Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
WealthMagik
•
ติดตาม
22 ส.ค. เวลา 04:54 • หุ้น & เศรษฐกิจ
WealthMagik
เงื่อนไขลงทุนกองทุน RMF /Thai ESG / Thai ESGX พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี 💸
เมื่อถึงช่วงสิ้นปี หลายคนเริ่มมองหาวิธีลดหย่อนภาษี พร้อมวางแผนการเงินระยะยาวไปพร้อมกัน ทางเลือกยอดนิยมคงหนีไม่พ้นกองทุนรวมลดหย่อนภาษีอย่างกองทุน RMF, กองทุน Thai ESG และกองทุน Thai ESGX ซึ่งแต่ละกองทุนมีเงื่อนไขการลงทุนที่แตกต่างกัน ทั้งเรื่องวงเงินลดหย่อนภาษี ระยะเวลาการถือครอง และความต่อเนื่องของการลงทุน บทความนี้จะพาคุณ เจาะลึกเงื่อนไขสำคัญของกองทุนทั้งสามแบบในฉบับเข้าใจง่าย พร้อมเปรียบเทียบข้อแตกต่าง เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่ากองทุนไหนเหมาะกับเป้าหมายการเงินของคุณ
👉 เงื่อนไขการลงทุนกองทุน RMF ที่ควรรู้
ระยะเวลาการถือครอง : ต้องถือหน่วยลงทุนจนถึงอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และถืออย่างน้อย 5 ปีเต็ม
ความต่อเนื่องในการลงทุน : ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรืออย่างน้อยปีเว้นปี และลงทุนต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปีเต็ม ลงทุนปีไหน ก็ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ปีนั้น
สิทธิลดหย่อนภาษี : สามารถนำไปลดหย่อนไม่เกิน 30% ของรายได้ และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ได้แก่ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.), กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และประกันชีวิตแบบบำนาญแล้ว ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี
จำนวนเงินลงทุน : ไม่จำกัดเงินลงทุนขั้นต่ำ แต่เมื่อซื้อแล้วต้องซื้อต่อเนื่องตามเงื่อนไข แต่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้เมื่อรวมกับกองทุนลดหย่อนภาษีอื่นๆ ไม่เกิน 500,000 บาท ในส่วนเงินลงทุนที่เกินจะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และกำไรที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนส่วนที่เกินสิทธิลดหย่อนจะถือเป็นรายได้ที่ต้องนำไปคำนวณภาษี
กรณีผิดเงื่อนไขลงทุน :
- กรณีลงทุนไม่ครบ 5 ปี ต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับยกเว้นมาทั้งหมด* และกำไรที่ได้จากการขายคืนจะนำไปคำนวณภาษี
- กรณีลงทุนมากกว่า 5 ปีขึ้นไป ต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับยกเว้นมา 5 ปีย้อนหลัง* และกำไรที่ได้จากการขายคืนจะไม่นำไปคำนวณภาษี
* หากผู้ลงทุนคืนภาษีล่าช้า ต้องจ่ายให้รัฐ 1.5% ต่อเดือน โดยคิดตั้งแต่เดือน เม.ย. ของปีที่ถัดจากปีที่ขายผิดเงื่อนไขการลงทุนนั้น
👉 เงื่อนไขการลงทุนกองทุน ThaiESG ที่ควรรู้
ระยะเวลาการถือครอง :
- กรณีลงทุนตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2566 ต้องถือหน่วยลงทุนให้ครบ 8 ปี นับจากวันที่ซื้อ
- กรณีลงทุนตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ต้องถือหน่วยหน่วยลงให้ครบ 5 ปี นับจากวันที่ซื้อ
ความต่อเนื่องในการลงทุน : ไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี ลงทุนปีไหนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ในปีนั้น
สิทธิลดหย่อนภาษี : สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ ต้องไม่เกิน 300,000 บาท (สำหรับการลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567) และไม่เกิน 100,000 บาท (สำหรับการลงทุนในปี 2566) ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ระหว่าง 21 พฤศจิกายน 2566 – 31 ธันวาคม 2575
