เมื่อวาน เวลา 11:00 • การตลาด

สรุปอินไซต์ คนยุคใหม่ เลือกซื้อของผ่าน 3-5 ช่องทาง เหตุผลที่แบรนด์ควรขาย บนหลายแพลตฟอร์ม จาก Meta

ล่าสุด Meta เพิ่งจัดงานอัปเดตข้อมูลในหัวข้อ “Omnichannel Optimization เพิ่มประสิทธิภาพช่องทางขายผ่าน AI เชื่อมโยงความสำเร็จทั้งออนไลน์และออฟไลน์”
โดยภายในงาน Meta ได้เปิดเผยถึงพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
พร้อมยกตัวอย่างเคสการใช้กลยุทธ์ช่องทางการขายแบบ Omni Channel หรือก็คือการขายสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ ของ Central
แล้วภายในงานจะมีอินไซต์ และกลยุทธ์อะไรน่าสนใจบ้าง ?
MarketThink สรุปมาให้เป็นข้อ ๆ
1. กลยุทธ์ Omni Channel คืออะไร ?
อธิบายง่าย ๆ ก็คือ การขายสินค้าในหลายช่องทาง ทั้งออนไลน์ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ และหน้าร้าน
โดยสิ่งสำคัญคือ ต้องมอบประสบการณ์การซื้อสินค้าในทุกช่องทางให้มีความใกล้เคียงกัน
ซึ่ง Central ได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ปรับใช้กลยุทธ์การขายแบบ Omni Channel ร่วมกับ Meta ส่งผลให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ว่าจะเป็น
- ยอดขายจากการขายสินค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เติบโตขึ้น 5.4 เท่า
- ยอดขายจากการขายสินค้าผ่านหน้าร้านเติบโตขึ้น 5.9 เท่า
- ยอดขายจากการขายสินค้าผ่านแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้น 4.9 เท่า
โดยกลยุทธ์การตลาดหลัก ๆ ที่ Central นำมาปรับใช้กับช่องทางการขายแบบ Omni Channel คือ
- สร้าง Customer Lifetime Value ผ่านสินค้า และการบริการเพื่อให้ลูกค้าไว้วางใจตลอดการใช้งาน
- Retail Innovation นำ AI มาใช้ในการสร้างสรรค์กลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- Omnichannel ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสินค้าได้ทุกช่องทางแบบไร้รอยต่อ
นอกจากนี้ คุณรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัลรีเทล ได้กล่าวเสริมว่า การนำเครื่องมือ Omni Channel จาก Meta มาประยุกต์ใช้ในแคมเปญโฆษณา
ช่วยให้สามารถ Optimize กลยุทธ์ในการทำงานได้อย่างประสิทธิภาพมากขึ้น จาก Multi-Channel tracking เป็น Omni Channel Tracking ซึ่งส่งผลให้สามารถวัดผลการเติบโตของธุรกิจได้ชัดเจน
2. อินไซต์มุมมองและพฤติกรรมของผู้บริโภค ในการเลือกซื้อสินค้าในช่องทางต่าง ๆ
- ผู้บริโภคใช้ช่องทางเฉลี่ย 3-5 ช่องทางต่อการซื้อสินค้าในแต่ละครั้ง และคาดหวังประสบการณ์การซื้อสินค้าที่ราบรื่นทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์
- 62% ของผู้บริโภคจะหยุดซื้อสินค้ากับแบรนด์ หากพบว่า ราคาสินค้าในช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์ของแบรนด์ต่างกันเกินไป
- 73% ของผู้บริโภคต้องการให้สินค้าทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางออฟไลน์มีความสัมพันธ์กัน และอัปเดตแบบเรียลไทม์
- 65% ของผู้บริโภคมองว่า หากแบรนด์มอบประสบการณ์ซื้อสินค้า ทั้งช่องทางออนไลน์ และหน้าร้านได้ดี ก็จะทำให้พวกเขาเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์มากขึ้น
- ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่า ลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากหลายช่องทางจะใช้จ่ายมากกว่าลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านช่องทางเดียวถึง 73%
โดยจากผลการสำรวจยังพบอีกว่า การเลือกใช้กลยุทธ์แบบ Omni Channel จะช่วยเพิ่ม ROI (ผลตอบแทนจากการลงทุน) ได้มากขึ้นถึง 34%
3. เครื่องมือจาก Meta ที่เข้ามาช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับช่องทางการขายแบบ Omni Channel
โดยเครื่องมือ Omni Channel ใหม่ จาก Meta จะเข้ามาช่วยยกระดับให้ผู้ขายสามารถเชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ, การสร้างประสบการณ์ซื้อสินค้า และสามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน
ซึ่งประโยชน์ของเครื่องมือจัดการการขายสินค้าแบบ Omni Channel ได้แก่
- ผู้ที่พบเห็นสินค้าจะสะดุดตากับโฆณามากขึ้น โดย AI จะเข้ามาช่วยแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้อง
- สามารถเชื่อมโยงประสบการณ์การซื้อสินค้าทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ได้ทันที
- มีตัวชี้วัดให้สามารถวัดผลการขายสินค้าในช่องทางต่าง ๆ ได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขายสามารถติดตามผลลัพธ์ได้ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพได้ตรงจุด
โดยผลลัพธ์จากการทดสอบเครื่องมือ Omni Channel จาก Meta พบว่า
- ช่วยลดต้นทุนต่อการซื้อ Omni Channel ลงได้ 15% เมื่อเทียบกับต้นทุนการซื้อสินค้าบนเว็บไซต์
- ช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) ได้ 21% เมื่อเทียบกับผลตอบแทนจากค่าโฆษณาบนเว็บไซต์
โฆษณา