้ำๆ จนเกิดเป็นบาดแผล แม้จะพยายามหยุดแต่ก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
3.2 ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล: อาการคันสามารถเป็นอาการทางกายภาพของภาวะทางจิตเวชได้ และการเกาอาจเป็นกลไกในการจัดการกับความเครียดหรือความรู้สึกที่ถูกเก็บกด
ดูแลอย่างไรให้ถูกวิธี: มากกว่าแค่การทายา
การดูแลผู้สูงอายุที่มีพฤติกรรมนี้ต้องใช้ความเข้าใจและใช้วิธีที่หลากหลาย ดังนี้
1. ปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง: ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดคือการพาผู้สูงอายุไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียด แพทย์จะสามารถวินิจฉัยได้ว่าอาการคันเกิดจากปัญหาทางกายภาพหรือปัญหาสุขภาพจิต และจะสามารถแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้
2. ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างสม่ำเสมอ: ใช้มอยส์เจอไรเซอร์หรือโลชั่นสำหรับผิวแห้งโดยเฉพาะเป็นประจำ เพื่อช่วยลดอาการคันและลดโอกาสในการเกิดแผล
3. ดูแลสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัด และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิวหนัง นอกจากนี้ การดูแลเสื้อผ้าและเครื่องนอนให้สะอาดอยู่เสมอจะช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคที่อาจทำให้เกิดอาการคันได้
4. หากมีแผล ให้ดูแลอย่างถูกสุขลักษณะ: หากมีแผลเกิดขึ้น ควรทำความสะอาดและใส่ยาฆ่าเชื้อให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจเป็นอันตราย
5. ตัดเล็บให้สั้น และใส่ถุงมือป้องกันการแกะเกาจนทำให้เกิดบาดแผลได้
เมื่อดูแลจิตใจ...เท่ากับการดูแลร่างกาย
การดูแลทางด้านจิตใจมีความสำคัญไม่แพ้กัน การให้ความรัก ความเข้าใจ และการทำกิจกรรมร่วมกันจะช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลได้ หากพบว่าพฤติกรรมการแกะเกามีความรุนแรงและควบคุมไม่ได้ การปรึกษาจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ควรพิจารณาเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้สูงอายุและผู้ดูแล
บทสรุป
การแกะ เกา จนเป็นแผลของผู้สูงอายุไม่ใช่แค่พฤติกรรมปกติ แต่เป็นสัญญาณที่บอกให้เราต้องใส่ใจมากขึ้น การดูแลอย่างเข้าใจและตรงจุดจะช่วยให้คนที่คุณรักมีสุขภาพกายและใจที่ดีขึ้นและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
อ้างอิง
Butler, D. C., Berger, T., Elmariah, S., Kim, B., Chisolm, S., Kwatra, S. G., ... & Yosipovitch, G. (2024). Chronic pruritus: a review. Jama, 331(24), 2114-2124.
Steinhoff, M., Al-Khawaga, S., & Buddenkotte, J. (2023). Itch in elderly patients: Origin, diagnostics, management. Journal of Allergy and Clinical Immunology, 152(1), 42-49.
โฆษณา