จำนวนเงินลงทุน : ไม่จำกัดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ แต่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท (สำหรับการลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567) ในส่วนเงินลงทุนที่เกินจะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และกำไรที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนส่วนที่เกินสิทธิลดหย่อนจะถือเป็นรายได้ในปีที่ขายคืนที่ต้องนำไปคำนวณภาษี
กรณีผิดเงื่อนไขลงทุน : หากผิดเงื่อนไขการลงทุน หรือขายคืนก่อนครบกำหนด
- ผู้ลงทุนต้องคืนภาษีที่ได้รับยกเว้นทั้งหมดทันที พร้อมจ่ายเงินเพิ่มให้รัฐ 1.50% ต่อเดือน โดยคิดย้อนหลังตั้งแต่ เดือน เมษายนของปีที่เคยยื่นขอลดหย่อนภาษีไว้ จนถึงวันที่ยื่นคืนภาษี
- กำไรที่ได้จากการขายคืนถือเป็นรายได้ในปีที่ขายคืน ซึ่งต้องนำไปรวมคำนวณภาษีด้วย
👉 เงื่อนไขการลงทุนกองทุน ThaiESGX ที่ควรรู้
ระยะเวลาการถือครอง :
- สำหรับเงินลงทุนใหม่ ต้องถือครอง 5 ปีขึ้นไป นับจากวันที่ซื้อ
- สำหรับเงินที่สับเปลี่ยนมาจาก LTF ต้องถือครอง 5 ปีขึ้นไป นับจากวันที่แจ้งสับเปลี่ยนกองทุน LTF
ความต่อเนื่องในการลงทุน : ไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี
สิทธิลดหย่อนภาษี :
- สำหรับเงินลงทุนใหม่ สามารถนำไปลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ที่ สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท (ตั้งแต่ปี 2569 เงินลงทุนใน Thai ESGX จะใช้วงเงินเดียวกับ Thai ESG) โดยต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปีเต็ม นับจากวันที่ลงทุน
- สำหรับเงิน LTF ปี 2568 สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท และสำหรับปี 2569 – 2572 สามารถใช้สิทธิลดหย่อนเป็นจำนวนเท่าๆ กัน ในแต่ละปี สูงสุดปีละไม่เกิน 50,000 บาท ทั้งนี้หากมีการขายคืน/สับเปลี่ยนกองทุน LTF (ไม่ว่าจะเป็นสับเปลี่ยนไปยัง LTF อื่น) ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2568 จะไม่เข้าเงื่อนไขในการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
จำนวนเงินลงทุน : ไม่จำกัดเงินลงทุนขั้นต่ำ แต่ในส่วนเงินลงทุนที่เกินวงเงินลดหย่อนภาษีจะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และกำไรที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนส่วนที่เกินสิทธิลดหย่อนจะถือเป็นรายได้ในปีที่ขายคืนที่ต้องนำไปคำนวณภาษี
กรณีผิดเงื่อนไขลงทุน : หากผิดเงื่อนไขการลงทุน หรือขายคืนก่อนครบกำหนด
- ผู้ลงทุนต้องคืนภาษีที่ได้รับยกเว้นทั้งหมดทันที พร้อมจ่ายเงินเพิ่มให้รัฐ 1.50% ต่อเดือน โดยคิดย้อนหลังตั้งแต่ เดือน เมษายนของปีที่เคยยื่นขอลดหย่อนภาษีไว้ จนถึงวันที่ยื่นคืนภาษี
- กำไรที่ได้จากการขายคืนถือเป็นรายได้ในปีที่ขายคืน ซึ่งต้องนำไปรวมคำนวณภาษีด้ว
การเลือกกองทุนลดหย่อนภาษี ไม่ว่าจะเป็น RMF, Thai ESG หรือ Thai ESGX ควรดูทั้งเป้าหมายการเงินของตัวเอง และ เงื่อนไขที่กองทุนกำหนด สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องเข้าใจเงื่อนไขระยะเวลาการลงทุน วงเงินลดหย่อน ความต่อเนื่องในการลงทุน เพราะจะมีผลต่อการวางแผนภาษีและการเงินในระยะยาว
สุดท้ายนี้ ไม่มี “กองทุนที่ดีที่สุด” แต่มีเพียง กองทุนที่เหมาะสมที่สุดกับเป้าหมายของคุณ ไม่ว่าจะเพื่อเกษียณ ลดหย่อนภาษี หรือการลงทุนอย่างยั่งยืน
การลงทุน
กองทุน
ภาษี
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย