Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชตระกูล ศรีสวัสดิ์
•
ติดตาม
25 ส.ค. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา
ทรัมป์เรียกเขาว่าเพื่อน แต่มัสก์กลับเรียกเขาว่า "งูพิษ"
ใครจะเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอินเดียคนใหม่กันหนอ....?
กลับไปเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าเพิ่มเติมอีก 25% จากอินเดีย
มันเป็นมุกเพื่อลงโทษอินเดียที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย แต่ก่อนที่ภาษีนำเข้าจะมีผลบังคับใช้ ทรัมป์ได้ประกาศแต่งตั้ง "เพื่อนที่แสนดี" ของเขาขึ้นมา ผ่าม ผ๊ามมมม...นั่นคือ....
เซอร์จิโอ กอร์(Sergio Gor) ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลประธานาธิบดีทำเนียบขาว วัย 38 ปี ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอินเดีย
2
ทรัมป์โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่าอินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
"ดังนั้นผมจึงจำเป็นต้องส่งคนที่ผมไว้ใจอย่างยิ่งมาช่วยผลักดันวาระของผมและทำให้สหรัฐอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง"
เขาเรียกกอร์ว่า "เพื่อนดี" ที่ "อยู่เคียงข้างผมมาหลายปี" ทรัมป์อวยผลงานของกอร์ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานบุคลากรประธานาธิบดีทำเนียบขาว
2
และกล่าวว่าเขาจะเป็นเอกอัครราชทูตที่ยอดเยี่ยมฝุดๆ
ที่มาของภาพ Real Social
นอกจากการเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอินเดียแล้ว
ทรัมป์ยังแต่งตั้งกอร์เป็นทูตพิเศษประจำเอเชียใต้และเอเชียกลางอีกด้วย แต่การที่จะเสนอชื่อกอร์เป็นเอกอัครราชทูตประจำอินเดียต้องได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาสหรัฐฯ ด้วย
เนื่องจากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา การอนุมัติของกอร์จึงแทบจะหริหรี่....
แน่นอนว่า กอร์ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอินเดียหรือเอเชียใต้มาก่อน
1
ก่อนที่จะเข้าร่วมทีมหาเสียงของทรัมป์ เขามีบทบาททางการเมืองของพรรครีพับลิกัน
และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายคนโตของทรัมป์
กอร์เกิดในปี 2529 ที่สำคัญในพื้นที่ซึ่งในขณะนั้นคือ อุซเบกิสถานของสหภาพโซเวียต
2
และย้ายมาอยู่ที่มอลตาพร้อมกับครอบครัวในปี 2537 เขาเรียนที่โรงเรียนชายล้วนคาทอลิกในเมืองคอสปิคัว ประเทศมอลตา
และอพยพไปยังสหรัฐอเมริกาพร้อมกับครอบครัวในปี 2542 เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีศิลปศาสตร์จากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน
ขณะศึกษาในวิทยาลัย เขาได้เข้าร่วมพรรครีพับลิกันและก่อตั้งองค์กรอนุรักษ์นิยม Young America's Foundation (YAF) ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน
หลังจากสำเร็จการศึกษา กอร์ได้เข้าสู่วงการการเมืองของพรรครีพับลิกันอย่างเต็มตัว
ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาปี 2551 เขาสนับสนุนจอห์น ซิดนีย์ แมคเคน ที่ 3
โดยสมาชิกวุฒิสภารัฐแอริโซนาและสมาชิกพรรครีพับลิกันรุ่นเฮฟวี่เวท ผ่านการส่งเสริมแมคเคนในกลุ่มคาทอลิก
กอร์เคยทำงานที่คณะกรรมการแห่งชาติของพรรครีพับลิกัน เขาทำหน้าที่เป็นโฆษกให้กับสมาชิกสภานิติบัญญัติพรรครีพับลิกันหลายคน
และยังเคยเป็นผู้จัดการของ นีล คาวูโต ผู้ประกาศข่าวฝ่ายอนุรักษ์นิยมของ Fox News
ในปี 2556 เขาได้เข้าร่วมทีมงานของแรนด์ พอล สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันจากรัฐเคนทักกี และในที่สุดก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน
ในปี 2563 กอร์ได้ตัดสินใจลาออกเพื่อเข้าร่วมทีมหาเสียงของทรัมป์ โดยเข้าร่วมคณะกรรมการการเงินเพื่อชัยชนะของทรัมป์ ซึ่งเป็นองค์กรระดมทุนของทรัมป์
และต่อมาได้เป็นประธานคณะกรรมการ ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งกรรมการ เขาได้พัฒนาความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์
โดยเป็นที่ปรึกษาและช่วยเหลือในการตีพิมพ์หนังสือของเขาชื่อ "Liberal Privilege"
ต่อมาทั้งสองได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทสิ่งพิมพ์ที่เชี่ยวชาญด้าน(หนังสือ)อนุรักษ์นิยม
และในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2567 กอร์จึงได้ดูแล Right for America
แต่ Right for America ไม่ใช่ศัพท์เฉพาะที่มีความหมายเดียวนะครับ มันสามารถตีความได้หลายอย่าง ขึ้นอยู่กับบริบท
โดยอาจหมายถึง สิทธิของพลเมืองอเมริกันตามรัฐธรรมนูญ (เช่น เสรีภาพในการพูด เสรีภาพทางศาสนา)
1
หรือ หลักการและค่านิยมที่ถูกต้องเหมาะสมสำหรับชาวอเมริกัน เช่น ความฝันแบบอเมริกัน (American Dream) หรือที่สำคัญสุดๆ...
1
อาจหมายถึง นโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" (America First) ที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เป็นอันดับแรก
1
นี่เป็นซูเปอร์แพคที่สนับสนุนทรัมป์ โดยระดมทุนให้กับทีมหาเสียงของทรัมป์
หลังจากทรัมป์กลับเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี กอร์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานบุคลากรประธานาธิบดีทำเนียบขาว
ซึ่งรับผิดชอบในการตรวจสอบการแต่งตั้งบุคลากรภาครัฐประมาณ 4,000 คน
ที่ผมไม่อาจไม่เขียนถึงก็ คือ อีลอน มัสก์ ผู้ประกอบการชาวอเมริกัน ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายประสิทธิผลของรัฐบาล
พวกเขาได้ตบตี เฮ้ยยย ได้มีปากเสียงกับกอร์อยู่หลายครั้ง
2
เกี่ยวกับปัญหาการจัดการบุคลากร ความไม่พอใจของมัสก์ที่มีต่อกอร์ถึงขีดสุด
ก็เมื่อถึงตอนที่ จาเร็ด ไอแซคแมน ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้บริหารนาซา ถูกถอนชื่อ เพราะมัสก์เสียหน้าจากการแนะนำการเสนอชื่อของไอแซคแมนเป็นอย่างมาก
แต่ทรัมป์ก็ได้ถอนชื่อ(จริงๆ)ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่ากอร์ได้ยื่นรายงานถึงทรัมป์
ซึ่งสำแดงให้เห็นถึงการบริจาคเงินก่อนหน้านี้ของไอแซกแมนให้กับพรรคเดโมแครต หลังจากลาออกจากตำแหน่งในกรมประสิทธิผลของรัฐบาล
มัสก์ก็เริ่มแสดงความไม่พอใจกอร์ต่อสาธารณชน
ต่อมาในเดือนมิถุนายน พีท เบเกอร์ นักข่าวชาวอเมริกัน โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียวิจารณ์ กอร์ ผู้รับผิดชอบตรวจสอบบุคลากรของรัฐบาล
1
ที่ไม่ยื่นเอกสารรับรองความปลอดภัยของเขา มัสก์ จึงได้ทีตอบโต้โพสต์ดังกล่าวว่า "เขาเป็นงูพิษ"
แม้มัสก์จะดูถูกเหยียดหยาม แต่ กอร์ก็ถือว่าเป็นคนแบบเดียวกับทรัมป์ ฮาาาา
และนักวิเคราะห์ชาวอินเดียเชื่อว่าการที่ทรัมป์เสนอชื่อกอร์เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอินเดียนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสารที่สามารถสะท้อนจุดยืนของทรัมป์ได้อย่างเต็มที่
ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และอินเดียเริ่มตึงเครียดมากขึ้น เนื่องจากการเจรจาการค้าที่ยังไม่ลงตัว
และแรงกดดันจากสหรัฐฯ ต่ออินเดียไม่ให้ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
เพื่อตอบโต้คำวิจารณ์ของทรัมป์ รัฐบาลอินเดียปฏิเสธที่จะประนีประนอมและประกาศอย่างชัดเจนว่าจะยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซียต่อไป.. ฮาาาาา
2
เดิมทีคณะผู้แทนสหรัฐฯ มีกำหนดเดินทางเยือนอินเดียระหว่างวันที่ 25-29 เพื่อเจรจาการค้าต่อ แต่การเดินทางดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปแล้ว
1
ต่อมา เมื่อสหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษีนำเข้าอินเดียเพิ่มอีก 25% ภาษีนำเข้าสินค้าอินเดียโดยรวมจะสูงถึง 50%
ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราที่สูงที่สุดในบรรดาคู่ค้าของสหรัฐฯ
ลาลฮาน ประธานสหพันธ์องค์กรส่งออกอินเดีย (FIEO) จึงออกมาเตือนว่าอัตราภาษีนำเข้า 50% ของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการส่งออกของอินเดีย
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของสมาชิก FIEO ไปยังสหรัฐฯ เกือบ 55%
1
สอดคล้องกับ นักวิเคราะห์จาก Capital Economics บริษัทวิจัยเศรษฐกิจของอังกฤษ คาดการณ์เมื่อวันที่ 22 ว่า หากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้
การเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียจะลดลง 0.8% ในปีนี้และยาวๆไปจนถึงปีหน้า
สุพราห์มนยัม ไจชังการ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ก็ออกแถลงเมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมาเช่นกันว่า
การเจรจาการค้าระหว่างอินเดียและสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไป
แต่มีประเด็นสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้ นั่นคือผลประโยชน์ของเกษตรกรและผู้ผลิตรายย่อยของอินเดีย
1
สหรัฐอเมริกา
ข่าวรอบโลก
รัสเซียยุโรป
บันทึก
11
8
5
11
8
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย